“Ascend Money” ขึ้นแท่นยูนิคอร์น หลังบริษัทดังกล่าวได้รับเงินลงทุน Series C มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทในปัจจุบันทะลุ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเรียบร้อย
สำหรับการลงทุนในรอบล่าสุดมาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Ascend Money ร่วมกับ Bow Wave Capital Management และ Ant Group ของอาลีบาบา โดย Ascend Money เผยว่าจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนรอบใหม่นี้ไปสร้างการเติบโตให้กับ TrueMoney แอปพลิเคชัน e-Wallet ของทางค่าย รวมถึงจะนำไปขยายบริการทางการเงินดิจิทัล เช่น การทำ Digital lending และ Digital Investment รวมถึงการโอนเงินข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Boku ระบุว่า แอปพลิเคชัน TrueMoney ถือเป็นแอปที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และครองส่วนแบ่งตลาด Mobile Wallet ในไทยถึง 53% โดยมีคู่แข่งอย่าง Rabbit LINE Pay หายใจรดต้นคอมาติด ๆ
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และ ประธานคณะกรรมการบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่การก่อตั้ง แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้คน บริษัทฯ กำลังขยายแพลตฟอร์มและบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ดังนั้น แอสเซนด์ มันนี่ จึงจัดว่าเป็น Financial Platform of Opportunity หรือ แพลตฟอร์มทางการเงินที่มอบโอกาสให้กับผู้คนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งภูมิภาค ความสำเร็จในการระดมทุนของ แอสเซนด์ มันนี่ ยังเป็นความภาคภูมิใจระดับชาติ เพราะสะท้อนศักยภาพของไทย ในการสนับสนุนบริษัทฟินเทคและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศให้สามารถประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไประดับนานาชาติได้”
ด้านคุณธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ Ascend Money กล่าวว่า เป้าหมายของบริษัทคือการมีผู้ใช้งาน 35 ล้านคนภายในปี 2023 หรือคิดเป็น 50% ของจำนวนประชากรในประเทศ (ปัจจุบันมี 18 ล้านคน) โดยที่ผ่านมา มีการวิเคราะห์ว่า การขยายตัวที่รวดเร็วของ Ascend Money เกิดขึ้นได้เพราะอยู่ภายใต้กลุ่มซีพี ซึ่งมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง และมีการสนับสนุนให้บริษัทในเครือใช้ TrueMoney ในด้านต่าง ๆ เช่น เติมเงิน จ่ายชำระค่าสินค้า โอนเงินแบบ Peer-to-Peer และอีกมากมายหลายบริการ
ขณะที่ตลาดนอกประเทศไทย TrueMoney ก็มีตัวแทนอีก 88,000 ราย คอยช่วยสร้างการเติบโตในประเทศที่ประชากรยังเข้าถึงบริการทางการเงินได้ไม่สะดวก เช่น อินโดนีเซีย กัมพูชา เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม โดยรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า มูลค่าการทำธุรกรรมของ TrueMoney ในปี 2020 ทะลุ 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯเลยทีเดียว และประเทศไทยคือประเทศที่มีการทำธุรกรรมสูงสุด