เตรียมระดมทุนปีหน้า 1 – 3,000 ล้านบาท!!! “โรบินฮู้ด” แพลตฟอร์ม Food Delivery สัญชาติไทยตั้งเป้าเป็น SuperApp หลังยอดผู้ลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นแตะ 2.3 ล้านคนในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี และยอดออเดอร์เติบโต 750% ล่าสุดเพิ่ม 3 บริการใหม่ “ท่องเที่ยว – ส่งของ – สั่งสินค้าจาก Mart” คาดลุยตลาดต่างประเทศด้วยจุดต่าง “Platform of kindness”
จากแพลตฟอร์ม Food Delivery สัญชาติไทยที่มีผู้ใช้งานในระยะเริ่มต้นหลักพันคน หนึ่งปีผ่านไป “โรบินฮู้ด” (Robinhood) บริษัทในเครือ SCBX ได้กลายเป็นแพลตฟอร์ม Food Delivery ที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 2.3 ล้านคนไปแล้วเรียบร้อย ด้านผู้บริหารเปิดแผนขั้นต่อไป ด้วยการขยับขยายสู่การเป็น SuperApp – Regional Player พร้อม 3 บริการใหม่ในธุรกิจ Non-Food ได้แก่
1.) บริการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน กิจกรรมท่องเที่ยว รถเช่า ประกันภัย (Online Travel Agent : OTA) สำหรับบริการในจุดนี้ ทางแพลตฟอร์มมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการ SME ในการลดภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ตัวแทนในการขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการให้บริการในส่วนนี้จะไม่มีการเก็บ GP กับผู้ประกอบการแต่อย่างใด
2.) บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับร้านค้า โดยจะเน้นเป็นร้านค้าที่อาจไม่เคยอยู่กับแพลตฟอร์มใดมาก่อน ทำให้สินค้ามีความเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมองว่า สามารถดึงให้ผู้ประกอบการได้เจอกับลูกค้าโรบินฮู้ดซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อได้ง่ายขึ้น
3.) บริการรับ-ส่งของ (Express Service) แบบ on-demand เพื่อรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังขยายตัวแบบก้าวกระโดด
สร้าง “รายได้จาก GP” ผ่านธุรกิจ Non-Food
นอกจากนั้น หากใครที่ยังจำได้เรื่องจุดเด่นของแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดที่ประกาศไว้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัวกับการเป็น CSR Project ของธนาคารไทยพาณิชย์ ทำให้ไม่มีการเก็บค่า GP กับร้านค้าในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น และเป็นแพลตฟอร์มที่ทำใจว่าจะยอมขาดทุนแน่ ๆ 150 ล้านบาทนั้น (อ่านเพิ่มเติมที่ เตรียมขาดทุน 150 ล้าน!!! Robinhood โปรเจ็ค CSR ของ SCB ที่จะมาท้าทาย Food Delivery | Brand Buffet)
หนึ่งปีผ่านไป ทางผู้บริหารของแพลตฟอร์ม นำทีมโดยคุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด และคุณสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ก็ยังยืนยันคำเดิมนั่นคือไม่เก็บ GP จากร้านอาหาร – โรงแรมที่เข้าร่วมบนแพลตฟอร์ม แต่จะมีรูปแบบการหารายได้ผ่าน 3 ช่องทางใหม่เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม นั่นคือ
- รายได้จากค่าโฆษณา
- รายได้จากการเก็บ GP ในธุรกิจ Mart Service, Express และ Non-Travel Services
- การทำธุรกิจสินเชื่อ (Lending)
“ปีหน้า (2565) จะเป็นปีแรกที่เราเริ่มหารายได้จาก GP ผ่านบริการอย่างเช่น Mart – Express แต่ต้องย้ำว่า เราไม่ได้มีกำไรนะ แค่มีรายได้เข้ามา ส่วนการระดมทุน ธุรกิจยังไม่ต้องมีกำไรก็ได้ เพราะนักลงทุนเขาพิจารณาจากศักยภาพในการเติบโตมากกว่า ย้ำก่อนว่า เรายังขาดทุนแน่นอน และคงต้องขาดทุนไปอีกสักปีสองปีด้วย” คุณธนากล่าว
โดยศักยภาพในการเติบโตที่คุณธนากล่าวถึง มีตั้งแต่ตัวเลขไรเดอร์บนแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นจาก 8,000 คนเป็น 26,000 คน จำนวนร้านค้าที่เพิ่มขึ้นจาก 100,000 แห่งเป็น 164,000 แห่ง ยอดออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นจาก 20,000 ออเดอร์ต่อวันเป็น 150,000 ออเดอร์ต่อวัน และตัวเลขผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านคน เป็น 2 ล้านคน ภายในเวลา 3 เดือน (พฤษภาคม – สิงหาคม 2021)
ความท้าทายของ OTA ที่ “โตไปกับ Food”
ทั้งนี้ การบุกตลาด OTA หรือ Online Travel Agent นั้น ผู้บริหารโรบินฮู้ดมองว่า เป็นธุรกิจที่มีความท้าทายสูงและก็มีศักยภาพสูงมากเช่นกัน ซึ่งในมุมของโรบินฮู้ดมองว่าจะสามารถสร้างแคมเปญสนุก ๆ ได้มากกว่า หากเปิดตัวไปพร้อมกับธุรกิจ Food Delivery
“พอเรามี Travel แล้ว การพา Food และ Travel ไปด้วยกันน่าจะเป็นการ Synergy ที่ดี เช่น จองโรงแรมผ่านโรบินฮู้ดแล้วส่งอาหารฟรีให้ได้” คุณธนากล่าว
ทั้งนี้ตามแผนของแพลตฟอร์ม ในปี 2022 ธุรกิจ Food Delivery ของโรบินฮู้ดเตรียมจะเปิดตัวบริการในจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีความต้องการบริการด้าน Food Delivery สูงมากด้วยเช่นกัน
ยุคนี้ ฟีเจอร์ “แชท-ให้ทิป” ต้องมาแล้ว
นอกจากการขยายออกสู่ต่างจังหวัด ในตัวแอปพลิเคชันเองก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ซึ่งผู้บริหารโรบินฮู้ดกล่าวว่าจะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 6 ฟีเจอร์ ได้แก่ การให้เรทติ้งกับร้านค้าและไรเดอร์ การทำรีพอร์ตให้ร้านค้าได้เห็นสถิติยอดขายของตัวเอง การอนุญาตให้ร้านค้าสามารถสร้างโปรโมชันได้เองในหน้า Landing Page บริการแบบ subscription ฟีเจอร์แชท และสุดท้ายคือการให้ทิปกับไรเดอร์
ทั้งนี้ ส่วนของรีพอร์ตที่ทางแพลตฟอร์มจะมีให้กับร้านอาหารนั้น มีขึ้นเพื่อให้ร้านได้ทราบข้อมูลเบื้องต้น ว่าอาหารเมนูใดขายดี ฯลฯ ซึ่งทางผู้บริหารโรบินฮู้ดกล่าวว่า หากร้านค้าต้องการรีพอร์ตที่มีรายละเอียดเจาะลึกมากขึ้น อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นอกจากนี้ จะมีการร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม SCBX เช่น Auto X, Card X, Data X, SCB Tech X เป็นต้น ในการหาลูกค้า (customer acquisition) เพื่อนำข้อมูลมาต่อยอดบริการด้านสินเชื่อ และบริการทางการเงินอื่น ๆ รวมถึงการทำโฆษณา – การทำโปรโมชันกับลูกค้าด้วย
เตรียมจับมือแบงค์ – นอนแบงค์ ชำระเงินข้ามแพลตฟอร์ม
ผู้บริหารโรบินฮู้ดยังได้กล่าวถึงการชำระเงินที่เป็น Cashless 100% ด้วยว่า จะยังคงให้เป็นแบบนี้ต่อไป เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากผู้ซื้อ – ไรเดอร์ไม่ต้องจับเงินสด และการชำระแบบ Cashless ยังทำให้เงินสามารถโอนเข้าร้านอาหารได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ร้านค้ามีเงินไปจับจ่ายหมุนเวียนได้ไวกว่า
แต่เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค ทางโรบินฮู้ดมีแผนจะจับมือกับผู้ให้บริการ Mobile Banking อีก 2 – 3 รายเพื่อให้สามารถชำระเงินข้ามแพลตฟอร์มได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้า SCB อย่างเดียว) โดยจะมีการเปิดเผยรายชื่อในเร็ว ๆ นี้ว่าเป็นธนาคารใด รวมถึงมีกลุ่ม Non-Bank ด้วยเช่นกัน
การเชื่อมระบบชำระเงินนี้ ยังมีความสำคัญอย่างมากกับการขยายบริการสู่ระดับภูมิภาค ซึ่งทางผู้บริหารโรบินฮู้ดมองว่า สามารถทำได้หลากหลาย เช่น ทำระบบดิจิทัลเพย์เมนต์ผ่าน Local Payment Player ของประเทศนั้น ๆ ก็ได้ หรือจะจ่ายผ่าน e-Wallet ก็เป็นทางเลือกได้เช่นกัน
ตั้งเป้า 4 ธุรกิจ “Food-Travel-Mart-Express”
พร้อมกันนั้น ทางคุณสีหนาทยังได้กล่าวถึงเป้าหมายของโรบินฮู้ดใน 4 ธุรกิจไว้ ดังนี้
- Food ไม่เก็บ GP และเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอีเช่นเดิม โดยตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน 4 ล้านคน และร้านค้า 3 แสนราย
- Travel ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์ม OTA สัญชาติไทยที่ไม่เก็บ GP สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยจะมีโรงแรม และธุรกิจทัวร์บนแพลตฟอร์ม 45,000 ราย และสามารถสร้างทริปได้ 4.8 แสนทริปในปี 2022
- Mart เน้นเจาะเซกเมนต์ Premium mart ที่มีสินค้าคุณภาพสูงให้บริการ และมีตัวเลือกหลากหลาย โดยเน้นไปที่ร้านค้าที่ไม่เคยปรากฏตัวบนแพลตฟอร์มใด ๆ มาก่อน
- Express เน้นเจาะธุรกิจ E-Commerce ที่ต้องการส่งของแบบ On-demand โดยตั้งเป้ายอดการจัดส่งไว้ที่ 4,000 ครั้งต่อเดือน
ส่วนการระดมทุนนั้น ทางโรบินฮู้ดระบุว่า ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญของ SCBX ได้เริ่มกระบวนการไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นการระดมทุนเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีหน้า และคาดว่าตัวเลขในการระดมทุนอาจอยู่ที่ราว 1,000 – 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้คุณธนาเผยว่า เพื่อการสเกล แพลตฟอร์มโรบินฮู้ดอาจต้องใช้เงินอีกประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านภายในปี 2023 เลยทีเดียว
///////////////////////////////////////
ข้อมูลของแพลตฟอร์ม
ปัจจุบัน ตัวเลขไรเดอร์ 26,000 คน จำนวนร้านค้า 164,000 แห่ง ยอดออเดอร์เฉลี่ย 150,000 ออเดอร์ต่อวัน และตัวเลขผู้ใช้งาน 2 ล้านคน
5 อันดับเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว ชานมไข่มุก อาหารจานเดียว แซลมอน และกาแฟ
พื้นที่ที่มีการจัดส่งมากที่สุดได้แก่ จตุจักร ห้วยขวาง บางกะปิ ลาดพร้าว สายไหม บางเขน สวนหลวง ดินแดง ประเวศ และวังทองหลาง