การประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ (27 ก.ย.2564 ) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. สรุปแผนจัดหาวัคซีนโควิด-19 ปี 2564 รวม 178.2 ล้านโดส เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่จะจัดหา 125.9 ล้านโดส
สำหรับช่วง 3 เดือนสุดท้าย จะจัดหาวัคซีนดังนี้
– ตุลาคม 2564 รวม 24 ล้านโดส (ซิโนแวค 6 ล้านโดส/ แอสตร้าฯ 10 ล้านโดส/ ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส /ราชวิทยาลัยฯ จัดหาซิโนฟาร์ม 6 ล้านโดส)
– พฤศจิกายน 2564 รวม 23 ล้านโดส (แอสตร้า 13 ล้านโดส/ ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส / ราชวิทยาลัยฯ จัดหาซิโนฟาร์ม 12.5 ล้านโดส)
– ธันวาคม 2564 รวม 24 ล้านโดส (แอสตร้า 14 ล้านโดส/ ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส /ราชวิทยาลัยฯ จัดหาซิโนฟาร์ม 12.5 ล้านโดส /โมเดอร์นา 2 ล้านโดส)
นอกจากนี้ได้มีการเจรจาจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมในปีนี้ โดยซื้อจากสหภาพยุโรป ที่เสนอขายต่อให้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งกระทรวงต่างประเทศแจ้งว่า ประเทศในสหภาพยุโรปมีวัคซีนโควิด-19 พร้อมขาย ดังนี้
1. สเปน มีวัคซีน AstraZeneca จำนวน 165,000 โดส ราคาโดสละ 2.9 ยูโร และ Pfizer จำนวน 2,788,110 โดส ราคาโดสละ 15.5 ยูโร
2. ฮังการี มีวัคซีน AstraZeneca จำนวน 400,000 โดส ราคาโดสละ 1.78 ยูโร
โดยมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่ ค่าบรรจุภัณฑ์และที่ควบคุมอุณหภูมิ ค่าขนส่งจาก delivery point ค่าขนส่งระหว่างประเทศ ค่าขนส่งภายในประเทศไทย ค่าภาษีศุลกากรขายออก-ขาเข้า ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าประกันความเสียหาย ที่ประชุม ศบค. เตรียมเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อของบประมาณจัดซื้อต่อไป
เปิดแผนฉีดวัคซีนไตรมาสสุดท้าย
– สำหรับแผนการฉีดวัคซีนในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 กรณีจัดหาวัคซีนได้ครบตามแผนจำนวน 126.2 ล้านโดส (รวมบริจาค) ในปีนี้ ดังนั้นประชากรไทย 70 ล้านคน จะได้รับวัคซีนทั้งหมด 62 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 90% ของประชากร
– เป้าหมายการฉีดวัคซีนภายในปี 2564 ดังนี้
1. เข็มที่ 1 อย่างน้อย 70% ภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 และอย่างน้อย 80% ในเดือนธันวาคม 2564
2. เข็มที่ 2 อย่างน้อย 70% ภายในเดือนธันวาคม 2564
3. ผู้ได้รับวัคซีนเชื้อตาย (ซิโนแวค) ครบ 2 เข็ม และผู้เคยติดเชื้อโควิดได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม จัดสรรวัคซีนให้ฉีดกระตุ้นเดือนละ 1-2 ล้านโดส ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2564
4. เดือนตุลาคม 2564 ฉีดวัคซีนทั้งคนไทยและต่างด้าว อย่างน้อย 50% ทุกจังหวัด และอย่างน้อย 1 อำเภอ ฉีด 70% มีต้นแบบ COVID Free Setting อย่างน้อย 1 พื้นที่ฉีดวัคซีนแล้ว 80% นักเรียนนักศึกษาชั้นมัธยมหรือเทียบเท่าฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 70% ฉีดเข็มกระตุ้นผู้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็มเดือนมีนาคม-เมษายน 2564
5. เดือนพฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 70% กลุ่มอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 70% ฉีดเข็มกระตุ้นผู้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็มเดือนมิถุนายน 2564 เข็มกระตุ้นผู้เคยติดเชื้อโควิดช่วงเดือนธันวาคม 2563 ถึงเมษายน 2564
6. เดือนธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 80% และเข็มที่ 2 อย่างน้อย 70% เข็มกระตุ้นผู้รับเชื้อตาย 2 เข็มทุกราย เข็มกระตุ้นผู้ติดเชื้อโควิดทุกราย
แผนจัดหาวัคซีน ปี 2565 จำนวน 120 ล้านโดส
1. AstraZeneca จำนวน 60 ล้านโดส กำหนดส่งมอบไตรมาส 1 จำนวน 15 ล้านโดส ไตรมาส 2 จำนวน 30 ล้านโดส และไตรมาส 3 จำนวน 15 ล้านโดส (AstraZeneca จะเปลี่ยนเป็นวัคซีน Gen 2 เมื่อวิจัยแล้วเสร็จ)
2. Pfizer จำนวน 30-50 ล้านโดส กำหนดส่งมอบไตรมาส 1 จำนวน 7.5 ล้านโดส ไตรมาส 2 จำนวน 7.5 ล้านโดส ไตรมาส 3 จำนวน 17.5 ล้านโดส และไตรมาส 4 จำนวน 17.5 ล้านโดส (เปลี่ยนเป็น Pediatric vaccine หรือ adapted vaccine เมื่อวิจัยแล้วเสร็จ)
3. วัคซีนอื่นๆ 10-30 ล้านโดส
การจัดหาวัคซีนในปี 2565 อยู่ระหว่างเจรจาและจัดทำเงื่อนไขสัญญาให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564 รวมทั้งการจัดสรรวัคซีนปี 2565 สำหรับเด็ก 3-11 ปี ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและเข็มกระตุ้น