‘เซ็นทรัล อยุธยา’ แนวคิดการออกแบบ
โครงการเซ็นทรัล อยุธยา (เปิดวันที่ 30 พ.ย. 64) ทาง CPN ตั้งใจให้ เป็นแลนด์มาร์กและจุดหมายปลายทางที่จะส่งเสริมให้ “อยุธยาของคนไทย” เป็นสปอตไลท์ระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อัศจรรย์อยุธยา” ยกระดับความเรืองรองของเมือง UNESCO World Heritage ให้ทั่วโลกได้รู้จัก โครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันประกอบด้วย ศูนย์การค้า Tourist Attraction โรงแรม ที่พักอาศัย และคอนเวนชั่นฮอลล์ ที่จะเข้ามาเติมเต็มและยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมือง ผสมผสานเอกลักษณ์ของการเป็นเมืองมรดกโลก ประวัติศาสตร์ อาหาร สินค้าพื้นถิ่น เข้ากับความโมเดิร์น บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อ Transportation Hub สู่ภาคเหนือและอีสาน พร้อมจุดเด่น Must-Visit Instagrammable Landmarks ทั่วโครงการ
โดยสถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวไทย ผู้ออกแบบ โรงแรมศาลาอยุธยา ภายใต้บรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยหรือ Thai Twist ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องถิ่น เช่น เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองและผ้าทอลายอย่าง พร้อมสัมผัสเสน่ห์แห่งอยุธยาตั้งแต่เช้าจรดค่ำกับ Day-to-Night Attractions พบตลาดเช้าวิถีไทย ตลาดกลางคืนสุดชิค คาเฟ่สุดชิล ให้ทุกคนได้แวะมา check-in ช้อป ชิม ชิล ก่อนเริ่มต้นและสิ้นสุดทริปของการท่องเที่ยวอยุธยา
คอนเฟิร์ม “เซ็นทรัล อยุธยา” เปิด 30 พฤศจิกายน
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนายังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติในการฝ่าฟันวิกฤตไปพร้อมกับการขยายโครงการใหม่ๆ เพื่อช่วย Springboard ให้ประเทศฟื้นตัวทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้วยจุดแข็งของเราในการบุกเบิกเมืองเศรษฐกิจและทำเลศักยภาพ เรายืนยันเดินหน้าเปิดศูนย์การค้าตามแผน โดยเตรียมเปิดให้บริการ ‘เซ็นทรัล อยุธยา’ ในวันที่ 30 พ.ย. 64 ทั้งนี้ได้ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ และมีแผนรองรับพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ทางศูนย์การค้าและร้านค้ามีความมั่นใจในการเตรียมความพร้อมด้วยมาตรการความสะอาดปลอดภัยเข้มข้นขั้นสูงสุด รวมถึงดูแลให้พนักงานฉีดวัคซีนครบ 100% ก่อนเปิดให้บริการ โดยเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้นำในการสร้างโมเดล ‘ศูนย์การค้าปลอดภัย’ ทั้งการริเริ่มแผนแม่บทและการเปิดพื้นที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนและกิจกรรมสาธารณสุขต่างๆ ของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง”
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า “เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ การขยายโครงการของเราจะช่วยสร้าง Economic & Tourism Impact ได้อย่างมาก ดังเช่น โครงการเซ็นทรัล อยุธยา ที่รองรับการฟื้นตัวของค้าปลีก ช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัด สร้างงาน สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น อีกทั้งเรายังหวังให้เป็นจังหวัดแรกๆ ที่การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โครงการเซ็นทรัล อยุธยา จะกลายเป็นเดสติเนชั่นและศูนย์กลางของจังหวัดที่เข้าไป Complete Tourism Ecosystem ของอยุธยาทั้งระบบ ด้วยความครบครันในที่เดียวทั้ง Transportation Hub, Tourist Information และ Cultural Space จึงเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นแบบ Short Trip หรือการเที่ยวอยุธยาให้นานขึ้น เที่ยว 2 วัน 1 คืน และเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน นอกจากนี้เรายังใช้แนวคิด Community at Heart ด้วยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน ส่งเสริม Local Wealth ให้ผู้คนได้มีรายได้ เช่น การจับมือกับไกด์ท้องถิ่น และแนวคิดการสร้าง The City Wonder Experience โดยวางแผนจับมือกับภาครัฐ ซึ่งจะเป็นการรวมผู้คนในชุมชน ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้มาอยู่ใน Ecosystem เดียวกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”
“ด้านการดูแลพันธมิตรผู้เช่าเราดูแลช่วยเหลือต่อเนื่องรอบด้าน เน้นเพิ่มความยืดหยุ่นให้คู่ค้ามีความมั่นใจในการลงทุน ด้วยแผนการตลาดและเครื่องมือบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ อีกทั้งเซ็นทรัล อยุธยา ยังมีการออกแบบพื้นที่ในฟอร์แมตใหม่ๆ มีความเป็น Day-to-Night Attractions เที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน รวมถึงความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมและมี Must-Visit Instagrammable Landmarks ทั่วทั้งศูนย์ฯ จึงเปิดโอกาสให้คู่ค้าได้ทำโมเดลธุรกิจใหม่ๆ พร้อมทั้งเรายังเน้นการ Co-Creation กับแบรนด์ต่างๆ สร้าง Unique Experience ให้กับอยุธยา และด้วยความแข็งแกร่งของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีเครือข่ายเข้าถึงทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่นและคู่ค้ารายใหญ่ การทำ Business Matching ให้ผู้ประกอบการได้มาเจอกันยังถือเป็นความสำเร็จในทุกๆ โครงการที่เราขยายไปอีกด้วย” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าว