HomeDigitalรู้จัก 5 ตัวช่วยออนไลน์ รักษาความปลอดภัย รับมืออาชญากรรมออนไลน์เพิ่มสูง

รู้จัก 5 ตัวช่วยออนไลน์ รักษาความปลอดภัย รับมืออาชญากรรมออนไลน์เพิ่มสูง

แชร์ :

cyber security ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ความปลอดภัย ข้อมูล

ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า สังคมไทยได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในหลายด้านจากการระบาดของ Covid-19 ทั้งในเรื่องการทำงานที่หลายองค์กรต้องปรับจากการเข้าทำงานในออฟฟิศ มาทำงานจากที่บ้าน ไปจนถึงเรื่องการเรียนของเด็ก ๆ ที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้และต้องหันมาเรียนผ่านระบบออนไลน์แทน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สถานการณ์เหล่านี้ทำให้หลายคนเผชิญหน้ากับการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว และการถูกล่อลวงโดยอาชญากรออนไลน์ แถมบางครั้งเหยื่อคือเด็กเล็กที่ไม่รู้เท่าทัน ทางบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google จึงมีการแนะนำ 5 เครื่องมือที่บริษัทพัฒนาขึ้นให้คนไทยได้รู้จัก และลองนำไปใช้เพื่อความปลอดภัยบนโลกดิจิทัลที่มากขึ้น

shutterstock_family link

1. Family Link

Family Link เป็นแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดและติดตั้งได้ฟรีทั้งในอุปกรณ์ iOS และแอนดรอยด์ เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็ก ๆ เพราะ Family Link ช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในอุปกรณ์ของลูกได้ เช่น

  • ตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนหากลูกจะติดตั้งแอปพลิเคชัน
  • มองเห็นว่าแอปพลิเคชันที่ลูกใช้อยู่ในปัจจุบันคือแอปพลิเคชันอะไร
  • สามารถตรวจสอบได้ว่า ลูกใช้เวลากับแอปพลิเคชันอะไรบ้างในแต่ละวัน
  • สามารถกำหนดเวลาในการใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้
  • สามารถบล็อกแอปพลิเคชันได้

นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังสามารถเข้าถึงตำแหน่งของตัวเครื่องที่ลูกใช้งานได้ด้วย หรือในกรณีที่แอปชวนให้จ่ายเงินซื้อไอเท็มในเกม ผู้ปกครองก็สามารถตั้งค่าไม่ให้แอปตัดเงินได้เช่นกัน ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ มีสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ที่ปลอดภัยระดับหนึ่ง

การติดตั้ง Family Link สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ Google Play โดยจะมีสองเวอร์ชัน คือเวอร์ชันผู้ปกครองและเวอร์ชันสำหรับเด็ก

shutterstock_youtube kids

2. YouTube Kids

คนส่วนใหญ่รู้จัก YouTube แต่อาจไม่ทราบว่า มีแอปพลิเคชัน YouTube Kids อยู่ด้วย ซึ่งข้อดีของ YouTube Kids คือคอนเทนต์ภายในจะเหมาะสำหรับเด็กมากกว่า และแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ตามความสนใจของเด็ก เช่น เพลงสำหรับเด็ก วิดีโอสอนเต้น เนื้อหาส่งเสริมการเรียนรู้ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การเรียนภาษา งานอดิเรกใหม่ ๆ เป็นต้น

วิดีโอที่ YouTube Kids นำมาแนะนำคือวิดีโอที่อิงตามประวัติการดูและการค้นหา วิดีโอเหล่านี้มาจากวิดีโอทั้งหมดที่เข้าถึงได้จาก YouTube Kids และคัดเลือกด้วยอัลกอริทึมโดยไม่มีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตั้งค่าเนื้อหาเหล่านี้ได้

ผู้ปกครองยังสามารถบล็อกวิดีโอหรือช่อง หรือรายงานวิดีโอ ที่ไม่เหมาะสมบน YouTube Kids ได้ด้วย

3. Password Manager

Password Manager เป็น เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน ที่ Google พัฒนาขึ้น เมื่อเปิดเข้าไปจะพบว่าระบบจะแสดงผลเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันที่มีการตั้งค่ารหัสผ่านเอาไว้ และเราสามารถเข้าไปตั้งค่า แก้ไข บันทึก หรือจัดการสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับรหัสผ่านนั้นได้ 

เครื่องมือตัวนี้ยังสามารถฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมาก เช่น

  • การแจ้งเตือนให้เราทราบหากพบว่ารหัสผ่านที่เราบันทึกไว้ปรากฏทางออนไลน์
  • การแจ้งเตือนหากมีการลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของเรา

4. Security Checkup

การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Checkup) ฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชี Google ซึ่งอาจทำให้เราสบายใจมากขึ้น ในการใช้บัญชีของ Google ท่องโลกอินเทอร์เน็ต โดยระบบจะแสดงผลให้ทราบว่า ที่ผ่านมา มีการล็อกอินในอุปกรณ์ที่ผิดปกติหรือไม่ หรือมีความเสี่ยงใด ๆ ให้ต้องกังวลหรือเปล่า มีการเปิดระบบการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนหรือยัง ซึ่งถ้าทุกอย่างที่กล่าวมาเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรน่ากังวล ก็จะปรากฏรูปเครื่องหมายถูกสีเขียว

instagram-facebook-leak-password

5. Privacy Checkup

การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว (Privacy Checkup) เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากทราบว่าทำไมโฆษณาบางตัวถึงวนเวียนแสดงผลให้เราดูตลอดเวลา เครื่องมือตัวนี้บอกให้เรารู้ว่ ระบบเลือกโฆษณาของ Google ทำงานอย่างไร ซึ่งโดยปกติจะอิงจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเพิ่มลงในบัญชี Google ข้อมูลจากผู้ลงโฆษณาที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Google และการคาดการณ์ของ Google เกี่ยวกับสิ่งที่เราสนใจ 

อย่างไรก็ดี ใน Privacy Checkup เราสามารถไปจัดการนำโฆษณาตัวนั้นออกไปจากชีวิตบนโลกออนไลน์ของเราได้ หรือใครที่อยากรู้ว่า แอคเคาน์ Google ที่เราใช้งานอยู่มีการลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ตัวใดบ้าง การใช้ Privacy Checkup ก็อาจช่วยให้เรารู้จักโลกดิจิทัลรอบ ๆ ตัวเองได้ดีขึ้นเช่นกัน

แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบัน คนไทยหลายล้านคนใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google เพื่อทำกิจกรรมที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงถือเป็นความรับผิดชอบของเราในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของทุกคนในทุกผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างขึ้น ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ถูกออกแบบมาโดยมุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย และให้ผู้ใช้งานเป็นผู้ควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง” 

“นอกจากนี้เรายังเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะแก่เด็กไทยด้วยเครื่องมือต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขาท่องโลกออนไลน์อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยการเปิดตัวชุดวิดีโอใหม่ “Internet Awesome Parents” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับ Digital Wellbeing และเรื่องความปลอดภัยในโลกดิจิทัล และทำความเข้าใจเครื่องมือต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้สมาชิกในครอบครัวท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นด้วย” คุณแจ็กกี้ หวาง กล่าวปิดท้าย


แชร์ :

You may also like