“ลีเซียนลุง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เตือนแพลตฟอร์ม Food Delivery ไม่ให้คุณภาพชีวิตที่ดีกับไรเดอร์เท่าที่ควร ชี้รัฐบาลยังต้องสนับสนุนเงินให้กับคนกลุ่มนี้มากถึง 850 ล้านเหรียญสิงคโปร์ต่อปี และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 ล้านเหรียญสิงคโปร์ในเร็ว ๆ นี้
แพลตฟอร์ม Food Delivery ในสิงคโปร์อย่าง Grab, Foodpanda และ Deliveroo อาจสะดุ้งกันเป็นแถบ ๆ เมื่อนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ “ลีเซียนลุง” ออกมาบอกว่า มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำงานของคนขับ (ไรเดอร์) ของแพลตฟอร์มเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า สิงคโปร์จัดคนทำงานกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ (นอกจากอาชีพขับรถส่งอาหารให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ แล้วก็มีพนักงานทำความสะอาด และพนักงานรักษาความปลอดภัย)
ผู้นำประเทศสิงคโปร์ชี้ให้เห็นว่า แพลตฟอร์มควรตระหนักในเรื่องการทำงาน ที่ปัจจุบันไม่มีสัญญาจ้างอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีข้อกำหนดพื้นฐานด้าน Job Protection และที่สำคัญคือเรื่องของผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม และไม่สามารถทำให้คนที่ประกอบธุรกิจดังกล่าวสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การซื้อบ้าน หรือแม้แต่การเก็บเงินเพื่อการเกษียณอายุได้
ปัจจุบัน สิงคโปร์มีคนทำงานในกลุ่มดังกล่าวประมาณ 500,000 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐ และยังได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย (ประมาณ 850 ล้านเหรียญสิงคโปร์ต่อปี) โดยรัฐบาลสิงคโปร์คาดว่าจะต้องจ่ายเงินช่วยเหลือคนกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,100 ล้านเหรียญสิงคโปร์ในอีก 2 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ข้อโต้แย้งจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ให้บริการในสิงคโปร์ก็น่าสนใจเช่นกัน โดยพวกเขาบอกว่า งานส่งอาหารของไรเดอร์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ นั้น ก็ถือเป็นงานอิสระ มีชั่วโมงทำงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เมื่อเทียบกับการทำงานออฟฟิศ เพราะสามารถหยุดงานตอนไหนก็ได้ สลับไปขับอีกแพลตฟอร์มหนึ่งตอนไหนก็ได้ หรือแม้แต่เลือกเวลาทำงานได้เอง
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า รัฐบาลอาจต้องเข้ามากำกับดูแลธุรกิจนี้มากขึ้น เพราะจะต้องหาทางทำให้คนที่เข้ามาทำงานสามารถมีอนาคตที่มั่นคงได้ด้วยนั่นเอง