ย้อนดูผลประกอบการ Johnson & Johnson, Moderna และ Pfizer สามบริษัทผู้ผลิตวัคซีน Covid-19 ยักษ์ใหญ่ของโลก แค่ไตรมาสแรกของปี ทั้งสามบริษัททำรายได้รวมกันแล้วกว่า 38,783 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายบริษัทพบว่า ผลประกอบการของ Johnson & Johnson ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัททำรายได้ไปทั้งสิ้น 22,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว (ไตรมาสแรกปีที่แล้ว ทำรายได้ไป 20,691 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ทั้งนี้ รายได้ของ Johnson & Johnson ประมาณ 50% มาจากในสหรัฐอเมริกา และอีกครึ่งหนึ่งมาจากตลาดโลก โดยรายได้หลักคือธุรกิจยาที่ทำไปถึง 12,199 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ทำรายได้ในอันดับสองที่ 6,579 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตัดมาที่ Pfizer บริษัทยาสัญชาติอเมริกัน ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 14,582 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 45% และคาดว่าผลประกอบการตลอดทั้งปี 2021 บริษัทอาจทำรายได้สูงถึง 70,500 – 72,500 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
จุดที่น่าสังเกตคือ เฉพาะในไตรมาสแรกของปี วัคซีน BNT162b2 ที่บริษัทร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง BioNTech ผลิตขึ้นก็ทำรายได้ไปถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว
ทางผู้บริหาร Pfizer ยังบอกด้วยว่า ถึงแม้ไม่นับรวมวัคซีน Covid-19 บริษัทก็ยังทำรายได้เติบโตถึง 8% อยู่ดี แถมปัจจุบัน วัคซีนดังกล่าวยังมีให้บริการแล้วในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
ในรายงานผลประกอบการของ Pfizer ยังเผยด้วยว่า บริษัทมีแนวโน้มจะทำเงินจากวัคซีนดังกล่าวได้ราว 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้เลยทีเดียว
ส่วนบริษัทสุดท้ายอย่าง Moderna นั้น ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้พบว่า บริษัททำรายได้ไปทั้งสิ้น 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ในไตรมาส 2 ของปีนั้น บริษัทคาดว่าจะส่งมอบวัคซีนได้ราว 200 – 250 ล้านโดส (ส่วนตัวเลขการส่งมอบวัคซีนตลอดทั้งปี 2021 บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 800 – 1,000 ล้านโดส และมีแผนจะขยายปริมาณการส่งมอบเป็น 3,000 ล้านโดสในปี 2022 ด้วย)
สำหรับมูลค่าของสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าในปี 2021 ที่ Moderna ได้ลงนามไว้แล้วนั้น พบว่ามีมูลค่าถึง 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (จำนวนนี้รวมยอดขายในไตรมาสแรกของปี 2021 เอาไว้แล้ว) ทั้งหมดนี้ทำให้ Moderna เข้าไปอยู่ในลิสต์ S&P 500 เป็นครั้งแรกเลยทีเดียว
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand