ประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจประกันภัยต่อไป จากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงสุดในไตรมาส 3 ทำยอดเคลมประกันถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564 สูงถึง 30,000 ล้านบาท
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนบริษัทสมาชิกที่รับประกันภัยโควิด-19 “เจอ จ่าย จบ” ให้ประเมินความเสี่ยง ผลกระทบจากกรมธรรม์ที่ยังมีผลคุ้มครองถึงเดือนมิถุนายน 2565 คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดเคลมประกันจะสูงถึง 35,000-40,000 ล้านบาท ทำให้ค่าสินไหมประกันโควิดแตะระดับ 26-30% ของเงินกองทุนประกันวินาศภัยที่รับประกันโควิด และอาจสูงกว่านี้หากเกิดการระบาดระลอกใหม่หลังเปิดประเทศ
โดยมี 16 บริษัทประกันภัยที่ขายประกันโควิดแบบ “เจอ จ่าย จบ” มี 1 บริษัทที่ถูกยกเลิกใบอนุญาตไปแล้วเพราะขาดสภาพคล่องคือ “เอเชีย ประกันภัย” ขณะที่มีอีก 4-5 บริษัทต้องเพิ่มสภาพคล่อง
สมาคมประกันวินาศภัยไทย จึงได้ส่งหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ทบทวนเงื่อนไขสิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด จากผลกระทบจ่ายค่าเคลมสินไหมจำนวนมาก ส่งผลกระทบสภาพคล่องบริษัทประกันภัยและเสี่ยงปิดกิจการ
ตั้งแต่ปี 2563 ที่เกิดสถานการณ์โควิดถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 มียอดกรมธรรม์โควิด 39.86 ล้านฉบับ
อีกบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากประกันเจอ จ่าย จบ คือ “สินมั่นคงประกันภัย” ได้รายงานงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2564 “ขาดทุน” 3,662 ล้านบาท หรือ ลดลง 2,386% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสรุปงบการเงินได้ดังนี้
1. รายได้รวม สินมั่นคงประกันภัย ในไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 3,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 745 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 30.59%
– รายได้จากเบี้ยประกันภัย อยู่ที่ 2,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.32% จากสำรองเบี้ยประกันภัยลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
– รายได้และกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 998% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากกำไรเงินลงทุน 437 ล้านบาท จากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อทำกำไรในไตรมาส 3 ปี 2564 และกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้น 147 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
2. ค่าใช้จ่ายรวม เท่ากับ 7,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,309 ล้านบาท หรือ 236% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 2,242 ล้านบาท จากสาเหตุหลักดังนี้
– ค่าสินไหมทดแทนในไตรมาส 3 ปี 2564 เท่ากับ 6,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,265 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 339%
– แยกเป็นค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่นๆ 812 ล้านบาท
– ค่าสินไหมทดแทนโควิดเท่ากับ 6,002 ล้านบาท เป็นผลมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในไตรมาสเดียวกันปีก่อน
3. กำไร จากการรับประกันภัยสำหรับไตรมาส 3 ปี 2564 มีผลขาดทุนจำนวน 4,991 ล้านบาท เป็นผลประกอบการจากการรับประกันภัยโควิดขาดทุน 5,827 ล้านบาท ส่วนการรับประกันภัยประเภทอื่นๆ มีผลกำไร จำนวน 835 ล้านบาท
สรุปสาเหตุหลักไตรมาส 3 ปี 2564 สินมั่นคงประกันภัยประสบผลขาดทุนสูงถึง 3,662 ล้านบาท มาจากมูลค่าสินไหมทดแทนโควิดในไตรมาส 3 ปี 2564 เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2563 ซึ่งมีมูลค่าสินไหมทดแทนโควิด เพียง 0.08 ล้านบาท
ก่อนประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” จะกลายเป็นฝันร้าย ย้อนดูผลประกอบการ “สินมั่นคงประกันภัย” ทำกำไรมาต่อเนื่อง
– ปี 2560 รายได้ 9,189 ล้านบาท กำไรสุทธิ 901 ล้านบาท
– ปี 2561 รายได้ 10,020 ล้านบาท กำไรสุทธิ 749 ล้านบาท
– ปี 2562 รายได้ 11,375 ล้านบาท กำไรสุทธิ 677 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้ 10,413 ล้านบาท กำไรสุทธิ 757 ล้านบาท