Dolfin Wallet (ดอลฟิน วอลเล็ท) กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค เปิดตัวบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิต ที่มอบความสะดวกสบายยิ่งกว่าให้กับผู้ใช้ดอลฟิน วอลเล็ท พร้อมประกาศเพิ่มจุดรับชำระเงินที่ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และร้านค้าที่รับชำระด้วย QR บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด และวีซ่าทั่วประเทศที่เข้าร่วม ซึ่งการเปิดให้บริการในครั้งนี้ ยังทำให้ดอลฟิน วอลเล็ทกลายเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์รายแรกในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจากสองผู้นำในการให้บริการโซลูชั่นเพื่อการชำระเงินดิจิทัลระดับโลกอย่าง มาสเตอร์การ์ดและวีซ่า มาอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตด้วยการสแกนจ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดที่ทั้งง่าย สะดวก ปลอดภัย ลดเสี่ยง เลี่ยงสัมผัส
ด้วยฟีเจอร์ใหม่นี้ ผู้ถือบัตรเครดิตไม่จำเป็นต้องพกหรือแสดงบัตรเครดิต ณ จุดรับชำระเงินอีกต่อไป เพียงแค่เปิดใช้งาน QR บัตรเครดิต โดยการผูกบัตรเครดิตกับดอลฟิน วอลเล็ท และเมื่อจะทำการชำระเงิน ลูกค้าเพียงสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดเท่านี้ก็เป็นอันสำเร็จ และที่สำคัญลูกค้าที่ชำระด้วยการสแกน QR บัตรเครดิตผ่านดอลฟิน วอลเล็ท ยังสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่นเดียวกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตตามปกติ รวมถึงการรับคะแนนสะสมจาก The 1 และโปรโมชั่นเสริมต่าง ๆ ของบัตรเครดิตที่จัดโดยธนาคารผู้ออกบัตร ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการอีกด้วย
คุณอุษณีย์ เลาหะวรนันท์ ผู้อำนวยการแผนกการตลาด กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค ผู้ให้บริการดอลฟิน วอลเล็ท กล่าวว่า “ทางดอลฟินรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นบริษัทฟินเทครายแรกที่ได้นำเทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่นี้มาใช้กับบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการชำระเงิน ดอลฟินยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเสนอทางเลือกและประสบการณ์ด้านการชำระเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเรา และบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิตนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายได้อย่างปลอดภัย และสะดวกยิ่งขึ้นกับจุดบริการรับชำระของเราที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทางดอลฟินยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรของเราอย่าง มาสเตอร์การ์ด วีซ่า และธนาคารชั้นนำของประเทศไทยอย่าง ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ในการผลักดันให้เกิดระบบการชำระเงินรูปแบบดิจิทัลอันทันสมัยหลากหลายช่องทางเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าของเรา พร้อมผลักดันประเทศไทยไปสู่สังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง”
โดยก่อนหน้าการออกบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิตนี้ ดอลฟิน วอลเล็ท ได้ผ่านการทดสอบแซนบ็อกซ์กับธนาคารแห่งประเทศไทยด้านเทคโนโลยี e-KYC (การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อความปลอดภัยของขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตน และข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ ซึ่งการชำระเงินด้วย QR บัตรเครดิตนี้มีการดำเนินการตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตตามปกติ อย่าง ระบบ Mastercard SecureCode และ Visa Secure ที่ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานด้านความปลอดภัยล่าสุดอย่าง EMV® 3-D Secure protocol[1] ในการเสริมความแข่งแกร่งเพื่อป้องกันการฉ้อโกง ดังนั้นสถาบันการเงินและร้านค้าจึงมั่นใจเรื่องความถูกต้องของธุรกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งระบบความปลอดภัยที่ว่านี้จะช่วยลดการเสียโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของร้านค้า อันเนื่องมากจากรายการชำระเงินนั้นถูกปฏิเสธ และยังช่วยสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
ไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “จากการสำรวจกลุ่มผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก พบว่า กลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทยเป็นกลุ่มที่มีการยอมรับการชำระเงินดิจิทัลแบบใหม่มากที่สุด อ้างอิงจากผลสำรวจการจับจ่ายวิถีใหม่ของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard New Payments Index) เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า 82% ของผู้บริโภคชาวไทยวางแผนที่จะใช้คิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงินในปีหน้า และ 89% ยังคาดหวังว่าจะสามารถช้อปปิ้งสิ่งที่เขาต้องการได้ทุกเมื่อ และด้วยวิธีที่พวกเขาต้องการ ซึ่งการศึกษาฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกและง่ายต่อการใช้งานไม่ซับซ้อน ผู้ประกอบการที่สามารถเสนอทางเลือกที่หลายหลายในการชำระเงินไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์หรือออฟไลน์ คือผู้ที่มีการเตรียมการณ์ได้เป็นอย่างดีเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับการค้าและการค้าปลีกในอนาคต สภาพแวดล้อมที่มีความเป็นดิจิทัลสูงเช่นในปัจจุบัน ประสบการณ์ของผู้บริโภคคือกุญแจหลักในการสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน มาสเตอร์การ์ดรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ ดอลฟิน วอลเล็ท ซึ่งมีความเชื่อเช่นเดียวกับเราในการผลักดันให้เกิดการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภค”
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เมื่อธุรกิจการค้าก้าวสู่รูปแบบดิจิทัลเพิ่มขึ้น รวมถึงภาคอุตสาหกรรมหลายแขนงได้ก้าวสู่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ที่ผู้บริโภคมองหาวิธีการชำระเงินที่สะดวกที่สุดสำหรับพวกเขา จากผลสำรวจฉบับล่าสุดของเราเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคได้ชี้ให้เห็นว่า มากกว่าสี่ในห้า (82 เปอร์เซ็นต์) ได้ทดลองใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด และเมื่อพูดถึงการรับรู้เรื่องวิธีการชำระเงินดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ นั้น ผู้บริโภคชาวไทยคุ้นเคยกับการสแกนเพื่อจ่ายผ่านคิวอาร์ถึง 94 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยการชำระผ่านสมาร์ทโฟน 92 เปอร์เซ็นต์ และแตะเพื่อจ่ายอีก 89 เปอร์เซ็นต์ เราเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับดอลฟิน วอลเล็ท ในครั้งนี้ จะเป็นการมอบอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค พร้อมกับการมอบความสะดวก ความคุ้มค่า และความปลอดภัยผ่านโซลูชั่นการชำระเงินแบบดิจิทัลให้แก่ร้านค้า เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด
สำหรับบริการสแกนเพื่อจ่ายผ่าน QR บัตรเครดิตของดอลฟิน วอลเล็ท นี้ สามารถใช้ได้ ณ ร้านค้ามากมายที่รับชำระด้วย QR บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด และวีซ่า อาทิ สตาร์บัค, อาฟเตอร์ยู, ไดโซ, ซานตาเฟ่, เดอะมอลล์ กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โลตัส, โฮมโปร, วิลล่า และเอสโซ่ โดยผู้ใช้ดอลฟิน วอลเล็ทที่ชำระเงินผ่านการสแกน QR บัตรเครดิต จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น รับโบนัสเงินคืน 1.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 4,999 บาทต่อเดือน หรือรับโบนัสเงินคืนสูงสุด 3 เปอร์เซ็นต์[2] สูงสุด 300 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน รับคะแนนสะสมพิเศษ The 1 ทุกๆการใช้จ่าย 100 บาท รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มเติมจากบัตรเครดิต ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 – 30 ก.ย. 2564
ปัจจุบัน บริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิตผ่านดอลฟิน วอลเล็ทนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่ถือบัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกสิกรไทย หรือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดหรือวีซ่าธนาคารไทยพาณิชย์นอกจากนี้ทางดอลฟิน วอลเล็ทมีแผนการเปิดให้บริการนี้สำหรับบัตรเครดิตธนาคารอื่นเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดอลฟิน ได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ Android บน Google Play และ iOS บน App Store พร้อมรับข่าวสารและโปรโมชั่นสุดพิเศษก่อนใคร สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://dolfinthailand.com/
[1] EMV® เป็นเครื่องหมายการค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆ รวมถึงที่ยังไม่ได้จดทะเบียนการค้าในที่อื่น ๆ เครื่องหมายการค้า EMV เป็นกรรมสิทธิ์ของ EMVCo, LLC.
[2] ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด