การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 ส.ค.) เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการเยียวยาลูกจ้างและนายจ้าง พื้นที่สีแดงเข้ม ที่ถูกคำสั่งล็อกดาวน์ จากเดิม 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา และ สงขลา
ให้เพิ่มอีก 16 จังหวัดใหม่ ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และ เพชรบุรี
สำหรับกลุ่ม 13 จังหวัดเดิม ได้รับการเยียวยา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) กลุ่ม 16 จังหวัดใหม่ ได้รับ 1 เดือน (ส.ค.)
ลูกจ้าง
– ม.33 รับเงิน 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) รัฐจ่ายสมทบอีก 2,500 บาทต่อคน รวมเป็น 10,000 บาทต่อคน/เดือน
– ม.39 และ ม.40 รับเงิน 5,000 บาทต่อคน/เดือน
– อาชีพอิสระ (freelance) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.40 ภายใน ส.ค.นี้ รับเงิน 5,000 บาท/คน/เดือน
นายจ้าง
– นายจ้าง ม.33 รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน
– ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.33 ภายในเดือน ส.ค. นี้ รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน
– ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง และไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือน ส.ค. นี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ “ไม่มีลูกจ้าง” 1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 2.ร้าน OTOP 3.ร้านค้าทั่วไป 4.ร้านค้าบริการ 5.กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท
9 กิจการที่ได้รับเงินเยียวยาดังนี้
1. ก่อสร้าง
2. ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
3. ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ
4. กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
5. ขายส่งและการขายปลีก ซ่อมยานยนต์
6. ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
7. กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
8. กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ
9. ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร