HomePR Newsเฟ้นหาดาวดวงใหม่ กับ THE POWER BAND เวทีประกวดดนตรีคุณภาพ ส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ระดับประเทศของไทย! การันตีความสามารถจากผู้คร่ำหวอดทางดนตรีทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง พร้อมตัดสิน 27 พ.ย. นี้ [PR]

เฟ้นหาดาวดวงใหม่ กับ THE POWER BAND เวทีประกวดดนตรีคุณภาพ ส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ระดับประเทศของไทย! การันตีความสามารถจากผู้คร่ำหวอดทางดนตรีทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง พร้อมตัดสิน 27 พ.ย. นี้ [PR]

แชร์ :

เพราะ ‘เวทีประกวดดนตรี’ เปรียบเสมือนสวนสนุกที่เปิดโลกแห่งความสุขของคนดนตรี ได้ปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่ และพร้อมวิ่งตามความฝันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ในปัจจุบัน เวทีประกวดดนตรีในประเทศไทยกลับมีน้อยลง จากที่สมัยก่อน ๆ จะมีการจัดแข่งดนตรีปี ๆ นึง 2-3 รายการ แต่ลดน้อยลงไปตามยุคสมัยในปัจจุบัน เนื่องจากผู้จัดการประกวดมีน้อยลง ประกอบกับในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญและเติบโตขึ้น ทำให้น้อง ๆ สามารถทำงานเพลงได้ที่บ้าน หรือเรียกว่า Home Studio ที่สามารถจบงานโปรดักชั่นต่าง ๆ และปล่อยเพลงของตนเองได้เลย โดยไม่ต้องแข่งขัน แต่ผู้คร่ำหวอดในแวดวงดนตรีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ก็ยังคงย้ำเป็นเสียงเดียวกันว่า เวทีประกวด ยังมีความสำคัญอยู่ เพราะการก้าวสู่การเป็นศิลปินต้องอาศัยประสบกาณ์การฟังให้มาก เล่นให้เยอะ ฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้สม่ำเสมอ หรือ การได้ออกมาลงสนามจริงบนพื้นที่การประกวดนั่นเอง ซึ่งก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังชื่นชอบการประกวดดนตรี  คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จึงจับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเวทีประกวดดนตรีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี THE POWER BAND’ เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 ผ่านการประกวดในรูปแบบ Live Streaming ในยุค New Normal COVID-19

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนักประพันธ์ระดับโลกรางวัล The Charles Ives Awards สาขาการประพันธ์เพลง ในฐานะตัวแทนผู้ร่วมจัด THE POWER BAND กล่าวว่า “เวที THE POWER BAND เรียกได้ว่าเป็นเวทีที่มีความท้าทายอย่างมากเวทีหนึ่งเนื่องจากมีโจทย์ให้ผู้เข้าแข่งขันได้ท้าทายความสามารถ ต้องแต่งเพลงเอง เพื่อมุ่งเน้นเรื่องการสร้างสรรค์ ขณะที่เวทีอื่นไม่ได้บังคับ รวมไปถึงการเล่นเครื่องเป่าผสมผสานกับวงดนตรีสมัยนิยมไม่ใช่เรื่องง่าย เครื่องเป่าเกิดมาจากวงโยธวาทิต เน้นการอ่านโน้ตเป็นหลัก แต่วงดนตรีใช้หูแกะเพลง ซึ่งต้องใช้สกิลที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องอาศัยการวางตัวโน้ต การเรียบเรียง และความพร้อมเพรียงในการเล่นร่วมกัน ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญของเวทีนี้ คือ เน้นการสร้างสังคม รูปแบบการสร้าง Collaboration ระหว่างเด็กวงโยธวาทิต กับเด็กดนตรีสากล และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้เกิดการทำงานและเล่นดนตรีร่วมกัน มากกว่าเป็นเพียงแค่การจัดงานอีเว้นท์”

ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนักประพันธ์ระดับโลกรางวัล The Charles Ives Awards สาขาการประพันธ์เพลง ในฐานะตัวแทนผู้ร่วมจัด THE POWER BAND

การประกวดในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากมิวสิคกูรูแถวหน้าของเมืองไทยจากหลากหลายสาขาอาชีพ ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน นำโดย นักปั้นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง
Genie Records รวมถึงโปรดิวเซอร์มือทอง พล-คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music อีกทั้ง
ประสบการณ์ชั้นครูของ เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม นักดนตรีวง The Richman Toy และหัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล, โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเรกเตอร์ แห่งวง Jetset’er และโปรดิวเซอร์นักแต่งเพลงมือฉมัง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด มาร่วมค้นหาสุดยอดวงดนตรีหน้าใหม่ในครั้งนี้

นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records

นักปั้นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records กล่าวว่า “ทุกการสร้างสรรค์งานดนตรีเริ่มจากการเรียนรู้จากต้นแบบ ต้องมั่นฝึกฝน แกะเพลงให้เยอะๆ ใช้ระยะเวลา 10 ปีเป็นอย่างต่ำกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ BodySlam, Labanoon, Clash และ KALA ล้วนผ่านเวทีประกวดมาแล้วทั้งสิ้น แต่พื้นที่แสดงความสามารถของเด็กไทยทางดนตรีในรูปแบบเวทีการประกวดในปัจจุบันกลับน้อยลงทุกวัน ถือเป็นโอกาสดีมาก ๆ ของคนในแวดวงดนตรีที่เวที THE POWER BAND จะมาสร้างพลังและสานต่อความฝันพร้อมสร้างความคึกคักให้วงการดนตรีอีกครั้ง เพราะเป็นเวทีประกวดที่มีการส่งเสริมอย่างจริงจัง เน้นวงดนตรีที่มีการสร้างสรรค์ และความสามารถเชิงทฤษฎีที่ถูกต้อง”

ด้านโปรดิวเซอร์มือทอง พล-คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music กล่าวว่า “ความแข็งแรงของเวทีนี้ คือ ผู้จัดงานมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่มีนโยบายในการสนับสนุนคนไทยด้านดนตรีมาอย่างต่อเนื่อง และ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศในการผลิตคนคุณภาพทางดนตรีออกสู่อุตสาหกรรมเพลงไทย นี่คือโอกาสครั้งใหญ่ ขอให้น้อง ๆ เตรียมตัวมาให้พร้อม เวทีประกวดให้สิ่งดี ๆ กลับไปเสมอ ไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะ อย่างน้อยก็ได้ชนะตัวเอง เพราะเล่นตามโจทย์ที่ได้ฝึกซ้อมมา ทั้งนี้ ที่สุดของการเป็นศิลปิน ไม่อยากให้มองแค่ความสวยหรู ว่าจะเป็นศิลปินที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเดียว แต่ดนตรีอยู่ในทุกบทบาทที่สามารถทำได้หลายอาชีพ รวมไปถึงการทำงานเบื้องหลัง เช่น นักแต่งเพลง วิศวกรเสียง ตลอดจนช่างเทคนิคที่ดูแล ทดสอบ และเตรียมเครื่องดนตรีบนเวทีให้กับศิลปิน”

นอกจากนี้ประสบการณ์ชั้นครูของ เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม นักดนตรีวง The Richman Toy และหัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมว่า “ในปัจจุบันเวทีการประกวดของต่างประเทศที่น่าสนใจ อย่างการประกวดยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ ประเทศอิตาลี ที่มีมาอย่างยาวนาน มีศิลปินระดับโลกมาร่วมเล่นคอนเสิร์ตประกอบกับความร่วมสมัยของโปรดักชั่นที่ตระการตาด้วยแสง สี แสง ได้อย่างลงตัว ซึ่งตอนนี้เป็นยุคสมัยที่มีความก้าวหน้าของเทคโนโลยี นักดนตรีสามารถทำเพลงเองได้และสามารถปล่อยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในปัจจุบันทำให้นักดนตรีสามารถทำเพลงเองได้จากที่บ้านหรือเรียกว่า Home Studio ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันวงการดนตรีของไทย คนรุ่นใหม่มีฝีไม้ลายมือที่ฉกาจใกล้เคียงกับต่างประเทศมาก เพราะ เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถหาไอเดียและรู้เทรนด์เพลงทั่วโลกได้ง่ายแค่เพียงปลายนิ้ว และนำเทคนิคมาปรับใช้ เรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่อุตสาหกรรมเพลงไทยกำลังพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในประเทศไทยเวทีการประกวด THE POWER BAND เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนเพื่อเป็นบันไดให้เยาวชนและประชาชนคนไทยพร้อมสำหรับการก้าวสู่ระดับนานาชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

ใครจะเป็นสุดยอดคนดนตรีคนต่อไป!  มารับชมพร้อมๆ กัน ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 และมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษ จาก อิ้งค์-วรันธร เปานิล และ Season Five ชมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook : King Power Thai Power
พลังคนไทย และ Facebook : Thailand International Wind Symphony Competition วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป   

 


แชร์ :

You may also like