คาเฟ่ และร้านอาหารกลุ่มธุรกิจที่อาจจะต้องใช้คำว่า “หืดขึ้นคอ” กับสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา และยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่านไป หลายธุรกิจอาจจะต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด เปลี่ยนจากการขายหน้าร้านมาเป็นรูปแบบการส่งทางเดลิเวอรี่มากขึ้น หรือบางร้านอาจจะต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตหนักก็ถึงขั้นเลิกกิจการไปไม่น้อย
แต่ท่ามกลางวิกฤตหนัก ยังมีหนึ่งธุรกิจที่เลือกจะสร้างความท้าทายให้กับตนเองด้วยการเปิดธุรกิจในช่วงที่เลวร้ายที่สุด แถมยังสามารถสร้าง Awareness ให้ผู้คนต้องมา Check-in ที่นี่ดูสักครั้ง จนทำให้ธุรกิจนี้สามารถยืดหยัดท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ได้ วันนี้ BRAND BUFFET จะชวนไปเรียนรู้แนวคิดจากสองหุ้นส่วนจากร้าน “FICs” ที่มาในคอนเซปท์คาเฟ่สุดชิค “คุณบาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” และ “คุณขิม – จุฬารัตน์ หาญรุ่งโรจน์”
FICs คืออะไร ?
ตึกสูง 4 ชั้นที่ดูเผินๆ ภายนอกอาจจะเหมือนโรงภาพยนตร์ยุค 80 ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางซอยสุขุมวิท 31 แต่เมื่อได้เข้าไปแล้วที่นี่กลับไม่ใช่โรงภาพยนตร์ แต่คืออาคารที่ประกอบไปด้วย “คาเฟ่” “ร้านขายโปสเตอร์” และ “production house” ที่ทั้งหมดคุม theme อยู่ใน concept “ภาพยนตร์” ซึ่งต้นทางของไอเดียนี้เริ่มมาจาก “คุณบาส – นัฐวุฒิ” ร่วมกับหุ้นส่วนอีก 4 คนก็คือ คุณขิม – จุฬารัตน์, คุณจูนจูน – พัชชา เฮงษฎีกุล, คุณจ๋า – แพรว พูนพิริยะ, คุณปรีดี เฮงษฎีกุล และคุณแมน – อมรเทพ นิลเทพ โดยจุดเริ่มต้นของ ‘FICs’ นั้นไม่ได้เริ่มจากหน้าฉากที่หลายคนเข้าใจว่าเป็น “คาเฟ่” แต่กลับเริ่มต้นที่ “ร้านขายโปสเตอร์”
“ร้านโปสเตอร์นี้เป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่างของ FICs มันเริ่มมาจากร้านขายโปสเตอร์ออนไลน์ แล้วจึงได้เริ่มคิดขยายต่อสิ่งต่างๆเพิ่มเข้ามาให้ครบสมบูรณ์มากขึ้น” คุณขิมกล่าว
จากความชอบ สู่การต่อยอดเป็นธุรกิจ
แม้ว่าคุณบาสจะเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้กำกับหนังที่มีชื่อเสียงจากเรื่อง “ฉลาดแกมโกง” แต่คอนเซปท์ของความเป็นภาพยนตร์ของ FICs ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ แต่เกิดจากความสนใจภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่หลงใหลนั่นก็คือ “โปสเตอร์หนัง” ที่เริ่มสะสมมาเรื่อยๆ และเริ่มมาจริงจังมากขึ้นหลังจากได้เดินทางท่องเที่ยว และได้มีโอกาสไปซื้อสะสมมาจากที่ต่างๆ จนกระทั่งมีการระบาดของ COVID-19 ครั้งแรก จึงได้ลองนำโปสเตอร์ที่สะสมนำมาขายทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม จึงกลายมาเป็นร้าน “Poster District” บริเวณชั้นสามของ FICs และขยายต่อยอดมาเป็น Concept Café บริเวณชั้น 2 ของตึก ด้วยแนวคิดการทำร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพิพิธภัณฑ์
“คุณขิม – จุฬารัตน์ หาญรุ่งโรจน์” และ “คุณบาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ”
“เวลาเราไปพิพิธภัณฑ์ หรือชมงานนิทรรศการต่างๆ ก็จะมีคาเฟ่ หรือร้านขายของที่ระลึกให้คนเยี่ยมชมได้มาดูก่อนที่จะเข้าชมงาน เราก็อยากให้คนที่มา FICs ได้รับบรรยากาศแบบนั้น โดยการมานั่งดื่มที่คาเฟ่ แล้วค่อยขึ้นไปเยี่ยมชม หรือเลือกซื้อโปสเตอร์ที่เราจัดแสดงไว้” คุณบาสกล่าว
“POSTER DISTRICT” ร้านขายโปสเตอร์เล็กๆ ที่รายได้ไม่เล็กอย่างที่คิด
ธุรกิจการขายโปสเตอร์อาจจะดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายๆ คน แต่คุณบาสได้เปิดเผยว่าจริงๆ แล้วธุรกิจการขายโปสเตอร์ค่อนข้างมีมานาน แต่มาได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงสถานการณ์ COVID-19 อาจจะเป็นเพราะคนจำเป็นต้องอยู่ติดบ้านมากขึ้น สนใจในการตกแต่งที่อยู่อาศัยมากขึ้น “โปสเตอร์” จึงกลายมาเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตกแต่งบ้าน ซึ่งโปสเตอร์ที่ Poster District จะมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะจะเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่ใช้การโปรโมทภาพยนตร์ในช่วงนั้นจริงๆ ไม่มีการ Reprint หรือใช้ดีไซน์ที่เป็น Fan Art มาจำหน่าย และหลายๆ ใบก็ถือเป็น Rare item ที่หาได้ยาก
อย่างเช่นโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง “blow – up” จากยุค 60s หรือจะเป็นโปสเตอร์เรื่อง pulp fiction ที่เป็นเวอร์ชันลายเส้นที่ราคาสูงถึง 15,000 บาทเลยทีเดียว โดยช่วงราคาของโปสเตอร์จะเริ่มต้นตั้งแต่ 250 บาท ในขนาด Handbill และราคาขึ้นไปสูงสุดจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการหา และความนิยมของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ โดยกลุ่มลูกค้าก็มาจากสองทาง นั่นคือลูกค้าที่มาจากการซื้อทางออนไลน์ และลูกค้าที่มาที่หน้าร้าน ซึ่งรายได้ในการขายโปสเตอร์ในแต่ละเดือนนั้น ถึงแม้คุณบาสจะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขอย่างแน่ชัด แต่จากประโยคที่ว่า “สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด และทำให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้” ก็คาดได้เลยว่า Poster District น่าจะสร้างรายได้ให้กับ FICs ไม่น้อยทีเดียว
“FICs café” ส่วนเติมเต็มที่ขาดไม่ได้
ส่วน FICs café เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งแบบ INSTAGRAMABLE ที่ถ่ายรูปสวยได้ทุกมุม ซึ่งเกิดมาจากความบังเอิญในการมองสิ่งต่างๆ เป็นเฟรมภาพด้วยสายตาผู้กำกับของคุณบาส เลยทำให้การตกต่างร้านในแต่ละมุมเหมือนตรงจุดรู้ใจคนชอบถ่ายภาพ ประกอบด้วยการตกแต่งด้วยการถอดองค์ประกอบของโรงภาพยนตร์บางอย่าง มาผนวกเข้ากับความ Minimal จึงทำให้ภาพรวมการตกแต่งออกมาเข้ากันอย่างลงตัว
โดยเครื่องดื่มของ FICs café นอกจากความพิเศษในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพแล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องดื่ม Signature Drink ที่ตั้งชื่อตามภาพยนตร์ชื่อดังทั้ง Amelie, Lost in Translation, Blue is warmest color หรือ Call me by your name ซึ่งไม่ใช่แค่การดึงชื่อของภาพยนตร์ดังมาเท่านั้น แต่ยังดึงเอาจุดเด่น หรือเรื่องราวในภาพยนตร์ให้ลงมาอยู่ในแก้วได้อีกด้วย
อีกส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับ FICs café ก็คือของ Merchandise ที่ทางร้านออกแบบและผลิตเองโดยการดึงเอา Element ของภาพยนตร์เรื่องต่างๆ มาออกแบบเป็นเสื้อยืด กระเป๋าผ้า แก้วกาแฟ และสิ่งของอื่นๆเพื่อดึงดูดให้ผู้ที่แวะเวียนเข้ามาที่คาเฟ่ได้ช้อปติดมือกลับบ้านกันไป ซึ่งของแต่ละชิ้นถูกออกแบบเป็นคอลเลคชั่นที่มีจำนวนจำกัด ยิ่งช่วยกระตุ้นความต้องการในการซื้อและถือเป็น “คุณค่าทางใจ” ของผู้ที่สะสมได้อีกด้วย
“จริงๆ แล้วลูกค้าที่มาที่คาเฟ่เป็นลูกค้าหลักของ POSTER DISTRICT ด้วยเช่นกัน เพราะจริงๆ ผมขายออนไลน์อยู่แล้ว ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเปิดหน้าร้านขนาดนั้น แต่ผมเชื่อว่าการได้มาลองจับ ลองดู มันมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ และการตัดสินใจเปิด café ก็ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆมากขึ้น จากที่บางคนไม่ได้สนใจโปสเตอร์หนังเลย พอได้มาดู ได้เจอเรื่องที่ชอบ ดีไซน์ที่ใช่ ก็ตัดสินใจซื้อกลับบ้านได้ไม่ยาก” คุณบาสกล่าวเพิ่มเติม
ก้าวต่อไปของ FICs
แน่นอนว่าการทำธุรกิจจะต้องไม่หยุดพัฒนาหากว่าเรายังต้องการอยู่ในธุรกิจไปได้เรื่อยๆ ก้าวต่อไปของ FICs ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งการเพิ่ม “ขนม” เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของผู้ที่มาที่ FICs café การเพิ่ม Merchandise ต่างๆ ที่น่าสนใจ และยังมีการร่วมมือกับเครื่องหอมแบรนด์ไทยที่จะออกคอลเลคชันพิเศษร่วมกับทางร้าน และแผนในอนาคตข้างหน้าที่มองว่าที่นี่จะไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่ หรือร้านขายโปสเตอร์เพียงเท่านั้น แต่ที่นี่มีหมุดหมายในการเป็น Community สำหรับคนที่รักและสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ โดยอาจจะเพิ่มกิจกรรมต่างๆ การจัดนิทรรศการ หรืออาจจะเป็นงาน Talk สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับ Community แห่งนี้ และสามารถต่อยอดการสร้างรายได้กับกลุ่มคนเหล่านี้ได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีแผนในการทำโรงภาพยนตร์ Outdoor บริเวณชั้นดาดฟ้าของตึกเปิดให้ผู้สนใจได้มาชมภาพยนตร์ไปด้วยกันได้ด้วย
“ต้องยอมรับว่าการลงทุนกับที่นี่เราลงทุนไปไม่น้อย แต่การ Spending ของลูกค้าต่อหัวก็อาจจะไม่ได้สูงมากนัก เราจึงมองว่าอาจจะใช้ระยะเวลา 2 ปีในการจะคืนทุนทั้งหมด เราจึงพยายามมองหาสินค้าอื่นๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มในร้าน และมองภาพไกลของ FICs ไว้เป็น Community ของคนที่รักและสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ได้เข้ามาใช้เวลาที่นี่ได้ และมีความสุขกับมัน” คุณบาสและคุณขิมกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปเยี่ยมชม Concept Café แห่งใหม่ใจกลางกรุง ที่เหมือนยกโรงภาพยนตร์ยุค 80 มาตั้งไว้ในซอยสุขุมวิท 31 โดยโซนคาเฟ่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07.30 – 17.30 น. และร้าน Poster District เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เวลา 10.00 – 19.30 น. (ช่วงนี้ Take Away เท่านั้น)
รายละเอียดเพิ่มเติม FICs https://www.facebook.com/fics31
Photo : FICs