เชื่อว่ามีหลายคนเห็นการจำลองภาพการประชุมบน Horizon โลกเวอร์ชวลของ Mark Zuckerberg แห่ง Facebook ที่ว่ากันว่าจะเป็นอนาคตแห่งโลก Metaverse กันไปบ้างแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่อิน ลองมาชมบรรยากาศการประชุมแบบนี้กันดีกว่า เพราะนี่อาจเป็นบรรยากาศที่หลายคน “คุ้นเคย” มานานก็เป็นได้
ผลงานดังกล่าวเป็นหนึ่งในงานของสตาร์ทอัพสายอีเวนท์แบบเวอร์ชวลจากญี่ปุ่นชื่อ Hikky ที่เปิดตัวรูปแบบการประชุมสไตล์ญี่ปุ่น กับฉากห้องประชุมที่มีคนนั่งประจันหน้ากันสองฝั่ง เพียงแต่คนที่อยู่ในห้องประชุมมาในรูปแบบอวาตาร์ พร้อมลายเส้นที่เราคุ้นเคย
สำหรับใครที่สงสัยว่า Hikky คือใคร พวกเขาคือสตาร์ทอัพสายเวอร์ชวลอีเวนท์ โดยที่ผ่านมา Hikky ยังเคยจัดงาน – สร้างแคมเปญให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นมาแล้วหลายราย เช่น สร้างสโตร์เวอร์ชวลให้กับ Walt Disney Japan สร้างเรือจำลองให้กับ TOYOTA Marine WORLD สร้างโรงภาพยนตร์แบบเวอร์ชวลให้กับ Netflix หรือจำลองการทดลองขับรถแบบเสมือนจริงให้กับ Audi
ผลงาน (บนซ้าย) สโตร์เวอร์ชวลของ Walt Disney Japan, (บนขวา) การ test-drive แบบเสมือนจริงของ Audi, (ล่างซ้าย) TOYOTA Marine WORLD และ (ล่างขวา) โรงภาพยนตร์เสมือนจริงของ Netflix
ความแปลกของ Hikky ข้อหนึ่งก็คือ นอกจากตัวซีอีโออย่าง Yasushi Funakoshi แล้ว พวกเขายังมีผู้บริหารลับชื่อ Phio เป็น Chief Virtual Officer ด้วยอีกหนึ่งคน โดย Phio นี้ไม่เคยเปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร และมีข้อมูลเพียงแค่ว่า Phio เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และพบว่าโลกเวอร์ชวลสามารถเยียวยาจิตใจของเขาได้
“โลกเวอร์ชวลเป็นโลกที่ไม่ว่าคุณจะพิการ ต้องนั่งรถเข็น คุณก็สามารถเป็นคนที่ทำงานได้ เพราะเราสื่อสารกันผ่านอวาตาร์ เราจึงมองว่า การทำงานด้วยอวาตาร์อาจถือเป็นการยกระดับการทำงานของโลก Remote Work ในอนาคต” Phio กล่าวไว้ในเว็บไซต์ของบริษัท
(ซ้าย) Phio ผู้บริหารด้านเวอร์ชวล และ Yasushi Funakoshi ซีอีโอของ Hikky
แบรนด์สนใจ VR เพิ่มในช่วง Covid-19
ทั้งนี้ สิ่งที่ Hikky มองเห็นก็คือ แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มให้ความสนใจสร้างประสบการณ์ VR มากขึ้นในช่วงที่ Covid-19 ระบาด เพื่อให้แบรนด์ยังคงถูกพูดถึง หรือเป็นที่จดจำในชีวิตประจำวันของผู้คนที่อาจไม่ได้ออกมาพบปะกันได้เหมือนในอดีต
อีกข้อมูลหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าความต้องการเข้าไปสู่โลกเสมือนจริงนั้นมีเพิ่มขึ้นก็คือข้อมูลจากสำนักข่าว Nikkei Asia ที่ระบุว่า จำนวนผู้ใช้งานแอป VRChat ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเสมือนจริงที่ผู้เล่นสามารถเข้าไปสร้างตัวตน และพูดคุยกันได้ฟรีนั้น เพิ่มขึ้น 47% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 2.4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปี 2019
อย่างไรก็ดี การจะแข่งขันในโลก Metaverse กับแบรนด์ใหญ่ ๆ เช่น Facebook, Microsoft, Roblox หรือ Epic Games ได้นั้น ทางบริษัทมองว่า ต้องมี Killer Content ซึ่งทำให้ทาง Hikky มองว่า อาวุธลับอย่างคาแรคเตอร์สไตล์อนิเมะน่าจะตอบโจทย์ และทาง Hikky จึงหยิบจุดเด่นข้อนี้มาปรับใช้ โดยส่งออกมาเป็นห้องประชุมเสมือนจริงที่มีเหล่าพนักงานอนิเมะนั่งกันเต็มห้องนั่นเอง
แต่นอกจากบุกตลาด VR ผ่านคอนเทนต์อนิเมะแล้ว ทางบริษัทยังมีแผนจะเปิดตัวช้อปปิ้งมอลล์แบบเวอร์ชวลในเร็ว ๆ นี้ด้วย โดยพวกเขามองว่า ห้างแนวใหม่นี้จะทำให้รูปแบบการช้อปปิ้งของผู้คนเปลี่ยนไปอีกระดับ
“ทุกวันนี้ผู้คนช้อปปิ้งในโลก 2D นั่นคือต้องช้อปผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ แต่การช้อปปิ้งบนโลก 3D จะเป็นการเปลี่ยนประสบการณ์ไปอีกขั้น และทำให้การซื้อขายแบบเสมือนจริงมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้คน” Phio กล่าว