POST เจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์ชื่อดัง Bangkok Post หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยอายุ 75 ปี สื่อออนไลน์ PostToday นิตยสาร ELLE และ Forbes Thailand ของคุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญกับการแต่งตั้ง “ซีอีโอ” คนใหม่
บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ POST รายงานผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติแต่งตั้ง คุณรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) ของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2554 เป็นต้นไป (เดิมเป็นกรรมการและกรรมการบริหาร กลุ่ม POST อยู่แล้ว)
ขณะเดียวกัน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปลี่ยนแปลงรายชื่อ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร (CFO) จาก ดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ เป็นคุณกันย์ ศรีสมพงษ์ ตั้งแต่วันที่ 15 กันนายน 2564 เป็นต้นไป
คุณรณชิต เป็นหนึ่งในผู้บริหารลูกหม้อกลุ่มโรงแรมเซ็นทรัล เริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2527 หลังใช้เวลาราว 10 ปี ทำงานด้านบัญชีและเลขานุการบริษัท ก็ได้ออกไปทำงานในธุรกิจโรงพยาบาล และกลับสู่ธุรกิจโรงแรมเซ็นทรัลอีกครั้งช่วงวิกฤติปี 2540 ถึงปัจจุบัน
คุณรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์
การเข้ามาเป็นซีอีโอบริหารกลุ่ม POST ธุรกิจสื่อของคุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ถือว่ามีภารกิจสำคัญ เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่เจอกับกระแส Digital Disruption ถาโถมมาต่อเนื่องในยุคที่สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นช่องทางหลักเสพสื่อของผู้คนในยุคนี้
หากย้อนดูผลประกอบการกลุ่ม POST เริ่มเผชิญภาวะ “ขาดทุน” ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน
ปี 2557 รายได้ 2,235 ล้านบาท ขาดทุน 168 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 2,211 ล้านบาท ขาดทุน 244 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 1,865 ล้านบาท ขาดทุน 217 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 1,366 ล้านบาท ขาดทุน 356 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 1,260 ล้านบาท ขาดทุน 167 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 812 ล้านบาท ขาดทุน 359 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 466 ล้านบาท ขาดทุน 374 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้ 196 ล้านบาท ขาดทุน 192 ล้านบาท
ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่ม POST มีทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อดิจิทัล ผลิตคอนเทนต์วิดีโอ และอีเวนต์ ในปี 2563 สื่อออนไลน์บางกอกโพสต์มีทิศทางเติบโตสูง เว็บไซต์บางกอกโพสต์ มีผู้เข้าชม 165.7 ล้านเพจวิว เพิ่มขึ้น 51% เทียบปี 2562 และใช้เวลาสูงกว่าเว็บไซต์ข่าวอื่นๆ ถึงสองเท่า
หลังจากปิดหนังสือพิมพ์ “โพสต์ทูเดย์” ในปี 2562 ได้เข้าสู่สื่อดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งช่องทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม สตรีมมิ่ง พอดแคสต์ ไลน์ออฟฟิเชียล
ในปี 2563 กลุ่ม POST ได้พัฒนาสื่อดิจิทัล และเพิ่มช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มียอดผู้ติดตาม “บางกอกโพสต์และโพสต์ทูเดย์” รวมกันกว่า 13 ล้านคน
แต่จากภาวะขาดทุนต่อเนื่อง หุ้น POST ถูกขึ้นเครื่องหมาย NC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากส่วนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าศูนย์ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ระยะเวลา แก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2564 และยังคงเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ต่อไป
ตลาดหลักทรัพย์ฯให้ POST แจ้งทางเลือกของบริษัทว่าจะทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอผู้ถือหุ้นก่อนดำเนินการ หรือเลือกที่จะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเสนอแผนฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย หรือเลือกขอเพิกถอนโดนสมัครใจ หรือ มีทางเลือกอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 POST ได้ชี้แจงแนวทางการแก้ไขเหตุเพิกถอน โดยอยู่ระหว่างการทำแผนในหลายๆ ด้านดังนี้
1. การเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในปัจจุบัน รวมถึงการพิจารณาหานักลงทุนที่สนใจทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนหลายราย หากประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด จะส่งผลให้ส่วนผู้ถือหุ้น POST เพิ่มขึ้นเป็นบวกทันที
2. หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม หรือต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ให้มากขึ้น
3. ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจและรองรับโมเดลธุรกิจใหม่
การเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอกลุ่ม POST ของคุณรณชิต จึงมีภารกิจสำคัญนำธุรกิจสื่อของคุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ให้เดินไปตามแนวทางที่วางไว้ แก้ไขปัญหาขาดทุนและเหตุเพิกถอนออกจากตลาดฯ