หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา “7-Eleven Inc.” สหรัฐอเมริกา ได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการร้านสะดวกซื้อ “Speedway” ของบริษัท Marathon Petroleum Corp. จำนวนกว่า 3,900 สาขาใน 36 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ทำให้ Business Portfolio เชนค้าปลีกในเครือ 7-Eleven Inc. มีสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 แห่งในสหรัฐฯ และแคนาดา จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ 7-Eleven Inc. ในฐานะผู้นำเชนร้านสะดวกซื้อในสหรัฐฯ
เวลานั้น Joe DePinto, ประธาน และซีอีโอของ 7–Eleven Inc. ได้กล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้น และยินดีต้อนรับ Speedway เข้าสู่ครอบครัว 7-Eleven โดยเชนร้านสะดวกซื้อ Speedway จะช่วยขยายฐานธุรกิจบริษัทฯ ทั่วอเมริกาเหนือ
“Speedway เป็นแบรนด์ที่ดี และเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของธุรกิจเรา ในการขยายฐานธุรกิจทั่วอเมริกาเหนือ โดยทั้ง 7-Eleven และ Speedway จะร่วมกันแบ่งปัน Best Practice ให้แก่กัน ทั้งด้านการส่งมอบสินค้า และโปรโมชั่นตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ การควบรวมธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพาร์ทเนอร์ธุรกิจร่วมกัน”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด “คณะกรรมการด้านการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา” (U.S. Federal Trade Commission) หน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการค้า มีคำสั่งให้ “7–Eleven Inc.” ขายร้านสะดวกซื้อ Speedway ที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามา จำนวน 293 แห่งใน 20 รัฐ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าการซื้อกิจการดังกล่าว ละเมิดกฎหมายต้านการผูกขาด (Antitrust Law) ของรัฐบาลกลาง เพราะจะทำให้ทางเลือกของผู้บริโภคลดลง
ภายใต้คำสั่งของคณะกรรมการด้านการค้าแห่งสหรัฐอเมริกาสั่งให้ 7-Eleven Inc. ขายร้านค้าปลีกจำนวน 124 สาขาให้กับ “Anabi Oil” แบ่งเป็น สาขาของ Speedway 123 สาขา และ 7-Eleven จำนวน 1 สาขา ขายร้านค้าปลีก 106 สาขา ให้กับ “Cross America Partners” แบ่งเป็น สาขาของ Speedway 105 สาขา และ 7-Eleven 1 สาขา ขายร้าน Speedway จำนวน 63 สาขาให้กับ “Jacksons Food Stores”
Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand