‘เจ้าสัวเจริญ’ พลิกโฉมตึกเก่าโรบินสัน ปั้น ‘สีลมเอจ’ มิกซ์ยูสใหม่ ชูจุดขายพื้นที่ห้างเปิดถึงเที่ยงคืน

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ยึดทำเลทองบนเส้นพระราม 4 ปั้นโครงการมิกซ์ยูส ‘ทุกหัวมุมถนน’ ไล่มาตั้งแต่ สามย่านมิตรทาวน์ อภิมหาโปรเจกต์ One Bangkok ,The PARQ, FYI Center ล่าสุดคว้าทำเลหัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 พื้นที่อาคารสำนักงานและห้างโรบินสันสีลมเก่า ปรับโฉม “มิกซ์ยูส” ใหม่ ชูจุดขายห้างเปิดถึงเที่ยงคืน

หลังจากห้างโรบินสันสีลม ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2551 เหลือเพียงตึกสีลม เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานเช่าบนถนนสีลม ในทำเลเดิมกำลังจะมีห้างและพื้นที่ค้าปลีกกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2565 ภายใต้การพัฒนาโครงการของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ซึ่งได้ทำสัญญาเช่าจากเจ้าของที่ดินสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ระยะเวลา 30 ปี

ตามแผนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสบนทำเลหัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 ของเฟรเซอร์ส ใช้ชื่อว่า “สีลมเอจ” (Silom Edge) เป็นโครงการ Re-development ครั้งแรก คือการปรับโฉมอาคารเก่าทั้งพื้นที่สำนักงานเช่าและรีเทล ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท

“สีลมเอจ” ต้นแบบ Re-development เปลี่ยนตึกเก่าเป็นมิกซ์ยูส

คุณธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าประสบการณ์พัฒนาพื้นที่สำนักงานเกรดเอและรีเทลกว่า 10 ปี ตั้งแต่ ปาร์คเวนเจอร์ สาทรสแควร์ สามย่านมิตรทาวน์ FYI Center รวมบริหารพื้นที่โครงการกว่า 260,000 ตารางเมตร ทุกอาคารทั้งสำนักงานและรีเทล อยู่ในใจกลางย่านธุรกิจ (CBD) ทั้งสิ้น เรียกว่ายึดจุดตัดย่านธุรกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพลินจิต สามย่าน คลองเตย สาทร และล่าสุดกับการปักหมุดจุดตัดย่านสีลม กับโครงการสีลมเอจ

จากศักยภาพของที่ตั้งโครงการที่อยู่หัวมุมถนนสีลม ทำเลทองใจกลาง CBD เชื่อมต่อกับทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT ปัจจุบันไม่มีแลนด์แบงก์มากพอเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ เฟรเซอร์สฯ จึงเข้าลงทุนซื้อทรัพย์สินอาคารสูง 22 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และทำสัญญาเช่าที่ดิน 30 ปี ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสพื้นที่รวม 50,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่เช่าสำนักงาน 12,000 ตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีก 10,000 ตารางเมตร

แนวทางการพัฒนาอาคารสำนักงานและรีเทลยุคใหม่ต้องเกาะเทรนด์โลกปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงโควิด จะเห็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เทรนด์หลักๆ ที่เกิดขึ้น เช่น Work-Life-Blend , Flexible Working, Cashless Society, Work Collaboration การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานยุคใหม่จึงต้องผสมผสานเทรนด์ที่เกิดขึ้นด้วย

“สีลมเอจ” ถือเป็นต้นแบบโครงการ Re-development ที่นำอาคารเก่ามาปรับโฉมใหม่เป็นมิกซ์ยูส ด้วยคอนเซ็ปต์ “The new sandbox community in CBD” ตอบโจทย์ความต้องการ New Gen ในยุคดิจิทัล เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัปและแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีการเติบโตทางธุรกิจก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา

อาคารสีลมเอจ ส่วนพื้นที่สำนักงาน อยู่ที่ชั้น 10-21 ปรับ Facilities และพื้นที่ต่างๆ ให้เหมาะสำหรับสตาร์ทอัปทำงานและใช้ชีวิตได้ 24 ชั่วโมง ด้วยระบบปรับอากาศแยกส่วนในแต่ละพื้นที่เช่า

“คอนเซ็ปต์มิกซ์ยูสของสีลมเอจ เป็นการเปิดพื้นที่สร้างโอกาสให้ธุรกิจใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล ที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ เปลี่ยนภาพลักษณ์ย่านสีลมจาก Wall Street ธุรกิจการเงินในยุคแรก มาเป็น Silicon Valley ยุคใหม่”

รีเทลชูจุดขายห้างเปิดถึงเที่ยงคืนรับ Nightlife สีลม

จากประสบการณ์ทำโครงการ “สามย่านมิตรทาวน์” พบว่าตลาด 24 ชั่วโมงมีกำลังซื้อจริงและเป็นศูนย์การค้าแรกที่เปิดโซน 24 ชั่วโมง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ทำงานทั้งวันในเวลาที่สะดวก

ในทำเลสีลมที่เป็นย่าน Nightlife ของคนไทยและนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ดังนั้นพื้นที่รีเทลของสีลมเอจ จึงจะเปิดห้างสรรพสินค้าที่มีเวลาให้บริการแตกต่างจากห้างอื่นๆ คือในเวลา 11.00-24.00 น. เรียกว่าสามารถทำมิดไนท์เซลได้ทุกวัน เพื่อตอบสนองคนทำงานในทำเลนี้และคนที่มาท่องเที่ยว

อีกความแตกต่างของโครงการที่จะนำมาให้บริการทั้งส่วนอาคารสำนักงานและรีเทล Crypto & Cashless Society การเปิดรับชำระเงินดิจิทัลด้วยคริปโตฯ ทุกสกุล และการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรองรับสังคมไร้เงินสด

ปัจจุบันย่านสีลมมีอาคารสำนักงาน 43 แห่ง มีที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมทุกระดับ โรงเรียน 23 แห่ง รีเทล 3 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง คนที่พักอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในย่านสีลมเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง โดยมีผู้พักอาศัยราว 220,000 คน คนทำงานในพื้นที่ 350,000 คน โดยเฉลี่ยวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) มีคนมาทำงาน มาจับจ่าย ใช้ชีวิตอยู่ในย่านสีลม 700,000 คนต่อวัน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 500,000 คน เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ Nightlife ของคนไทยและต่างชาติด้วย

ดังนั้นพื้นที่รีเทลจึงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ ใช้เป็นพื้นที่หน้าร้านโชว์สินค้าและขายออนไลน์ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นเทรนด์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในยุคนี้ โดยรูปแบบการเช่าพื้นที่จะมีความยืดหยุ่นตั้งแต่ขนาดเล็กพื้นที่ 10 ตารางเมตรขึ้นไป เพื่อใช้เป็นจุดทดลองเปิดร้านก่อนขยายสาขาไปสู่ห้างใหญ่ต่อไป พื้นที่รีเทล “สีลมเอจ” อยู่ชั้น B1, ชั้น 4-9 พื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร

ปัจจุบันโครงการสีลมเอจได้เริ่มดำเนินการพัฒนาไปแล้วกว่า 65% จะมีทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าและโรงพยาบาลจุฬาฯ ด้วย โดยพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2565