นับว่าเป็นปรากฏการณ์กับเขาได้เหมือนกัน สำหรับยอดจองรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ORA Good Cat เมื่อ Great Wall Motor(เกรท วอลล์ มอเตอร์) ได้ประกาศ เปิดจองสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อซื้อรถยนต์รุ่นนี้ โดยเริ่มเวลา 00.01 น. ในวันที่ 14 ตุลาคม ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ผลปรากฏว่า สามารถทำยอดจองไปถึง 4,296 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง ในสภาวการณ์เช่นนี้ และ ทั้ง ๆ ที่ผู้จองยัง “ไม่รู้ราคา” เลยด้วยซ้ำปรากฏการณ์นี้ บอกอะไรกับเราบ้าง BrandBuffet ขอสรุปออกมา ดังนี้
1. รถยนต์ไฟฟ้า มีความต้องการเกิดขึ้นจริงแล้ว
ที่ผ่านมาการตัดสินใจซื้อ “รถยนต์ไฟฟ้า” มักเกิดคำถามขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Ecosystem ที่ผู้ซื้อไปใช้งานจริงจะต้องกังวลว่า จะมีที่ชาร์จไฟเพียงพอหรือไม่ นั่นเป็นสาเหตุให้ค่ายรถยนต์ต้องหันมาทำการตลาดโดยการแถมแท่นชาร์จและการติดตั้งที่บ้านของลูกค้า รวมทั้งจับมือกับเจ้าของสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า เพื่อทำให้ลูกค้าอุ่นใจว่ามีจุดเติมพลังงานในระยะทางที่เดินทางแบบไม่ต้องกังวลหรือร้อนใจตามหาจุดชาร์จ
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ผู้ให้บริการแท่นชาร์จตามจุดต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงแห่งอนาคต รวมทั้งบริษัทที่ให้บริการน้ำมันทั้งหลาย ก็พยายามปรับตัวมีสเตชั่นเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อทดลองและเก็บข้อมูลตามความเหมาะสม โครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มติดตั้งแท่นชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
จากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทำให้วันนี้ผู้ใช้งานรถยนต์ มี “ทางเลือก” มากขึ้น จนรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์ระดับบนอีกต่อไปแล้ว และพร้อมที่จะแจ้งเกิดในผู้บริโภคระดับแมส ซึ่งนี่เป็น Trigger สำคัญที่จะจุดประกายการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
2. คนไทยเปิดรับ “แบรนด์ใหม่”
ไม่ง่ายเลยสำหรับสินค้ากลุ่ม High Involvement ซึ่งมีราคาสูง แถมรถยนต์ 1 คัน ต้องใช้งานนานอยู่คู่กับเราไปอีก 7-10 ปี แต่จากยอดจอง ORA Good Cat ที่ฟาดไปเกือบ 5 พันคันในครั้งนี้ รวมทั้ง All New HAVAL H6 Hybrid SUV ของค่ายเดียวกันที่เพิ่งเปิดตัวไปกลางปีที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากชาวไทย ด้วยการขึ้นแท่นเป็นรถยนต์คอมแพคเอสยูวีที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งถึงสองเดือนซ้อน ในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็บ่งบอกตลาดเมืองไทยได้เป็นอย่างดีว่า พร้อมที่จะเปิดรับสินค้าใหม่ ๆ
เห็นได้จากรถยนต์ MG ที่ในตอนนี้ขึ้นแท่น รถยนต์ที่มียอดขายในเซกเมนต์ SUV สูงสุดในปี 2563 ที่ผ่านมาแล้ว และยอดขายครึ่งปีแรกก็ยังเติบโตถึง 32% ทั้ง ๆ ที่เพิ่งบุกตลาดเมืองไทยเมื่อปี 2557 เท่านั้น เทียบไม่ได้กับแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่เข้าสู่เมืองไทยมานานกว่า 50 ปี
3. ผ่าแผนการตลาด Great Wall Motor ส่ง พี่ HAVAL H6 มาชิมลางให้น้องเหมียว ORA Good Cat
Great Wall Motor ส่ง All New HAVAL H6 Hybrid SUV มาเปิดตัวในตลาดเมืองไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น PRO และ 1,249,000บาท สำหรับรุ่น ULTRA นับว่าเป็นการสร้างความมั่นใจในเบื้องต้น แน่นอนว่าสินค้าที่มีราคาสูงกว่าย่อมต้องสร้างมาร์จิ้นให้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม น้องเหมียว ORA Good Cat ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน เรียกได้ว่ามีความสำเร็จที่ผ่านมาการันตีระดับหนึ่งแล้ว คือ “โปรดักท์” ที่จะมาทำหน้าที่พลิกเกม ส่งแบรนด์ Great Wall Motor ให้เป็นรถที่ “เตะตา” ด้วยดีไซน์ปุกปิกน่ารักตะมุตะมิ และถูกคาดหวังให้ทำหน้าที่สร้างความ “ติดตา” สร้าง Brand Awareness ให้ผู้บริโภคคนไทยได้ทำความรู้จักในวงกว้าง ดังนั้น Great Wall Motor จึงส่งรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ออกมาก่อน ให้ผู้บริโภคและ Influencer กลุ่มหนึ่งได้ทดลองประสบการณ์ขับขี่อัฉริยะ GWM Application, ระบบการขายสินค้าของโชว์รูมก่อน ฯลฯ แล้วจึงส่ง ORA Good Cat ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% เข้ามาทำตลาดในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นฤดูขายหลักของอุตสาหกรรมรถยนต์
ผนวกกับการเปิดตัว GWM Experience Center แห่งแรกที่ไอคอนสยาม บนพื้นที่ รวมกว่า 1,600 ตารางเมตร ด้วยแนวคิด The 4th Space หรือ พื้นที่ที่ 4 สำหรับทุกคน นอกเหนือจากบ้าน ที่ทำงาน และสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ส่งแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น
รวมทั้ง ORA Good Cat ULTRA DEAL แคมเปญพิเศษที่มาจูงใจนี่ก็จัดเต็ม ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน มูลค่าสูงสุด 83,000 บาท กับส่วนลด และของแถมอีกเพียบ และถ้าหากว่าเปิดราคาออกมาแล้ว จะไม่ใช้สิทธิ์ที่จองไว้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์กันว่า ORA Good Cat น่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 8 แสนปลาย ถึง 9 แสนต้น ๆ ไปจนถึง 1.2 ล้านบาท ขณะเดียวกันนี่เป็นเพียงแค่ยอดจองเท่านั้น กับ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ก็มียอดจองมากกว่ายอดซื้อจริงราว 50% เท่านั้น ในส่วนของ ORA Good Cat จะมียอดซื้อจริงเท่าไหร่นั้น…เส้นทางของกำแพงเมืองจีนที่จะมาทอดตัวในเมืองไทย ยังยาวไกลอีกหลายหมื่นลี้ ปี 2564 แค่เริ่มต้นเท่านั้น
ในส่วนของทิศทาง “รถยนต์ไฟฟ้า” ในประเทศไทย นี่จะเป็น “จุดเปลี่ยน” ได้หรือไม่ ต้องลุ้นหนัก!!!
