ในขณะที่ประเด็นเรื่องความเท่าเทียมกันของชาติพันธุ์และสีผิวเป็นเรื่องที่คนทั้งโลกรณรงค์อย่างมาก แต่สำหรับประเทศสเปน กลับเกิดปรากฏการณ์ช็อกโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อมีบริษัทผู้ให้บริการไปรษณีย์อย่าง Correos สร้างแคมเปญที่ตรงข้ามกับทิศทางดังกล่าวแบบโนสนโนแคร์
สิ่งที่ Correos ทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียตกตะลึงก็คือการเปิดตัว “Equality Stamps” ที่พวกเขาออกแบบให้มันมีราคาไม่เท่ากัน ยิ่งแสตมป์มีสีเข้มเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น โดยแสตมป์สีอ่อนที่สุดมีราคาอยู่ที่ 1.60 ยูโร ในขณะที่ราคาของสีเข้มที่สุดมีราคาเพียง 0.70 ยูโร น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของราคาแสตมป์ที่แพงที่สุดกันไปเลย
บริการไปรษณีย์รู้อยู่แล้วว่าคอลเลกชันที่ออกมานี้จะทำให้ผู้ชมไม่พอใจ เนื่องจากมีการพยายามอธิบายว่าแคมเปญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้คนให้คุณค่ากับคนอื่น ๆ จากสีผิวเพียงอย่างเดียว ดังนั้นตราประทับที่ขาวที่สุดจึงมีค่าที่สุดเพื่อสะท้อนสังคม
นอกจากนี้ Correos ยังเผยด้วยว่า พวกเขาต้องการสะท้อนให้เห็นถึง “ความจริงที่ไม่ยุติธรรมและเจ็บปวดที่ไม่ควรมีอยู่จริง” ผ่านการที่ผู้บริโภคต้องซื้อแสตมป์สีดำจำนวนมากกว่าแสตมป์สีขาวต่อการจัดส่งหนึ่งครั้งนั่นเอง
En Correos creemos que el valor de una persona no debería tener color, por eso lanzamos #EqualityStamps: una colección de sellos en la que cuanto más oscuro sea el color del sello, menor valor tendrá. Reflejando así una injusta y dolorosa realidad que no debería existir.
— Correos (@Correos) May 25, 2021
ซีรีส์แสตมป์นี้เปิดตัวพร้อมกับ Spanish Federation of SOS Racism เพื่อเป็นเกียรติแก่เดือนแห่งความหลากหลายของยุโรป และเป็นการร่วมไว้อาลัยให้กับการเสียชีวิตอย่างไม่ยุติธรรมของ จอร์จ ฟลอยด์ด้วย อย่างไรก็ดี ในอีกด้าน ก็เกิดการตั้งคำถามตามมามากมาย ว่าไอเดียนี้ได้รับอนุมัติจากผู้บริหารมาได้อย่างไร
ตามรายงานของ CNN แสตมป์เซ็ตนี้ถูกลบออกไปเพียงสามวันหลังจากการเปิดตัว ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Correos บอกว่า บริษัทไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ ต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี แสตมป์ของ Correos อาจกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาเชิงบวกต่อการรณรงค์ด้านความเท่าเทียมได้ หากบิดไอเดียเพียงเล็กน้อยด้วยการออกแบบให้ราคาบนหน้าแสตมป์มีมูลราคาเท่ากัน มิเช่นนั้น ไอเดียของพวกเขาก็ไม่ต่างจากสิ่งที่ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า “การทำให้ตราประทับสีขาวมีค่าที่สุดนั้นขัดแย้งกับความพยายามต่อสู้กับการเหยียดสีผิว” นั่นเอง