ในวันที่มีผู้ป่วยสะสม Covid-19 มากกว่า 400,000 คน และบุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ Covid-19 มากขึ้นเรื่อย ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวทางการทำ Home Isolation ได้ถูกหลายโรงพยาบาลหยิบขึ้นมาใช้งานอย่างเร่งด่วน โดยหวังว่าจะช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มของบุคลากรทางการแพทย์ลงได้
อย่างไรก็ดี การทำ Home Isolation ที่ไม่มีเทคโนโลยีคอยช่วยบริหารจัดการอาจหมายถึงความยุ่งยากในแง่ของคนทำงาน และอาจเป็นการเพิ่มงานเจ้าหน้าที่อย่างไม่ควรจะเป็น เห็นได้จากการเปิดเผยของสตาร์ทอัพสัญชาติไทย “ไดเอทซ์” (Dietz) ผู้พัฒนาระบบ Telehealth and Health Analytics ที่เผยว่า ระบบ Home Isolation ในปัจจุบันยังเป็นการส่งข้อมูลผ่าน LINE และมีเจ้าหน้าที่จดบันทึกข้อมูลด้วยกระดาษ ซึ่งในระยะยาว ไม่สามารถรองรับการดูแลคนไข้ที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
ส่วนจะลงทุนระบบ Telemedicine อย่างจริงจัง หลายโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐในต่างจังหวัดก็อาจไม่มีงบประมาณมากพอจะรับภาระค่าใช้จ่ายนี้ได้
เปิดให้ใช้ระบบฟรี
ในจุดนี้ ทาง Dietz จึงนำระบบ Dietz Telemedicine ของบริษัทออกมาเปิดให้ทางโรงพยาบาลใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งความต้องการของระบบในฝั่งโรงพยาบาลต้องการเพียง คอมพิวเตอร์ กล้อง ไมโครโฟน ที่ติดตั้งระบบไว้แล้ว เพื่อคุยกับคนไข้ ส่วนคนไข้ก็ต้องการเพียง ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด เพื่อรายงานผลกลับมายังโรงพยาบาลด้วยตนเอง
ทีม Dietz อธิบายว่า ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนในระบบสามารถบันทึกผลการติดตามอาการ อุณหภูมิ ระดับออกซิเจนในเลือด อาการ และสถานที่พักเข้าสู่ระบบได้ด้วยตัวเอง รวมถึงสามารถขอรับคำปรึกษาผ่านระบบแชท และวีดีโอคอลจากทีมแพทย์ได้ผ่าน Line OA ของโรงพยาบาล
ขณะที่ทีมแพทย์ พยาบาล สามารถติดตามอาการในแต่ละวัน ปรินท์ข้อมูลที่ผู้ป่วยส่งมาแนบเป็น Nurse note และ Vital Sign ได้โดยไม่ต้องจดมือเพิ่ม สามารถติดตามและสรุปยอดรวมผู้ป่วยที่ไม่มีอาการกับมีอาการ รวมถึงการแบ่งเกณฑ์และทำสีเตือนกรณีผู้ป่วยมีภาวะร่างกายผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ทีมงาน Dietz บอกว่าระบบของบริษัทนั้นสามารถติดตั้งและพร้อมใช้งานได้ภายในหนึ่งวัน และปัจจุบันมีโรงพยาบาลในประเทศไทยใช้งานแล้วประมาณ 50 ราย (ข้อมูลเมื่อ 17 กรกฎาคม 2021) โดยโรงพยาบาลที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0813186700, 0868017204 หรือ www.dietz.asia