จากที่ประกาศกลยุทธ์เรื่องการเพิ่ม Xiaomi Store เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม AIoT และสมาร์ทโฟนที่จะตามมาอีกมากในช่วงครึ่งปีหลัง ล่าสุดทางเสียวหมี่ก็เปิดตัวโปรดักท์ล็อตใหญ่ ทั้งสมาร์ทโฟน Flagship ตระกูล Xiaomi 11T, Xiaomi Pad 5, Xiaomi FlipBuds Pro, Outdoor Security Camera และ Mi Smart Standing Fan 2 ในไทยแล้วอย่างเป็นทางการ
เรียกว่าเปิดตัวครั้งเดียวเต็มพื้นที่ Xiaomi Store โดยในสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปอย่าง Xiaomi 11T Pro มาพร้อมความสามารถในการถ่ายวิดีโอระดับ “Cinemagic” ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 888 และกล้องระดับเทพถึงสามตัว ประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ไวด์ความละเอียด 108MP, เลนส์อัลตราไวด์ 120 องศาความละเอียด 8MP, เลนส์ Telemacro ความละเอียด 5MP โหมด One-Click AI Cinema บันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงถึง 8K และ HDR10+ และ Audio Zoom
นอกจากนั้น Xiaomi 11T Pro ยังมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ความละเอียดระดับ FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมทั้งรีเฟรชเรท 120Hz และผสานเทคโนโลยี TrueColor อีกด้วย หน้าจอแสดงผลได้คะแนน A+ จาก DisplayMate แข็งแรงด้วย Corning® Gorilla® Glass Victus™ และมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จใหม่ล่าสุดอย่าง 120W Xiaomi HyperCharge ที่บรรจุในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของโลก
ส่วน Xiaomi 11T รองรับ Cinemagic ด้วยเช่นกัน โดยมาพร้อมกล้องหลังสามตัว ประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ไวด์ความละเอียด 108MP, เลนส์อัลตราไวด์ 120 องศาความละเอียด 8MP, เลนส์ Telemacro ความละเอียด 5MP และยังมีโหมด One-Click AI Cinema และ Audio Zoom ใช้ AMOLED ความละเอียดระดับ HDR10+ ขนาด 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ที่มาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จ 67W
Xiaomi 11T Pro และ Xiaomi 11T มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา Meteorite Gray, สีขาว Moonlight White และสีน้ำเงิน Celestial Blue วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมเป็นต้นไป
ด้านน้องเล็กอย่าง Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมจอ AMOLED DotDisplay 6.55” อัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตรา Touch Sampling Rate 240Hz รองรับ Dolby Vision® พร้อมยังรองรับ DCI-P3 และ 10-bit TrueColor ส่วนกล้องมี 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP เลนส์อัลตราไวด์ 8MP และเลนส์เทเลมาโคร 5MP นอกจากนี้ Xiaomi 11 Lite 5G NE ยังมาพร้อมชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Qualcomm® Snapdragon™ 778G รองรับ 5G Dual Sim พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4250mAh และรองรับระบบชาร์จไว 33W ด้วย
Xiaomi Pad 5 ถูกพัฒนาขึ้นให้ตอบโจทย์การทำงานอย่าง Work from home หรือเรียนออนไลน์ และยังสามารถเป็นอุปกรณ์สร้างความบันเทิงขนาดพกพาได้อีกด้วย โดย Xiaomi Pad 5 ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 860 พร้อม Octa-core CPU 2.96GHz หน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ พร้อมด้วยรีเฟรชเรท 120Hz รองรับ Dolby Vision® และ TrueDisplay และโหมด Built-in Low Blue Light ที่ไม่ทำให้เกิดอาการสายตาล้าเมื่อใช้เป็นเวลานาน Xiaomi Pad 5 มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอ 4 ตัวและรองรับระบบเสียงDolby Atmos® อีกทั้งยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP และกล้องหลังความละเอียด 13 MP แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงขนาด 8720mAh รองรับระบบชาร์จไว 22.5W
นอกจากนี้ Xiaomi Pad5 ยังรองรับ Xiaomi Smart Pen ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้มากขึ้นอีกด้วย โดยมีกำหนดวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2564 นี้ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทา Cosmic Gray และสีขาว White Pearl
นอกจากสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ AIoT ที่เปิดตัวพร้อมกันในงาน นำทัพด้วย Xiaomi FlipBuds Pro หูฟังไร้สายระดับพรีเมียมจากเสียวหมี่ ด้วยชิปเช็ต Qualcomm QCC5151 พร้อมเทคโนโลยี Qualcomm aptX™ Adaptive โดย Xiaomi FlipBuds Pro มี 3 โหมด ได้แก่ Office Mode, Daily Mode และ Airplane Mode สามารถตัดเสียงรบกวนทั้งภายในและภายนอกที่ระดับ 40 เดซิเบล ทำให้ผู้ใช้งานใช้งานได้อย่างราบรื่น ไม่ถูกรบกวน นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต พีซี และอุปกรณ์อื่นๆ รองรับการชาร์จแบบไร้สายกับอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรอง Qi-certified และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว โดยชาร์จเพียง 5 นาที จะสามารถใช้งานหูฟังได้มากถึง 2 ชั่วโมง เริ่มวางจำหน่าย วันที่ 23 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
Mi Smart Standing Fan 2 พัดลมอัจฉริยะ มาพร้อมกับใบพัดสองชั้น และเครื่องยนต์ BLDC ที่ใช้กำลังไฟเพียง 15W สามารถปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 62.5 เซนติเมตร – 1 เมตร หมุนด้านข้างได้ 140 องศา และแหงนเอียงได้ถึง 39 องศาเพื่อกระจายลมได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังทำงานด้วยเสียงที่เบาเพียง 58 เดซิเบล สามารถควบคุมได้ผ่าน Mi Home app, Google Assistant และ Amazon Alexa โดยตั้งราคาไว้ที่ 2,199 บาท
Mi Wireless Outdoor Security Camera 1080p กล้องวงจรปิดนอกอาคารแบบไร้สายความละเอียดสูงถึง 1080p ถ่ายได้แม้ในสภาพแสงน้อย บันทึกครอบคลุมด้วยมุมกว้างถึง 130 องศา ติดตั้งง่ายด้วยระบบไร้สาย ป้องกันสภาวะอากาศระดับ IP65 ทั้งในอากาศร้อนและหนาว และยังมีระบบ Human Detection เมื่อกล้องถูกนำออกจากฐานอีกด้วย มีแบตเตอรี่ขนาด 5700mAh ชาร์จ 1 ครั้งสามารถทำงานได้นานถึง 90 วัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 2,199 บาท
นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เปิดตัวพร้อมกันด้วย เช่น Mi Desktop Monitor 27” จอเดสก์ท็อป ราคา 5,990 บาท และ Mi WiFi Range Extender AC1200 อุปกรณ์กระจายสัญญาณ WiFi ราคา 599 บาท
Mi Door and Window Sensor 2 เซ็นเซอร์นิรภัยบริเวณประตูและหน้าต่าง ราคา 390 บาท, Mi Smart Projector 2 จอโปรเจ็กเตอร์อัจฉริยะ ราคา 16,990 บาท, Redmi Buds 3 Pro หูฟังไร้สาย ราคา 1,799 บาท และ Redmi Buds 3 หูฟังไร้สาย ราคา 999 บาท