หลายปีที่ผ่านมา “พฤติกรรมผู้บริโภครักสุขภาพ” เป็นเทรนด์ใหญ่ (Mega Trends) ของโลก กระทั่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลายเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติในรอบ “ร้อยปี” การตระหนักเรื่องสุขภาพของผู้คนจึงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า โรคที่สร้างผลกระทบคนไทย ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใด กลับเป็น “กลุ่มโรคไม่ติดเรื้อรัง” หรือ โรค NCDs : Non-Communicable Diseases (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคอ้วนลงพุง โรคทางระบบหัวใจ โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น โดยกรมอนามัยโลกระบุ 10 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยป่วยเป็นโรคดังกล่าวกว่า 14 ล้านราย แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 300,000 คน ขณะที่สาเหตุสำคัญทำให้ประชากรป่วยเป็นโรค NCDs เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ปิ้งย่าง หวานจัด เค็มจัด เป็นต้น ซึ่งถือเป็น “ภัยเงียบ” ที่คุกคามและกลายเป็นปัญหาเรื้อรังด้านสุขภาพของคนไทย
เมื่อสุขภาพที่ดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริงหรือ Health is Wealth และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทุกคนต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลโรคภัย ธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ยกระดับบริการเพื่อรับกับเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ต่างๆของลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของร้าน “บู๊ทส์ ประเทศไทย” ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำระดับโลก ที่ได้เปลี่ยนแปลง ปรับตัวครั้งสำคัญ เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสุขภาพด้วยการสร้างคุณค่าของแบรนด์ใหม่หรือ “Brand value” สู่การเป็น “Health & Wellness Solutions Provider” ชูจุดเด่น New Medicine Service ยกระดับการให้คำปรึกษาเรื่องยาและเวชภัณฑ์เพื่อดูแลคนไทยให้มีสุขภาพดีครบวงจรแบบ ONE-STOP SERVICE โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เพื่อให้เข้าใจ Brand Value ในการเป็น “Health & Wellness Solutions Provider” อย่างถ่องแท้ของร้าน “บู๊ทส์” คุณอรพรรณ พงศ์พานิช Head of Customer Experience บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย ได้เล่าถึงพันธกิจสำคัญของ บู๊ทส์ คือความมุ่งมั่นในการเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้ความรู้เชี่ยวชาญที่มีตอบสนองความต้องการของคนไทยทุกคน
สำหรับโซลูชั่นในการดูแลสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นแก่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายนั้น “บู๊ทส์” ดำเนินการใน 3 มิติ ได้แก่ 1. การสรรหา จัดสรร สินค้าที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานมาให้ลูกค้าทุกคน 2. การมีเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์คอยดูแลคุณในทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ 3. บริการแบบครบวงจรที่ทำให้สินค้าและบริการเกี่ยวกับสุขภาพและการเป็นอยู่เข้าถึงได้สะดวกและง่ายมากขึ้น พร้อมมั่นใจได้กับความรู้ความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ
จุดแข็งสำคัญที่จะทำให้ “บู๊ทส์” เป็น New Medicine Service ให้คำปรึกษาเรื่องยาและเวชภัณฑ์เพื่อดูแลคนไทยให้มีสุขภาพดีครบวงจรแบบออมนิแชนแนล หรือครอบคลุมทุกช่องทาง เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียวหรือ มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์ ยังเกิดจากการมี “พันธมิตร” ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง “วอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์” หรือ ดับเบิ้ลยูบีเอ “ยักษ์ใหญ่” ร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และเป็นรายแรกที่ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
“เราได้นำมาตรฐานระดับโลกมาดูแลให้คนไทยทั้งประเทศเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ง่าย พร้อมมีสุขภาพกายและใจที่ดียิ่งขึ้นเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น”
ปัจจุบัน “บู๊ทส์” มีร้านมากกว่า 18,000 แห่ง บริการแก่ลูกค้าหลายประเทศทั่วโลก และยังมีเครือข่ายจัดจำหน่ายและค้าส่ง “ใหญ่สุดในโลก” สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจบริการที่ผู้บริโภคจะได้รับจากทางร้านครบเครื่องอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้น ”บู๊ทส์” คร่ำหวอดในธุรกิจสุขภาพและความงามมานาน จึงเข้าใจ Consumer insight อย่างแท้จริง และทุกบริการถือเป็นการแก้ Pain Point แก่ลูกค้าได้อย่างตรงจุดด้วย
ความครบวงจรของ “บู๊ทส์” ยังไม่หมด เพื่อตอกย้ำการเป็นเจ้าแห่ง “Health & Wellness Solutions Provider” ผลิตภัณฑ์ถือเป็นอีกหัวใจสำคัญในการทำตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย หากเข้าไปใช้บริการในร้านผู้บริโภคจะพบสินค้าหลากหลายรายการ ซึ่ง “บู๊ทส์” นำเสนอยาและเวชภัณฑ์มากกว่า 3,000 รายการ (SKUs) นี่ยังสะท้อนการเป็น ONE-STOP SERVICE เช่นกัน เพราะไปร้าน มีสินค้าให้เลือกครบจบที่เดียวนั่นเอง
ด้าน “เภชสักรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์” ปัจจุบันมีมากถึง 288 คน ประจำที่ร้านบู๊ทส์ 240 สาขาทั่วประเทศ แต่โลกเข้าสู่ “ยุคดิจิทัล” การให้คำปรึกษาไม่จำกัดอยู่แค่หน้าร้านออฟไลน์ ยังมีช่องทาง “ออนไลน์” ผ่าน Boots Mobile App: Talk to Pharmacist ซึ่งเวลาให้บริการตั้งแต่ 9.00-21.00 น. ทุกวัน รวมถึง LINE Chat & Shop ของร้านบู๊ทส์แต่ละสาขา เรียกได้ว่าพร้อมให้คำแนะนำสำหรับทุกคน และทั้งหมดตอกย้ำการมีบริการทุกช่องทางหรือ “ออมนิแชนแนล” จริงๆ
ฟากบริการซื้อสินค้า “บู๊ทส์” ยังตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครักสะดวก ด้วยบริการผ่าน Grab และเซอร์วิสอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม นาทีนี้ หากไม่เอ่ยถึงสถานการณ์โควิด-19 คงไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนตระหนักถึงผลกระทบด้านสุขภาพอย่างมาก เมื่อคนไทยและทั้งโลกต้องเผชิญวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด มายาวนานเกือบ 2 ปี ทำให้พบข้อมูลล่าสุด เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา* มีคนไทยมีการค้นหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ อ้วน ไต และซึมเศร้ามากที่สุด สะท้อนได้ว่าในช่วง “ล็อกดาวน์” ส่งผลให้คนไทยมีความกังวลใจเรื่องอ้วนและซึมเศร้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกักตัวอยู่บ้านแล้วกินอาหารมากขึ้น กินอาหารไม่เป็นเวลา
ไม่เพียงด้านสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่พิษสงอีกด้านที่เกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงคือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กระเทือนธุรกิจ และการทำงานของผู้คน ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเกิดภาวะเครียด ภาวะซึมเศร้าจากปัจจัยลบรอบด้านนั่นเอง ร้าน “บู๊ทส์” ในฐานะที่ให้บริการปรึกษาเรื่องสุขภาพ ยังพบพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้ามาที่ร้านขอคำแนะนำ ข้อมูลความรู้จาก “เภสัชกรบู๊ทส์” เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพหลัก ๆ ** ได้แก่ ข้อมูลโรคโควิด-19 ปัญหา อาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด หรือ Office Syndrome หรือ Work From Home Syndrome ความเครียดจากการทำงาน ปรึกษาเกี่ยวกับการซื้อยาที่ตัวเองใช้ประจำเพื่อรักษาอาการของโรคเรื้อรัง รวมไปจนถึงปรึกษาเกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
ขยับตัวครั้งใหญ่ทั้งที “บู๊ทส์” จัดอาวุธการตลาดครบเครื่อง และย้ำการเป็น “Health & Wellness Solutions Provider” ตัวจริงในสนาม!!
*Google trends, Thailand Disease concerns, 1-30 August 2021
**Boots Thailand 2021