หลังจาก “ลิซ่า Blackpink” ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง LALISA ในอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรก “LISA SOLO” ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้ยอดวิวพุ่งทะลุกว่า 133 ล้านวิว แสดงให้เห็นถึงความแรงของ “ลิซ่า Blackpink” ในตลาดโลก
นอกจากบทบาทของการเป็นศิลปินไอดอลหญิงวง Blackpink แล้ว ด้วยความสามารถ บวกกับภาพลักษณ์ที่สดใส โดดเด่น มีความมั่นใจ และมีฐานแฟนคลับมหาศาล จึงทำให้แบรนด์ดังอยากได้ “ลิซ่า” มาเป็น Brand Ambassador
โดยในช่วงกว่า 1 ปีมานี้ “ลิซ่า” ขึ้นแท่นเป็น Global Brand Ambassador ให้กับแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง M.A.C Cosmetics, เครื่องประดับ BVLGARI, แบรนด์แฟชั่นหรู CELINE
ขณะที่ล่าสุด “ลิซ่า Blackpink” เป็น Brand Ambassador ให้กับเดนทิสเต้ (DENTISTE’) เพื่อโปรโมทสินค้าใหม่ “DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride” เป็นยาสีฟันชนิดแปรงแห้ง และขยายฐานไปยังกลุ่ม Gen Y และ Gen Z
ทุ่มงบ 300 ล้านบาท “รีแบรนด์ดิ้ง” เป็นมากกว่ายาสีฟันคู่รัก
ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของ “เดนทิสเต้” (DENTISTE’) ที่อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภคคือ การเป็นยาสีฟันคู่รัก และยาสีฟันก่อนนอน โดยมีพรีเซนเตอร์เป็นคู่รักดารา
แต่ในปีนี้ “เดนทิสเต้” ทุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาท ทั้งสำหรับรีแบรนด์ดิ้ง ปรับจากจุดขาย “Healthy Relationship” ไปสู่การเป็น “The Best Moment” เพื่อสื่อให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้มีส่วนช่วยสร้างโมเมนต์ที่ดีต่างๆ ให้กับผู้บริโภค Generation ต่างๆ เช่น โมเมนต์ความมั่นใจ โมเมนต์ความสุข รอยยิ้ม (แต่ยังคงเก็บภาพลักษณ์การเป็นยาสีฟันคู่รักไว้อยู่ เนื่องจากเป็นภาพจำ และเป็น Core Brand) ควบคู่กับการทำตลาดสินค้านวัตกรรมใหม่ “DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride” เป็นยาสีฟันชนิดแปรงแห้ง
ดังนั้น เพื่อปรับภาพลักษณ์ใหม่ และโจทย์ใหญ่ของสินค้าใหม่ยาสีฟันชนิดแปรงแห้ง คือ “การเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค” จากที่คุ้นเคยกับยาสีฟันใช้กับน้ำมานาน มาใช้ยาสีฟันชนิดแปรงแห้ง ไม่ใช่เรื่องง่าย “เดนทิสเต้” ต้องหา “คนดัง” ที่สามารถส่งเสริมแบรนด์ และสร้าง Impact ให้เกิดขึ้น
จึงมาลงตัวที่ “ลิซ่า Blackpink” มาเป็น Brand Ambassador เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภค Gen Z และ Gen Y มากขึ้น จากปัจจุบันฐานลูกค้าหลักของแบรนด์เดนทิสเต้ อยู่ในกลุ่ม Gen X และ Gen Y
ออกสินค้า Limited Edition – คาดหากโควิดคลี่คลาย ชาวบลิงค์เตรียม Meet & Greet “ลิซ่า”
ในโอกาสที่ได้ ลิซ่า Blackpink มาเป็น Brand Ambassador “เดนทิสเต้” จึงทำเซ็ทสินค้า Limited Edition เอาใจชาวบลิงค์ หรือแฟนคลับลิซ่า
– ชุดยาสีฟันแปรงสีฟัน Limited Edition ใน 1 ชุดประกอบด้วยชุดแปรงสีฟันพกพา (Pocket Pro) ยาสีฟัน DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride แปรงสีฟัน และสแตนดี้อะคริลิกลิซ่า
– แปรงสีฟันรุ่นพิเศษ “รุ่นลิซ่า” ที่ตัวด้ามเป็นสีชมพู
นอกจากนี้ชาวบลิงค์ในไทยเตรียมตัวให้พร้อม หากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น คาดว่าช่วงเดือนพฤษภาคม หรือเดือนมิถุนายน ปี 2565 จะมีการจัดกิจกรรม Meet & Greet ลิซ่า แต่ถ้าในกรณี COVID-19 ยังไม่ดีขึ้น อาจต้องจัดในรูปแบบ Virtual Event
เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม “เดนทิสเต้” (DENTISTE’) เผยถึงเหตุผลที่เลือกลิซ่ามาเป็น Brand Ambassador ว่า การจะได้ลิซ่ามาเป็น Brand Ambassador ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ YG Entertainment ต้นสังกัดของ Blackpink ใส่ใจและพิถีพิถันมากในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับศิลปิน ซึ่ง เดนทิสเต้ ได้รับเลือกจากทาง YG Entertainment จากคุณภาพของสินค้า ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี อีกทั้งลิซ่าเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้และสนใจอยากเป็น Brand Ambassador ทุกอย่างจึงลงตัว
โดยตั้งเป้าว่าการได้ลิซ่ามาร่วมงานในครั้งนี้ จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับเดนทิสเต้ 3% โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้า GEN Z และ GEN Y ให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ปัจจุบัน ภาพรวมผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก หรือออรัลแคร์ มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 5% ต่อปี โดยกลุ่มยาสีฟันระดับพรีเมี่ยมมีสัดส่วนราว 20% และเดนทิสเต้มีส่วนแบ่งอยู่ในเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมนี้ 40%