หลังจากต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านนานหลายเดือนจากมาตรการคุมเข้ม เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาระบาดซ้ำหนักตั้งแต่ต้นปี 2564 กระทั่งวันที่ 1 กันยายน 2564 ศบค.เริ่มปลดล็อกดาวน์ให้บางกิจกรรมกลับมาเปิดได้ตามปกติ และสามารถเดินทางออกนอกพื้นที่สีแดงเข้มได้ หลายคนจึงเริ่มออกไปจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เพื่อชดเชยชีวิตในช่วงที่ล็อกดาวน์
บริษัท อินเทจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Intage บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางการตลาด จึงได้เก็บข้อมูลเพื่อสะท้อนกิจกรรมที่คน Gen Y และ Gen Z อยากทำมากสุดหลังปลดล็อกดาวน์ โดยเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจำนวน 200 คนจาก Social Data และ Social Listening โดยพบกิจกรรมที่คนรุ่นใหม่อยากทำมากที่สุดหลังจากปลดล็อกดาวน์ มีดังต่อไปนี้
1.เลือกท่องเที่ยว (59%)
โดยยอดเงินที่ใช้ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 5,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนเลือกเที่ยวในเมืองมากกว่า แต่ด้วยมาตรการคลายล็อกดาวน์ล่าสุด และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง ทำให้เริ่มเห็นว่าไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวในเมืองที่กลับมาคึกคักเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวทะเลหรือเชิงธรรมชาติ เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมามากขึ้น ยิ่งเป็นช่วงเข้าใกล้สิ้นปีซึ่งเป็นเทศกาลท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ที่อายุระหว่าง 21-37 ปี จากการที่คน Gen นี้จะติดเล่นโซเชียลมีเดียมากกว่า Gen อื่นๆ จึงเชี่ยวชาญในการหาข้อมูลจากสื่อโฆษณาใน Social Media และนั่นทำให้คน Gen Y เป็นกลุ่มที่เลือกจะออกไปใช้ชีวิตในวันหยุดด้วยการทำกิจกรรมข้างนอก หรือประเภท Outdoor มากขึ้น ตั้งแต่ออกไปคาเฟ่ เดินทาง ทะเลแล้วค่อยเอาภาพที่ตัวเองถ่ายกลับมาแชร์กันในโลกโซเชียลอีกที
นอกจากนี้คน Gen Y ยังชอบลองอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มมากกว่า Gen อื่นๆ อีกด้วย โดยเฉพาะร้านกาแฟ บรรดาชานมไข่มุก ร้านอาหารที่มีสไลต์แปลกใหม่ และเนื่องจากคน Gen Y เองก็มีความเครียดไม่แพ้คน Gen X ทำให้พวกเขามองหากิจกรรมเพื่อลดความเครียดออกไป ทั้งยังใส่ใจในเรื่องสุขภาพจิตอย่างมาก จากข้อมูล Social Listening พบว่า Keyword คลายล็อกดาวน์+ไปเที่ยว พบมากที่สุด โดยเฉพาะการไปคาเฟ่ Post ที่มี Engagement สูงที่สุดมาจากเพจ Cafe Story: รีวิวคาเฟ่ ทุกวัน และเพจท่องเที่ยวอย่าง The Gaijin Trips แบกเป้เที่ยวคนเดียว ที่แชร์เรื่องราวแบกเป้ไปท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงการคลายล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ใน Twitter ยังมีชาวทวิตออกมาโพสต์ถึงช่วงเวลาที่คอยการไปเที่ยวคาเฟ่ที่ตัวเองอยากไป Check-in หลังคลายล็อกดาวน์อีกด้วย
2.ช็อปปิ้ง (57%)
แม้ในช่วงอยู่บ้าน การช็อปผ่านออนไลน์จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ความรู้สึกของการได้เห็นสินค้าที่ตัวเองอยากได้กับตา อยากสัมผัสก่อนที่จะเสียเงินซื้อคงไม่หายไป ทำให้การเดินช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ จึงเป็นกิจกรรมที่หลายคนโหยหาและต้องการหลังคลายล็อก ไม่ว่าจะทั้งสยามที่เคยเป็นแหล่งรวมตัวของคนรุ่นใหม่และที่ช็อปปิ้งของชาวต่างชาติ
3.ดูหนังที่โรงภาพยนตร์ (44%)
จำได้ไหมว่าดูหนังในโรงภาพยนตร์ครั้งสุดท้ายกันเมื่อไหร่ หลายคนคิดถึงบรรยากาศในโรงหนัง อยากพักจากการชม Netflix ที่บ้านเพื่อมากินป๊อปคอร์นและน้ำอัดลมระหว่างชมภาพยนตร์ในโรงหนังแล้ว โดย Hashtag ที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนังคงหนีไม่พ้น #ร่างทรง ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คนไทยหลายๆ คนน่าจะรอชมเพราะหลายประแทศอย่างเกาหลี ไต้หวัน ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ากลัวแบบสุดๆ ไปเลย นอกจากนี้ บางเพจยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับของรางวัลจากหนังเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น Fast & Furious 9 ที่เคยเลื่อนฉายออกไปเพราะสถานการณ์โควิด หรืออย่างหนังสายคู่จิ้นเรื่อง #คั่นกูTheMovie ที่กำลังเป็นกระแสในโลกทวิตเตอร์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
4.เลือกทานอาหารนอกบ้าน (37%)
โควิด-19 ส่งผลให้การนั่งกินอาหารนอกบ้านน้อยลง หลายคนเริ่มหันมาทำอาหารกินเองที่บ้าน ขณะที่บางคนก็ซื้อกลับหรือสั่งเดลิเวอร์แทน การออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านเลยกลายเป็นกิจกรรมที่หลายคนอยากทำ โดยเฉพาะคน Gen Z ที่เกิดมาพร้อมกับเครื่องมือเพื่อสร้างสรรค์ Content ที่สะดวก อีกทั้งคน Gen นี้ยังมีความเป็นนักแชร์ นักหาข้อมูลมากกว่าคนเจนอื่น และไม่ได้แค่เป็นผู้รับข้อมูลจากสื่อเพียงอย่างเดียว แต่พร้อมจะสร้าง Content เพื่อตอบโต้กลับเมื่อมีความคิดเห็นต่าง คน Gen Z จะมี content ในสไตล์ของพวกเขาเอง จะเห็นได้จากเห็นกระแส hashtag ต่างๆ มากมายใน Twitter อย่างเวลาที่ออกไปตามล่าของกินอร่อยๆ ตามที่เขารีวิวเอาไว้ ก็พร้อมจะแชร์ความคิดเห็นของตัวเองผ่านโซเชียล
5.ไปสังสรรค์ตามสถานบันเทิง (24%)
ในช่วงโควิด-19 ทำให้สายปาร์ตี้เหงาไม่น้อยทีเดียว เพราะคงไปนั่งชิลจิบแอลกอฮอล์ที่ไหนไม่ได้เลย ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คน Gen Y และ Gen Z บ่นถึง แต่ในส่วนของสถานบันเทิงผับ บาร์ ยังน้อย สาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะเพราะหลังคลายล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ให้ร้านอาหารเปิดได้ตามปกติ แต่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม และผับบาร์ยังคงปิดให้บริการ ซึ่งทางภาครัฐยังมีมาตรการที่จำกัดเวลาและคุมเข้ม ชาวโซเชียลจึงมองว่าคนที่ไปใช้บริการต้องมี COVID Pass อีกประเด็นถ้าเกิดคลัสเตอร์หลายที่รัฐจะล็อกดาวน์อีกไหม และถ้าไม่มีระบบสาธารณสุขที่จะรองรับผู้ป่วยสำหรับกลุ่มคลัสเตอร์ที่อาจเกิดขึ้นใหม่จะทำย่างไร? สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่คนรุ่นใหม่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของ COVID-19 แม้คลายล็อกดาวน์แล้วก็ตาม
นอกจากกิจกรรมต่างๆ ของคน Gen Y และ Gen Z ที่อยากทำหลังคลายล็อกดาวน์แล้ว สิ่งที่คนรุ่นใหม่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโควิด-19 ในเรื่องมาตรการความปลอดภัยของสถานที่ที่ไปใช้บริการ ซึ่งกลุ่มคน Gen Y และ Gen Z ให้ความสำคัญกับเรื่อง “การมีการตรวจคัดกรอง” มากที่สุด รองลงมาคือ “การทำความสะอาดสถานที่อย่างสม่ำเสมอ” โดยพบว่า คนรุ่นใหม่มีความกังวลสูงถึง 95% เกี่ยวกับโอกาสที่อาจจะติดเชื้อกลับมาจากการออกไปทำกิจกรรมข้างนอก และ 77% คิดว่ามีโอกาสที่ในบ้านเราอาจจะกลับมาอยู่ในสภาวะการแพร่ระบาดอีกครั้ง จากทวิตเตอร์ที่เป็น Top Post 94, 670 Engagement ทวิตถึงข้อความที่เตือนและความกังวลถึงเรื่องคลายล็อคดาวน์ว่าสถานการณ์จริงๆ แล้วกลับไม่ได้ดีขึ้นในเรื่องของยอดผู้ติดเชื้อ
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand