หากรัฐบาลเอลซัลวาดอร์เป็นรัฐบาลแรกที่ยอมรับเงินคริปโตในการชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย รัฐบาลเกาหลีใต้ก็น่าจะเป็นรัฐบาลเบอร์ต้น ๆ ของโลกที่มีแผนจะเข้าสู่ “Metaverse” อย่างเป็นทางการเช่นกัน โดยพวกเขาเรียกแผนนี้ว่า “Metaverse Seoul” กับการสร้างพื้นที่จำลองบนโลกเสมือนจริงที่รวมฟังก์ชันต่าง ๆ ของประเทศลงไป ภายใต้งบประมาณ 3,900 ล้านวอน และโลกเสมือนจริงนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Seoul Vision 2030 Plan ด้วย
ส่วนประชาชนของเกาหลีใต้จะได้ประโยชน์อะไรจากการสร้าง Metaverse Seoul ประการแรกคงเป็นเรื่องความสะดวกสบาย เพราะตามแผน หาก Metaverse Seoul สร้างแล้วเสร็จ ชาวเมืองสามารถสวมแว่น VR และขอเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของเมืองได้เลยบนโลกเสมือนจริง
หรือเวลามีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว เกาหลีใต้จะมีพิธีตีระฆังโพชินกัก (Bosingak Belfry) แต่ความพิเศษในปีนี้ก็คือ การตีระฆังโพชินกัก จะจัดขึ้นทั้งในโลกจริง และโลกเสมือนจริงนั่นเอง
(หมายเหตุ – โพชินกักเป็นหอระฆังที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ในอดีตทำหน้าที่บอกเวลา โดยจะตีทั้งหมด 33 ครั้งในตอน 4.00 น. เพื่อบอกว่าเข้าสู่วันใหม่ และตีอีก 28 ครั้งในตอน 19.00 น. เพื่อปิดประตู แต่ปัจจุบัน การตีระฆังโพชินกักจะมีเฉพาะในวันสำคัญ ได้แก่ วันขึ้นปีใหม่ วันขบวนการกอบกู้อิสรภาพ และวันฉลองอิสรภาพของทุกปี ทั้งนี้ ในวันขึ้นปีใหม่ หอระฆังโพชินกักถือเป็นหนึ่งในสถานที่หลักของการเฉลิมฉลองด้วย โดยจะมีประชาชนมาร่วมนับถอยหลังสู่วันใหม่ของปีเป็นจำนวนมาก)
Metaverse Seoul ยังมีแผนจะบรรจุโบราณสถานอย่างประตู Donuimun ที่เคยถูกทำลายไปเมื่อปี ค.ศ. 1915 ลงในโลกเสมือนจริงใบนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ทำความรู้จักด้วย หรือการจัดกิจกรรมเช่น เทศกาล Seoul Lantern Festival ที่มีชื่อเสียง ก็มีแผนจะจัดขึ้นบน Metaverse เช่นกัน (เป็นแผนงานในปี 2023) เพื่อให้คนที่สนใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกก็สามารถเข้าร่วมงานเทศกาลนี้ได้
นอกจากนี้ Metaverse Seoul ยังรองรับการจัดอีเวนท์ขนาดใหญ่ได้ด้วย
กิจกรรม Seoul Lantern Festival ปี 2020 ขอบคุณภาพจาก korean.visitseoul.net
ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ผ่าน Metaverse ก็ยังได้
การเข้าสู่ Metaverse ของกรุงโซลยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะทางเมืองมีแผนจะนำบริการต่าง ๆ ไปใส่ไว้ใน Metaverse อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ประชาชนจองสวัสดิการต่าง ๆ ที่รัฐจัดเตรียมไว้ เช่น การนั่งรถบัสชมเมือง การเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงสามารถใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้ด้วย
นอกจากใช้เพื่อบริการประชาชนแล้ว การสร้าง Metaverse Seoul ยังอาจสร้างชื่อให้เกาหลีใต้ และทำให้เกาหลีใต้สามารถดึงนักพัฒนาเก่ง ๆ ให้เข้ามาทำงานในประเทศได้มากขึ้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งการดึงนักพัฒนาเข้ามาในประเทศได้นั้น ยังส่งผลต่อการสร้าง Ecosystem ของเมืองอัจฉริยะให้เกิดได้เร็วขึ้น และจะเป็นผลดีต่อประเทศเกาหลีใต้ที่เริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัยไม่ต่างจากญี่ปุ่น หรือไทยนั่นเอง
อย่างไรก็ดี แผนการสร้าง Metaverse ของภาครัฐก็ทำให้ชาวเกาหลีใต้บางส่วนกังวลว่าจะเข้าไม่ถึงบริการดังกล่าว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาจไม่ชำนาญการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือคนตาบอดที่อาจไม่สามารถใช้แว่น VR ได้