HomeBrand Move !!เปิด Data “โรบินฮู้ด” แคมเปญส่งฟรี เร่งสปีดโตแรง! และเคล็ดลับจะเป็นร้านขายดีต้องทำอย่างไร ?

เปิด Data “โรบินฮู้ด” แคมเปญส่งฟรี เร่งสปีดโตแรง! และเคล็ดลับจะเป็นร้านขายดีต้องทำอย่างไร ?

แชร์ :

Robinhood Application_SCB

เพิ่งเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม Food Delivery “โรบินฮู้ด” (Robinhood) ภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือ SCB 10X มาได้เกือบ 1 ปี (เปิดตัว 26 ตุลาคม 2563) แม้จะมาทีหลัง แต่สร้างความแตกต่างจากแพลตฟอร์ม Food Aggregator คือ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

– โฟกัสร้านอาหารขนาดเล็กได้มีโอกาสให้บริการ Online Food Delivery

– ไม่เก็บ GP หรือค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม ซึ่งค่า GP เป็นหนึ่งใน Pain Point ของผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยเฉพาะขนาดกลาง – เล็ก และผู้บริโภคเช่นกันที่ต้องจ่ายค่าอาหารเพิ่มขึ้น

นอกจากสร้างความต่างนับตั้งแต่เปิดตัวแพลตฟอร์มแล้ว กระแสของ “โรบินฮู้ด” เป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อทำแคมเปญ “ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์” เป็นเวลา 4 อาทิตย์ ตั้งแต่ 11 กรกฎาคม – 2 สิงหาคมที่ผ่านมา กลายเป็นว่าแคมเปญนี้เข้ามา “ปลดล็อค” ความกังวล ทั้งในฝั่งผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้บริโภค เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า คนไทยอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 มาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความอ่อนแรงทั้งธุรกิจ SME ร้านค้าต่างๆ ที่ต้องเจอทั้งมาตรการรัฐ และการแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในขณะที่ผู้บริโภค กำลังซื้อซบเซาอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตามการทำ “ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์” ทางโรบินฮู้ดยอมรับว่า ในช่วงแรกๆ ที่ทำแคมเปญ ยังมีไรเดอร์น้อย ส่งผลให้เมื่อแพลตฟอร์มมียอดออเดอร์เข้ามาเยอะๆ โดยเฉพาะในช่วง Peak Time คือ ช่วงเที่ยง และช่วงมื้อเย็น ทำให้ไรเดอร์ไม่เพียงพอ ผู้ใช้งานจึงต้องพยายามสั่งออเดอร์หลายรอบ ถึงจะเจอไรเดอร์

ถึงแม้การให้บริการของแพลตฟอร์มจะไม่ราบรื่น แต่ผลจากการทำแคมเปญดังกล่าว สร้าง Win – Win – Win ให้กับทั้งแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดเอง – ร้านอาหาร โดยเฉพาะรายเล็ก – ลูกค้าผู้ใช้งาน และไรเดอร์

โดยแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างขึ้น และสร้าง Ecosystem แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งจากจำนวนร้านค้าที่เข้ามา ฐานผู้ใช้งาน และการเพิ่มขึ้นของไรเดอร์ รวมทั้งได้ Data และสร้าง Brand Love ทั้งในฝั่งร้านอาหาร และผู้บริโภค

ขณะที่ล่าสุดทำแคมเปญ “เหมาจ่ายค่าส่งอัตราพิเศษ 5 กิโลเมตรแรก 10 บาท” เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 – 16 สิงหาคม 2564

Robinhood Application_SCB

 

10 Insights น่ารู้ แอปฯ โรบินฮู้ด โตขนาดไหนแล้ว ?!?  

“เพอร์เพิล เวนเจอร์ส” ได้เปิด Insights โรบินฮู้ดที่น่าสนใจ มาดูกันว่าเติบโตอย่างไร ?!?

1. ในช่วง 4 สัปดาห์ของการทำแคมเปญ ยอดออเดอร์อาหารจากเดิมอยู่ที่ 20,000 กว่าออเดอร์ต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ออเดอร์ต่อวัน หรือโต 7 – 8 เท่า

2. จำนวนร้านอาหารที่เข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์ม เพิ่มป็น 150,000 ร้าน โดย 90% เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 55,000 ร้าน (จำนวนร้านค้าหลังจากเปิดให้บริการมา 88 วัน)

3. ฐานลูกค้าผู้ใช้งาน เพิ่มจาก 1 ล้านราย ใกล้แตะ 2 ล้านราย

4. จำนวนไรเดอร์เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ปัจจุบันอยู่ที่ 26,000 คน ในจำนวนนี้เป็นไรเดอร์แอคทีฟ 14,000 คน โดยขณะนี้เร่งเพิ่มไรเดอร์ และมีการเทรนนิ่งออนไลน์ให้กับไรเดอร์ทุกวัน วันละ 2,000 ราย เพื่อให้เพียงพอต่อออเดอร์ที่เข้ามา

5. โซนที่มีคนออเดอร์มากที่สุดมา ทั้งก่อนล็อคดาวน์​ และในช่วงล็อคดาวน์ คือ 1. เขตจตุจักร 2. ลาดพร้าว 3. วัฒนา

เนื่องจากทั้ง 3 โซนนี้ มีร้านอาหารหนาแน่น เป็น Residential Area และเป็นย่านออฟฟิศ แม้เวลานี้ผู้คนส่วนใหญ่จะ Work From Home ก็ตาม แต่ในช่วงไม่ได้ล็อดดาวน์​ และคนทำงานเข้าออฟฟิศตามปกติ ทั้ง 3 โซนนี้ ก็ยังเป็นพื้นที่ที่มียอดสั่งอาหารเยอะสุดบนแอปฯ โรบินฮู้ด

Robinhood Application_SCB

6. Top 3 อาหารได้รับความนิยมบนแอปฯ โรบินฮู้ดคือ 1. แซลมอน 2. อาหารประเภทยำ และ 3 กาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ

7. ช่วงเวลาที่คนใช้โรบินฮู้ดเยอะ หรือช่วง Peak Time อยู่ที่ช่วง 10.30 – 13.30 น. และ 16.30 – 19.30 น.

แตกต่างจาก Peak Time ของแพลตฟอร์ม Food Delivery อื่น อยู่ที่ 11.00 – 12.00 น. และช่วงเย็นตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป

เหตุผลที่ทำให้ Peak Time ของโรบินฮู้ดต่างจากแพลตฟอร์มอื่น เนื่องจากทำโปรโมชันช่วง Off Peak หรือช่วงคนสั่งอาหารน้อยด้วย ตัวอย่างเช่น

โปรโมชั่นที่นอกเหนือจากช่วง Peak Time ตั้งแต่ 11.00 – 14.00 น. และ 17.00 – 19.00 น. คิดค่าส่ง 9 บาท เนื่องจากต้องการให้ร้านอาหารสามารถขายได้ในทุกช่วงเวลา ไม่กระจุกตัวช่วงกลางวัน และเย็นเท่านั้น ยิ่งตอนนี้มีโปรโมชันค่าส่ง 10 บาท ต่อระยะทาง 5 กิโลเมตร เป็นการเพิ่มโอกาสการรับออเดอร์ของร้านอาหารได้ทุกช่วงของวัน ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ จึงทำให้สถิติช่วงเวลาการสั่งอาหารบนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น

Robinhood Application_SCB

8. ปริมาณการสั่งอาหาร และยอดการใช้จ่ายค่าอาหารในวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ สูงกว่า 4 วันธรรมดา โดยยอดบิลอยู่ที่ 300 ไปจนถึง 1,000 บาทต่อออเดอร์

Insights มาจากในวันศุกร์ เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์การทำงาน ทำให้เขาอยากพักผ่อนช่วงเย็นเต็มที่ ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ เป็นวันที่อยู่กับบ้าน และใช้เวลากับครอบครัว

ดังนั้นเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในการทำโปรโมชันเฉพาะ 3 วันนี้ เช่น ทำโปรโมชัน Combo Set เพื่อตอบโจทย์การรับประทานอาหารแบบกลุ่ม หรือแบบครอบครัว

9. โซนที่มีคนออเดอร์มากที่สุดในวันเสาร์ – อาทิตย์คือ จังหวัดนนทบุรี โซนธนบุรี ลาดกระบัง และรังสิต ซึ่งเป็นย่าน Residential Area

10. ด้วยความที่โรบินฮู้ด ไม่ได้มีการขายพื้นที่โฆษณาเหมือนเช่นแพลตฟอร์มอื่น ดังนั้นร้านอาหารที่จะปรากฏในหน้าแรกของแอปฯ โรบินฮู้ด ขึ้นอยู่กับ

พฤติกรรมลูกค้าเคยสั่งอาหารจากร้านไหน ร้านนั้นจะปรากฏที่หน้าแรก

ร้านที่เข้าร่วมโปรแกรม LS (Logistic Subsidy) คือ ร้านอาหารที่ให้ส่วนลดกับลูกค้าโดยตรง ทางโรบินฮู้ดจะเอาร้านนั้นขึ้นหน้าแรก ซึ่งการให้ส่วนลดกับลูกค้า จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออาหารจากร้านนั้นๆ อีก และช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้า

– ผู้ประกอบการต้องทำ Digital Marketing ด้วย เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค นำมาสู่การค้นหาร้านค้าในแพลตฟอร์ม และเมื่อลูกค้าออเดอร์อาหาร ก็จะปรากฏอยู่ในประวัติการออเดอร์ ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ร้านนั้นปรากฏอยู่หน้าแรกของแอปฯ

นอกจากการขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลในประเทศแล้ว Roadmap ของโรบินฮู้ดยังมองโอกาสขยายไปยังตลาด CLMV และจากนั้นต่อยอดไปตลาดเอเชีย ในประเทศที่มีประชากรมาก

Robinhood Application_SCB

 

4 เคล็ดลับร้านอาหาร จะเป็นร้านขายดีบนโรบินฮู้ดต้องทำอย่างไร

แน่นอนว่าเมื่ออยู่บนแอปพลิเคชัน Food Delivery สิ่งที่ตามมาคือ ร้านอาหารมีจำนวนมาก ดังนั้นหัวใจสำคัญของผู้ประกอบการนำร้านขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์ม จึงต้องทำให้ร้านของตัวเองตอบโจทย์ทั้งด้านรสชาติ – คุณภาพอาหาร การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และราคาที่เหมาะสม

โรบินฮู้ดได้แนะนำ 4 เคล็ดลับสร้างความสำเร็จร้านอาหารให้ขายดีบนแพลตฟอร์ม

1. ผู้ประกอบการต้องหมั่นตรวจเช็คการเปิด ปิดร้านของตัวเองอยู่เสมอ

เนื่องจากนโยบายของโรบินฮู้ด ให้ความยืดหยุ่นของเวลาเปิด-ปิดร้านอาหาร เพราะเห็นว่าร้านอาหารที่อยู่บนแพลตฟอร์ม มีทั้งร้านมืออาชีพ และผู้ประกอบการใหม่ จึงอาจยังไม่คล่อง ดังนั้นในทุกวันผู้ประกอบการต้องตรวจเช็คความเรียบร้อย ทั้งเวลาเปิด และเวลาปิดร้าน รวมทั้งก่อนเปิดให้บริการในแต่ละวัน ควรดูความพร้อมของเมนูที่ให้บริการ

2. สร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการ

เนื่องจากแพลตฟอร์ม Online Food Delivery คือ การเชื่อมต่อระหว่างโลกจริง กับโลกดิจิทัล ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ “ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าในครั้งแรก” ที่ต้องประสบการณ์ที่ดี ให้ผู้บริโภคประทับใจ แล้วอยากใช้งานต่อไปเรื่อยๆ

ดังนั้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีในทีนี้ จึงครอบคลุมทั้งฝั่งแพลตฟอร์มเอง ที่ต้องพัฒนาให้ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และที่สำคัญ Human Touch เดียวของแอปฯ คือ ไรเดอร์ ต้องให้บริการด้วยความสุภาพ สะอาด – ปลอดภัย

ขณะเดียวกันประสบการณ์ที่ดี ยังมาจากฝั่งร้านอาหารด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างรสชาติ – คุณภาพ การพัฒนาเมนู การทำอาหารตรงกับออเดอร์ แพคเกจจิ้ง ภาชนะที่ใส่อาหาร – เครื่องดื่ม เช่น ใส่ในภาชนะที่มาส่งแล้ว ลูกค้าสามารถรับประทานได้เลย หรืออุ่นได้เลย โดยไม่ต้องเอาไปใส่จาน/ชามอีกที และความสะอาด – ความปลอดภัยของอาหาร

Robinhood Application_SCB

3. เข้าใจลูกค้า ด้วยการทดลองเป็นลูกค้า

เพื่อทำความเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ผู้ประกอบการธุรกิจควรเอาตัวเองเข้าไปเป็นลูกค้า ตั้งแต่ทดลองสั่งอาหารเมนูของร้านตัวเอง ผ่านแอปฯ ส่งอาหาร เพื่อดูรสชาติ และคุณภาพอาหารที่ทำส่งมา แพคเกจจิ้ง หรือภาชนะที่ใส่อาหาร/เครื่องดื่ม ความสดสะอาด ความปลอดภัย

4. นำร้านเข้าไปอยู่ใน Online Community เพื่อแชร์เรื่องราว และแบ่งปันสิ่งเล็กๆ ให้ลูกค้า

ปัจจุบันเกิด Online Community เช่น Facebook Group คนชอบสิ่งเดียวกัน หรือสนใจในเรื่องเดียวกันมากมายหลายกรุ๊ป เช่น กรุ๊ปคนรักเนื้อ คนรักแซลมอล หรือปลาส้ม และกรุ๊ปอาหารประเภทต่างๆ ซึ่งคนที่อยู่ใน Online Community แต่ละกรุ๊ป เป็นผู้บริโภคที่มีศักยภาพ ที่แบรนด์สามารถเข้าไปสื่อสารได้โดยตรง

เช่น ผู้ประกอบการที่ขายแซลมอล โพสต์โปรโมชั่นของร้าน เพื่อสื่อสาร และเชิญชวนให้คนในกรุ๊ปนั้นๆ รู้จักร้าน กระตุ้นความสนใจ และสั่งมารับประทาน หรือกรุ๊ปคนรักชาบู นอกจากผู้ประกอบการแจ้งข่าวโปรโมชัน อาจโพสต์ให้สมาชิกในกรุ๊ปนั้นๆ ช่วยคิดเมนูใหม่ หรือสิ่งใหม่ต่างๆ ซึ่งนอกจากแนวทางนี้จะสร้าง Engagement ระหว่างแบรนด์ หรือร้าน และผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแล้ว การนำความคิดเห็นของสมาชิกในกรุ๊ป มาต่อยอดพัฒนาเป็นสินค้าใหม่ หรือโปรโมชันใหม่ ย่อมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้จริง

นอกจากนี้ผู้ประกอบการบนโรบินฮู้ด ควรทำโปรโมชันกับลูกค้าโดยตรง เช่น ให้ส่วนลดค่าอาหาร หรือซื้อ 1 แถม 1 เพราะจะเพิ่มโอกาสการขาย ทั้งยังเป็นการสร้าง Loyalty และ Engagement กับลูกค้าโดยตรง

“สมัยก่อน Online Food Delivery คือทางเลือกของร้านอาหาร และผู้บริโภค แต่วันนี้ไม่ใช่ทางเลือกอีกแล้ว แต่คือทางรอดของธุรกิจร้านอาหาร และเป็นอีกขาหนึ่งของการเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงธุรกิจร้านอาหารร้านๆ หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็กให้อยู่ได้” คุณสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงบทบาทของแพลตฟอร์ม Food Delivery ในไทย

Robinhood Application_SCB

คุณสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด

อ่านเพิ่มเติม: 


แชร์ :

You may also like