SCB Abacus ปิดดีล Series A มูลค่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ สู้ศึกสินเชื่อออนไลน์

SCB Abacus ปิดดีลการระดมทุน Series A มูลค่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 400 ล้านบาทจาก 3 บริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia และ CAI Partners คาดปีหน้าระดมทุน Series B เพิ่ม หลังเห็นสัญญาณเติบโตด้านสินเชื่อ

เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจสำหรับ SCB Abacus โดย SCB Abacus เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2017 ในฐานะ “มันสมอง” ด้านเทคโนโลยีของธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อนจะผันตัวออกมาเป็นฟินเทคที่ให้บริการทางการเงินโดยใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลทางเลือก (Alternative data) ภายใต้บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด โฮลดิ้งคอมพานีในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์

จากวันนั้นมาถึงวันนี้ SCB Abacus ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” (เปิดตัวในปี 2019) ที่ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ เช่น สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์และสินเชื่อผ่อนชำระสินค้า โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนที่เข้าไม่ถึงบริการสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ขอสินเชื่อผ่านทางแอปพลิเคชันดังกล่าว 3 พันล้านบาทต่อเดือน 

ปัจจุบันแอปเงินทันเด้อมียอดดาวน์โหลด 5 ล้านครั้ง และมียอดสินเชื่อและรายได้ในปีนี้เติบโตสูงกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

เตรียมพร้อมสู้ศึกสินเชื่อออนไลน์

สำหรับการระดมทุน Series A มูลค่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐที่จบลงไปแล้วนั้น ทาง SCB Abacus เผยว่าจะนำไปใช้ใน 3 ด้าน นั่นคือ

• ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
• การพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน – การขยายตลาด
• การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ

ทั้งหมดนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตในตลาดสินเชื่อออนไลน์ โดยทางบริษัทคาดการณ์ว่า ในปี 2022 ยอดสินเชื่อและรายได้จะเติบโตสูงขึ้นกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีนี้ และบริษัทยังคาดว่าการระดมเงินทุน Series B น่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปลายปีหน้าเช่นกัน 

“60% ของคนที่ใช้เงินทันเด้อ คือคนที่เคยถูกธนาคารปฏิเสธมาก่อน ทำให้เรามองเห็นว่า มีคนอีกมากที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินที่ถูกกฎหมาย” ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) กล่าว

เปิดอินไซท์ 86% ของครัวเรือนไทยยังพึ่งสินเชื่อนอกระบบ

ดร.สุทธาภายังกล่าวถึงอินไซท์ที่พบจากแวดวงสินเชื่อในปัจจุบันด้วยว่า ปัญหาหลัก ๆ ที่ผู้บริโภคเผชิญอยู่ทุกวันนี้มาจากสินเชื่อนอกระบบ โดยมีครัวเรือนไทยถึง 86% ที่เป็นหนี้นอกระบบ และ 40% ของคนไทยยังเข้าไม่ถึงบริการของธนาคาร

ทั้งนี้ การเป็นหนี้นอกระบบ ทำให้เกิดการละเมิดความเป็นส่วนตัว และมีการนำข้อมูลของผู้กู้ไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการเข้าถึงคนกลุ่มนี้ด้วยสินเชื่อที่ถูกกฎหมาย ประกอบกับ สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ทำให้ผู้คนคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ซึ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายที่อาจใช้บริการสินเชื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ทาง SCB Abacus คาดการณ์ว่า จะเห็นการเติบโตของยอดสินเชื่อเพิ่มเป็น 5 เท่าในปีหน้า รวมถึงเห็นสัญญาณเชิงบวกจากมาตการที่ภาครัฐผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการมากขึ้น โดยพบว่ามีลูกหนี้เริ่มกลับมาจ่ายหนี้คืนมากขึ้นหลังจากมีการเปิดเมืองอีกครั้ง

สำหรับการระดมทุนดังกล่าวเป็นการเพิ่มทุน โดยทาง เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SCB Abacus ต่อไป