หลังเงียบไปจากสถานการณ์โควิดระบาดหนัก กระแสธุรกิจกัญชงเริ่มกลับมาอีกครั้ง จากนโยบายรัฐปลดล็อกพืชเศรษฐกิจใหม่ อย.เริ่มให้ใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์ โรงงานสกัดสารน้ำมันกัญชง (CBD) และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
“ทอม เครือโสภณ” นำทัพ GTH ประเดิมเปิดร้านแฟรนไชส์สายเขียว HEMP HOUSE สาขาแรกที่เอ็มควอเทียร์ เป็นตัวอย่างให้นักลงทุนดูต้นแบบ วางเป้าหมาย 3 ปี (2565-2567) เปิดให้ได้ 1,000 สาขา ชู “คาเฟ่สายเขียว” เป็นทางเลือกใหม่ลงทุนแฟรนไชส์แข่งร้านกาแฟ-ชาไข่มุก เกลื่อนตลาด
ทำธุรกิจกัญชงต้นน้ำยันปลายน้ำ
บริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด หรือ GTH ธุรกิจในเครือบริษัทเอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้นำธุรกิจ Plant-based ในไทย ได้ประกาศลงทุนธุรกิจกัญชงตั้งแต่ต้นปี 2564 เริ่ม “ที่ต้นน้ำและกลางน้ำ” ร่วมมือกับ ม.ขอนแก่น ปลูกกัญชง 1,000 ไร่ และสกัดน้ำมันกัญชง เทอพีน (CBD) เพื่อเป็นวัตถุดิบส่งให้ NRF และ GTH นำไปพัฒนาเป็นสินค้า
ส่วนธุรกิจ “ปลายน้ำ” ผลิตสินค้าทั้งกลุ่มอาหารและของใช้ที่มีส่วนผสมน้ำมันกัญชง รวมทั้ง “ช่องทาง” การจัดจำหน่ายในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ HEMP HOUSE โดยประเดิมเปิดสาขาแรกที่เอ็มควอเทียร์ หลังชะลอแผนไป 6 เดือน จากสถานการณ์โควิดระบาดหนักก่อนหน้านี้ สาขาแรกเป็นการลงทุนของ GTH เอง
ลงทุนแฟรนไชส์ 3 แสน
– รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ HEMP HOUSE เบื้องต้นพื้นที่ขนาด 10 ตารางเมตรขึ้นไป เก็บค่าแฟรนไชส์ 300,000 บาท สัญญา 2 ปี เงินจำนวนนี้จะนำไปตกแต่งร้าน ซื้ออุปกรณ์ให้ผู้ลงทุน โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกระหว่างเปิดร้าน หลังครบสัญญา 2 ปี ต่อสัญญาปีละ 150,000 บาท
– ผู้ลงทุนแฟรนไชส์เป็นเจ้าของทำเล เสนอให้ GTH พิจารณา หลักเกณฑ์การคัดเลือก คือ อยู่ในชุมชน เช่น ห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สำนักงาน หมู่บ้าน ที่มีคนผ่านวันละ 200-500 คน คาดว่าจะคุ้มทุนใน 6 เดือน
– หลังจากเปิดร้านต้นแบบ HEMP HOUSE ที่เอ็มควอเทียร์แล้ว คุณจุลภาส (ทอม) เครือโสภณ ประธาน GTH วางแผนจะเปิดแฟรนไชส์ให้ได้ปีละกว่า 300 สาขา ภายใน 3 ปี จะเปิดให้ครบ 1,000 สาขา โดยจะมีร้านโมเดล “คีออสก์” ขนาดเล็ก มาเป็นตัวเลือกลงทุนเพิ่มเติม NRF มีแผนที่จะนำบริษัท GTH ธุรกิจกัญชงเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตด้วย
4 ปัจจัยหนุนลงทุนแฟรนไชส์สายเขียว
ความน่าสนใจของการลงทุนแฟรนไชส์ HEMP HOUSE คุณณัฏฐิฏา ภูมิภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GTH สรุปไว้ดังนี้
1. ตัวเลือกใหม่ : ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ในตลาด ประเภทเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่เป็น ร้านกาแฟ ร้านชานมไข่มุก ซึ่งมีสินค้าไม่แตกต่างกันและแข่งขันสูง GTH จึงมองโอกาสว่าแฟรนไชส์ HEMP HOUSE เครื่องดื่ม ขนมหวาน และสินค้าส่วนผสมกัญชง เป็นตัวเลือกใหม่ในการลงทุนแฟรนไชส์ ที่ยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้
2. พื้นที่ร้านยืดหยุ่น : ด้วยงบประมาณลงทุนเริ่มต้น 300,000 บาท พื้นที่ขนาด 10-24 ตารางเมตร และโมเดลใหม่ “คีออสก์” พื้นที่ขนาดเล็ก เงินลงทุนลดลง 50% หรือราว 150,000 บาท เป็นรูปแบบที่ยืดหยุ่น สามารถขยายสาขาได้เร็ว ไม่แพ้ร้านชาไข่มุกในปัจจุบัน น่าจะจูงใจให้ผู้สนใจมาลงทุนแฟรนไชส์
3. คนรุ่นใหม่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ : พบว่าผู้ที่สนใจเสนอพื้นที่เปิดร้านแฟรนไชส์ HEMP HOUSE เข้ามาแล้ว ส่วนใหญ่เป็น Gen Y อายุ 35 ปี ขึ้นไป เป็นกลุ่มคนที่ต้องการสร้างธุรกิจของตัวเอง และมองว่าเทรนด์ธุรกิจกัญชง ยังเติบโตได้อีกในอนาคต หากเทียบกับแฟรนไชส์อื่นๆ
4. สินค้าทำราคาได้สูง : หลังจากภาครัฐเริ่มปลดล็อกพืชกัญชงในปีนี้ ทำให้สินค้าที่มีส่วนผสมกัญชงเพิ่งเริ่มเข้ามาทำตลาด จึง “ทำราคา” ได้สูงกว่าสินค้าทั่วไป หากเป็นเครื่องดื่มประเภทเดียวกัน เครื่องดื่มส่วนผสมน้ำมันสกัดกัญชงราคาจะเพิ่มขึ้น 20-30% หรือต่อแก้วราคาจะสูงกว่า 20 บาท แฟรนไชส์จึงมีโอกาสสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น
“มาร์เก็ตเพลส” สินค้ากัญชง
แฟรนไชส์ HEMP HOUSE วางจุดขายเป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่เชิงสุขภาพสายเขียว Healthy Plants จำหน่ายสินค้า เครื่องดื่มและอาหารที่ใช้สารสกัดกัญชง เทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ดูได้จากตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชงทั่วโลก ในปี 2024 มีมูลค่า 103,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดเอเชีย อยู่ที่ 12,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
GTH วางเป้าหมายให้แฟรนไชส์ HEMP HOUSE เป็น “มาร์เก็ตเพลส” ช่องทางวางขายสินค้าของพาร์ทเนอร์ ที่พัฒนาสินค้ากัญชงอยู่ในขณะนี้ ทั้งรายใหญ่และเอสเอ็มอี โดยเป็นการทำธุรกิจแบบแบ่งค่า GP ร่วมกัน
โดยจะมีสินค้าของ GTH ไม่เกิน 20%
สินค้าหลักที่ขายใน HEMP HOUSE จะเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมสารสกัดน้ำมันจากใบกัญชง (Hemp Leaf Oil) และกลิ่นเทอพีน ที่ช่วยเรื่องผ่อนคลาย เมนูหลักประกอบด้วย เครื่องดื่ม ชาเขียว ชาไทย ชาใต้หวัน โกโก้ โซดารสผลไม้ และชานมไข่มุกที่แตกต่างจากทั่วไป ด้วยการเบลนด์ใบชาให้ได้รสชาติของเทอพีนกัญชงและท็อปปิ้งไข่มุกเทอพีนกัญชง โดย GTH จะเป็นผู้ส่งวัตถุดิบทั้งหมดให้กับร้านแฟรนไชส์
นอกจากนี้ยังมีขนมเทอพีนกัญชงแบรนด์ TOM เช่น ทองม้วนกรอบกลิ่นรสเทอพีน ป็อปคอร์นชีสกลิ่นรสเทอพีน ช็อกโกแลตเคลือบข้าวพองกรอบกลิ่นรสเทอพีน และ ไอศกรีมเทอพีน
ปีหน้าจะเพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนตัวและอาหารเสริม จากสารสกัดกัญชง เข้ามาเพิ่มเติม ทั้งแบรนด์ของ GTH เองและพาร์ทเนอร์ เช่น Smooth E สเปรย์ปรับอากาศกัญชง Dentiste ยาสีฟันและเมาท์สเปรย์กัญชง Bertram (เจ้าของแบรนด์เซียงเพียวอิ๊ว) ออกแบรนด์ใหม่ยาดม Urban Mint ส่วนผสมกัญชง Divana กลุ่มผลิตภัณฑ์สปากัญชง
“เราอยากทำร้าน HEMP HOUSE ให้เป็นเหมือนแบรนด์ สตาร์บัคส์ คือเริ่มจากขายเครื่องดื่ม จากนั้นขยายสู่คาเฟ่ไลฟ์สไตล์ จุดนัดพบสายเขียว”
