HomeBrand Move !!ไม่หยุดแค่เวทีนางงาม TPN Global เจอกลุ่มเป้าหมายใหม่ “นักลงทุนคริปโต” หลังเปิดตัว “MUT NFT” ตั้งเป้าปี 65 ฟันรายได้ 1,500 ล้านบาท

ไม่หยุดแค่เวทีนางงาม TPN Global เจอกลุ่มเป้าหมายใหม่ “นักลงทุนคริปโต” หลังเปิดตัว “MUT NFT” ตั้งเป้าปี 65 ฟันรายได้ 1,500 ล้านบาท

แชร์ :

ปิยาภรณ์ แสนโกศิก TPN global MUT

คุณปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN Global)

จากการมีชื่อเสียงในแวดวงการประกวดความงามในระดับโลกกับเวที Miss Universe 2018 และการได้ลิขสิทธิ์จัด Miss Universe Thailand (MUT) มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา วันนี้ “คุณปุ้ย – ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” หรือที่แฟน ๆ นางงามเรียกเธอว่า “แม่ปุ้ย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN Global) ลุกขึ้นมาประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทางกลุ่มธุรกิจ ด้วยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในปี 2565 ที่บริษัทตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท แถม 50% ของรายได้นี้ มาจากธุรกิจ “สินทรัพย์ดิจิทัล และ NFT” ภายใต้การนำของบริษัทสตาร์ทอัพในเครืออย่าง “Crownex” ด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การประกาศดังกล่าวของคุณปิยาภรณ์ระบุว่า ธุรกิจของกลุ่ม TPN หรือ TPN Group ในอนาคตจะเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Beautytainment โดยมีรายได้จาก 3 ช่องทางหลัก ดังนี้

  • TPN Global : ดูแลธุรกิจการจัดอีเวนท์ ศิลปิน สปอนเซอร์ การจัดประกวดนางงาม ธุรกิจความบันเทิง งานแสดงสินค้า การจัดประชุม ฯลฯ (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 20%)
  • MUT Select : ดูแลด้านธุรกิจ – สินค้าเพื่อความงาม ซึ่งเป็นตลาดที่ทาง TPN ระบุว่ามีมูลค่าสูงถึง 2.2 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะโต 6-9% ในปี 2022 โดยปัจจุบันมีสินค้าแล้วคือเซรั่มภายใต้แบรนด์ Aotura และคอลลาเจนจากญี่ปุ่นในชื่อ Colla C Collagen Yuzu และทางบริษัทมีแผนจะต่อยอดไปในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเน้นการทำตลาดผ่านตัวแทนนางงาม เช่น คุณอแมนด้า ชาลิสา ออบดัม เป็นต้น (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% หรือ 450 ล้านบาท)
  • Crownex : สตาร์ทอัพผู้พัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัล และ NFT บนเทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงต่อยอดสินทรัพย์เหล่านี้ให้มีศักยภาพและสามารถเติบโตโลกใหม่อย่าง Metaverse ได้ด้วย (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50% หรือ 750 ล้านบาท)
tpn revenue 2022

สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2565

สร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ 4C

สิ่งที่คุณปิยาภรณ์กล่าวต่อไปก็คือกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย 1,500 ล้านบาท หรือที่เธอเรียกว่า 4C ซึ่งประกอบด้วย

  • Community : การสร้างชุมชนของคนที่มีความสนใจในการประกวดนางงาม ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, LINE รวมถึงช่องทางใหม่ ๆ อย่างเช่น Bitkub ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวมาร์เก็ตเพลสสำหรับซื้อขาย NFT ในเร็ว ๆ นี้
  • Content : การสร้างคอนเทนต์โดยเน้น Storytelling ผ่านสาวงาม – ผู้เข้าประกวด ที่คุณปิยาภรณ์ยกตัวอย่างการให้ผู้เข้าประกวดสวมผ้าไทย – สินค้าไทยในเวที Miss Universe 2018 และได้รับการตอบรับอย่างดี สินค้าอย่างผ้าทอมือได้รับความสนใจในวงกว้างมากขึ้น
  • Channel : การมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย และต่อยอดไปสู่การซื้อขายออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น LINE, Shopee, Lazada 
  • Customer : การทำความเข้าใจ Customer Journey โดยใช้เทคโนโลยีและ BigData เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล

ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า ทุกธุรกิจมีจุดเชื่อมโยงมาจากการประกวดนางงาม ซึ่งคุณปิยาภรณ์ระบุว่า เป็นธุรกิจที่มีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง เช่น ฐานแฟนจากกลุ่ม LGBTQ เพจครอบครัวนางงาม เป็นต้น

รู้จัก Crownex สตาร์ทอัพ ในมือ ลูกชายแม่ปุ้ย

นอกจากกลยุทธ์ 4C ที่คุณปิยาภรณ์กล่าวไว้ข้างต้น อีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ของ TPN Group ที่ระบุว่ามาจาก Crownex (คราวเอ็กซ์) ก็น่าสนใจอย่างมากเช่นกัน เพราะทางกลุ่มระบุว่าจะมีมูลค่าถึง 50% ของรายได้คาดการณ์ในปี 2022 เลยทีเดียว

เมื่อถามว่า Crownex คือใคร “คุณอินดี้ – สพลเชษฐ์ แสนโกศิก” (ลูกชายของคุณปุ้ย – ปิยาภรณ์)ในฐานะ Chief Innovation Officer ตอบกับ Brandbuffet ว่า Crownex คือสตาร์ทอัพที่ดูแล และพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัล และ NFT ของทาง TPN Global ร่วมกับทาง Bitkub

สพลเชษฐ์ แสนโกศิก crownex tpn nft

คุณสพลเชษฐ์ แสนโกศิก Chief Innovation Officer ผู้บริหาร Crownex

ที่ผ่านมา ทาง Crownex ได้ทดลองพัฒนา NFT โดยนำคอนเทนต์สาวงามจากเวทีการประกวด Miss Universe Thailand (MUT) มาสร้างเป็นการ์ดสะสม (เสียค่า Mint เป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท) และนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น LINE, Bitkub ซึ่งพบว่าได้รับความสนใจจากแฟนคลับจำนวนมาก โดยคุณสพลเชษฐ์เล่าว่า ภายในเวลา 30 วินาที มีผู้เข้ามารอต่อคิวเพื่อรับการ์ดสะสมดังกล่าวนี้มากกว่า 15,000 ราย จนทำให้ Bitkub ต้องซื้อเซิร์ฟเวอร์เพิ่ม และหลังจากแจกการ์ดไปแล้ว ทางกลุ่มแฟนคลับพบว่า มีนักเก็งกำไรมาขอซื้อต่อ และสามารถทำเงินได้จากการจำหน่ายการ์ดสะสมดังกล่าวด้วย

“เรามองว่า NFT คือการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งใหญ่ เพราะ NFT ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีมูลค่า ทำให้รู้ว่า ภาพชุดนี้ใครเป็นเจ้าของ เพราะมันถูก track ได้หมดบนบล็อกเชน สำหรับ Crownex เราจะเล่าเรื่องราวของแบรนด์ MUT ผ่าน NFT ด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากแฟนนางงามจะเก็บสะสม MUT NFT เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางใจแล้ว ยังสามารถทำกำไรได้ในอนาคตอีกด้วย” คุณสพลเชษฐ์กล่าว

ทั้งนี้ ทาง Crownex มีแผนจะเปิดตัวการ์ดนางงาม MUT ทั้งสิ้น 7 ชุด (ปัจจุบันเผยแพร่ไปแล้ว 3 ชุด) ซึ่งทางคุณปิยาภรณ์เผยว่า การเปิดตัวการ์ดนางงามนี้ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่อย่าง “นักเก็งกำไร” ในตลาดคริปโต นอกเหนือจากกลุ่มแฟนนางงามด้วย

“ในตลาดต่างประเทศ NFT ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก และนักเก็งกำไรหลายคนมีการเก็บสะสมการ์ดเหล่านี้กันอย่างจริงจัง เมื่อเราผลิตการ์ดนางงามออกมา เขาก็ให้ความสนใจ และมีการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการประกวดเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการวิเคราะห์นางงามแต่ละคนว่าใครมีโอกาสคว้ารางวัลชนะเลิศ ซึ่งจะมีผลต่อมูลค่าของการ์ดนางงามด้วย ทั้งหมดนี้จึงถือเป็นการสร้างแบรนด์ที่ดีสำหรับ TPN Global ด้วยเช่นกัน” คุณปิยาภรณ์กล่าว

สร้าง NFT ชุดพิเศษ “Women Worrior”

นอกจากการทำ MUT NFT ให้แฟน ๆ ได้สะสมกันแล้ว ทาง Crownex ยังได้จัดทำ NFT ชุดพิเศษในชื่อ Women Worrior ที่สร้างขึ้นจากการนำภาพถ่ายของสาวงามทั้ง 30 คนที่เข้าร่วมประกวด Miss Universe Thailand ในปีนี้ มาผนวกเข้าด้วยกันกลายเป็นภาพหญิงสาวในโลกดิจิทัลที่มีใบหน้าเป็นเอกลักษณ์ด้วยอีกหนึ่งชิ้น ซึ่งผลงานดังกล่าวคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานเบิกทางการรุกตลาด Metaverse ของ Crownex ที่น่าสนใจด้วย

mut nft crownex women warrior

ผลงาน NFT ชื่อ Women Warrior ที่นำภาพสาวงาม 30 คนจากภาพด้านซายมาสร้างเป็นสาวดิจิทัลคนใหม่

ลุยอาณาจักร Metaverse

คุณสพลเชษฐ์ยังได้กล่าวถึงทิศทางของ Crownex บนโลก Metaverse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ของโลกเสมือนจริงด้วยว่า ทางบริษัทมีความสนใจเช่นกัน โดยนอกจากผลงาน Women Worrior แล้ว ในปัจจุบันทางบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาอวาตาร์เพื่อทำงานร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ และพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบอื่น ๆ ด้วย

“เราเชื่อใน Blockchain Economy และมองว่า การมาถึงของ Metaverse ทำให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ต้องการในแบบที่เราไม่สามารถทำได้บนโลกจริง ๆ อีกทั้งปัจจุบัน ผู้คนก็ยังให้มูลค่ามันอย่างต่อเนื่อง เราจึงเชื่อว่า Metaverse คือตลาดที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต และการเล่าเรื่องของแบรนด์ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนเทคโนโลยีจะกลายเป็นสิ่งที่มีบทบาทอย่างมากแน่นอน” คุณสพลเชษฐ์ กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ นอกจากพัฒนา NFT ให้กับทาง TPN Global แล้ว ทาง Crownex ยังจับมือกับเชนร้านอาหารวัยรุ่นแบรนด์ Hottobun ทำ NFT ร่วมกันด้วย โดยสาเหตุที่จับมือกันนั้นเพราะ Hottobun เป็นร้านที่เจาะกลุ่มวัยรุ่น เน้นตลาดมหาวิทยาลัย และเป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับเงินคริปโต – บล็อกเชนดีอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีการจับมือกับ Food for Fighting ทำ NFT เพื่อการกุศลด้วย


แชร์ :

You may also like