ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการของเซ็นทรัลพัฒนา นอกจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว ยังขยายไปยังต่างจังหวัดที่เป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ “จังหวัดชลบุรี”
ก่อนหน้านี้ เซ็นทรัลพัฒนา เข้าไปลงทุนเปิดศูนย์การค้า 3 โครงการคือ เซ็นทรัลมารีนา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, เซ็นทรัล ชลบุรี ขณะที่ล่าสุดเตรียมเปิดอีก 1 โครงการคือ “เซ็นทรัล ศรีราชา” วันที่ 27 ตุลาคมนี้ ในรูปแบบ Mixed-used Project
“ชลบุรี” จึงถือเป็นจังหวัดที่เซ็นทรัล ลงทุนสร้างโครงการมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ (เชียงใหม่ เซ็นทรัลมี 2 โครงการ, ภูเก็ต เซ็นทรัลมี 2 โครการ)
เพราะอะไรทำให้ “เซ็นทรัลพัฒนา” สนใจจังหวัดชลบุรีมากเป็นพิเศษ ถึงกับเปิด 4 โครงการใน 1 จังหวัด มาหาคำตอบกัน ?
1. จังหวัดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ – Demand สูง
ยุทธศาสตร์การสร้างศูนย์การค้าของกลุ่มเซ็นทรัล (Central Group) แบ่งชัดเจนว่า ถ้าเป็นโครงการศูนย์การค้าของ เซ็นทรัลพัฒนา จะลงทุนในจังหวัดเศรษฐกิจใหญ่ หัวเมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยว เพื่อจับกลุ่มลูกค้าไทย และลูกค้าต่างประเทศ ขณะที่เมืองรอง/จังหวัดรอง อำเภอใหญ่ ไปจนถึงจังหวัดเล็ก จะเป็น เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น นำศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ หรือ ท็อปส์ พลาซ่า เข้าไปเปิดสาขา
สำหรับชลบุรี คือหนึ่งในจังหวัดเศรษฐกิจใหญ่ของภาคตะวันออก
– มีประชากรกว่า 1,567,000 คน
– ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) 1,030,949 ล้านบาท
– ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัว (GPP Per Capita) 566,801 บาท/คน /ปี
– ระบบขนส่งคมนาคมครบวงจร ทั้งทางถนน รถไฟ ทางน้ำ และทางอากาศ ทำให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางโลจิสติกส์ของไทย
– มีจำนวนโรงงานกว่า 5,000 โรงงาน – จำนวนคนงาน 287,111 คน
– เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว โดยก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 ชลบุรีมีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 18,576,145 คน
รายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 274,995 ล้านบาท
2. หนึ่งในจังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)
ชลบุรี เป็นหนึ่งในจังหวัดตามแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC (อีก 2 จังหวัดคือ ระยอง และฉะเชิงเทรา) โดยประมาณการว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2569) การลงทุนของ EEC จะขยายตัวสูงขึ้นมีมูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาท
3. ศรีราชา จะเป็นเมืองหลวงของเขตเศรษฐกิจ EEC
“ศรีราชา” อำเภอใหญ่ของชลบุรี และมีแนวโน้มว่าจะได้ถูกพัฒนาเป็น “เมืองหลวง” ของเขตเศรษฐกิจ EEC เนื่องจากมีความพร้อมรอบด้านของความเป็นเมือง ทั้งระบบคมนาคม ระบบโลจิสติกส์ โรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก สถานศึกษา โรงพยาบาล แหล่งท่องเที่ยว และความหลากหลายของประชากรที่อยู่อาศัย – ในชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ โดยมีทั้งคนท้องถิ่น คนต่างถิ่นที่ย้ายเข้ามาทำงาน – มาเรียน – อยู่อาศัย กลุ่ม Expat และนักท่องเที่ยว
“เซ็นทรัล ศรีราชา” โครงการต้นแบบ Mixed-use แห่งอนาคตของเซ็นทรัล
นอกจากมี 3 โครงการศูนย์การค้าทั้งในชลบุรีแล้ว “เซ็นทรัลพัฒนา” มองว่า “ศรีราชา” เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นสำคัญที่ต้องเข้าไปปักหมุด ทว่าการยกทัพไปลงทุนสร้าง “เซ็นทรัล ศรีราชา” บนที่ดิน 27 ไร่ และไม่ใช่เป็นเพียงแค่ศูนย์การค้าเท่านั้น แต่ได้พัฒนาในรูปแบบ “Fully-Integrated Mixed-use Development”
โดยยกเอา Success Formula ของการสร้างแต่ละองค์ประกอบ Fully Integrated เชื่อมโยงและส่งเสริมซึ่งกันและกันทั้งในส่วนของศูนย์การค้า โรงแรม ที่อยู่อาศัย และคอนเวนชั่นฮอลล์ อยู่ภายในโครงการเดียวกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Pioneer of Future ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์คือ
กลยุทธ์ที่ 1 The New District: ด้วยตัวโครงการ Mixed-use บนที่ดิน 27 ไร่ พื้นที่รวมกว่า 140,000 ตารางเมตร บนทำเลใจกลางเมือง จึงตั้งเป้าให้เซ็นทรัล ศรีราชา เป็นทั้ง Business District และ Downtown ของศรีราชา และ EEC โดยสร้างแต่ละองค์ประกอบของโครงการเซ็นทรัล ศรีราชา ทั้งในส่วนศูนย์การค้า ที่ใช้เงินลงทุน 4,200 ล้านบาท – โรงแรม – ที่อยู่อาศัยรูปแบบเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ และคอนเวนชั่นฮอลล์ ให้เกิดการส่งเสริมซึ่งกันและกัน
ขณะเดียวกันเป็นการเติมเต็มย่านธุรกิจให้กับศรีราชา เพื่อรองรับการขยายตัวของศรีราชา ที่มีทั้งโรงเรียน, โรงพยาบาลชั้นนำ, โรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและมีกำลังซื้อสูง ทั้ง Family, Jobber, Teen และ Expat ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น
กลยุทธ์ที่ 2 The Future of Retail: ต้นแบบศูนย์การค้าแห่งอนาคต ประกอบด้วย
– Hygiene & Safety: นวัตกรรม “Smart & Healthy Building” ที่เซ็นทรัล ศรีราชา อัพเกรดระบบปรับอากาศและกรองอากาศเพื่อให้มีอากาศที่สะอาดหมุนเวียนภายในศูนย์การค้ามากที่สุด
– Green Living & Circular Economy: ต้องการพัฒนาเซ็นทรัล ศรีราชา ให้เป็นต้นแบบ Eco-Friendly Mall แห่งแรกในภาคตะวันออกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
– The First Semi-Outdoor Experience เหมือนยกเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ เช่น Outdoor Walking Street บนพื้นที่กว่า 2,800 ตร.ม., Giant Green Wall, Pet Park & Services เป็น Pet-Friendly Mall แห่งแรกในภาคตะวันออก เพื่อสร้างคอมมูนิตี้แห่งใหม่ของคนรักสัตว์เลี้ยง
– Seamless Integrated Experience สร้างศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ที่ Blur the Line กับโซนใหม่ที่ช้อปปิ้งด้วยกันได้ทั้งครอบครัวที่มีชื่อว่า “Playhouse” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักแฟชั่น คัดสรรสินค้าสุดชิคมารวมอยู่ในชั้นเดียว และ “Design House” สินค้าตกแต่งบ้านอย่างมีสไตล์มารวมไว้ในที่เดียว
– Digitalization & Sharing Economy สร้าง Co-Working Space ในศรีราชา ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่และกลุ่ม Start-up
กลยุทธ์ที่ 3 The Innovation Oasis: ตั้งเป้าเป็น No.1 Destination ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตเพื่อศรีราชา โดยมี 4 ไอเดียหลักที่สร้างความโดดเด่นให้เซ็นทรัล ศรีราชา ได้แก่
– Nature-Tech Oasis ด้วยเทคโนโลยีนำสมัยและประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น EV Charging Station, Solar Battery Charger, สนับสนุนให้ใช้ร้านค้าใช้ Bio-Degradable Packaging, E-Receipt, E-Menu เพื่อลดการใช้กระดาษ และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเริ่มที่แรกที่ Food Park ภายในศูนย์ฯ
– Inspiring Oasis จุดประกายไอเดียล้ำด้วย Hub of Creative Lifestyle นำโดย B2S Think Space และ Co-Working Space ที่ดีที่สุดในศรีราชา เพื่อสร้าง Start-Up New Ecosystem แห่งอนาคต รองรับการจัด Start-Up Hackathon Showcase, Creative Forum
– Urbanised Oasis เดสติเนชั่นที่ดีที่สุดตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น Tops Premium ดีไซน์แบบ Glasshouse, แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ รวมร้านอาหารดังกว่า 30 ร้าน, โซน Asian Village นำแบรนด์ดังจากทั่วเอเชียมารวมกันไว้ในที่เดียว และเอาใจ Pet Lovers ด้วย Central Si Racha Pet Community คอมมูนิตี้คนรักสัตว์ ที่สามารถพาน้องหมามาทำ Dog ID ฟรี
ปลดล็อกดาวน์ คนกลับมาเดินศูนย์การค้า 75% – ตั้งเป้าคนมาเดิน “เซ็นทรัล ศรีราชา” 3 หมื่นคนต่อวัน
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ฉายภาพศูนย์การค้า ภายหลังจากรัฐประกาศปลดล็อกดาวน์ว่า โดยเฉลี่ยคนกลับมาเดินศูนย์การค้า 70 – 75%
สำหรับในกรุงเทพฯ คนกลับมาเดินศูนย์ฯ 75% ขณะที่ต่างจังหวัด ถ้าเป็นจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดหนัก คนเริ่มกลับมา 100% แสดงว่าคนเริ่มกลับมาใช้จ่าย และคาดว่าการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ น่าจะช่วยส่งเสริมให้คนอยากจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
“เมื่อก่อนศรีราชา ถูกมองว่าเป็นทางผ่าน แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แล้ว เราเห็นศักยภาพของศรีราชาที่มีกำลังซื้อมหาศาล และจังหวัดชลบุรีมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชลบุรีถึงเป็นจังหวัดเดียว นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ที่เราเปิดถึง 4 โครงการ อย่างโครงการล่าสุด “เซ็นทรัล ศรีราชา” เราสร้าง Mixed-use Project ซึ่งคาดว่ายอดทราฟิกในส่วนของลูกค้าที่มาเดินศูนย์การค้าในช่วงแรกอยู่ที่ 20,000 – 30,000 คนต่อวัน”