“อสังหาริมทรัพย์” เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละหลายแสนล้านบาท คิดเป็นประมาณ 8% ของ GDP เพราะมีการจ้างงาน ลงทุน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องจำนวนมาก ทั้งวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน ซึ่งเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ต้องหยุดชะงักและได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 รวมไปถึงการจัดมหกรรมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆที่เป็นงานรวมโครงการต่างๆ เพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าก็หยุดจัดเช่นเดียวกัน
จาก Pain Point ดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการและผู้จัดงานอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวสู่รูปแบบการจัดงานในรูปแบบเสมือนจริงบนโลกออนไลน์
Virtual Trade แนวคิดนี้คืออะไร และมีความแตกต่างจาก Online Market Place อย่างไร? Brand Buffet พามาค้นคำตอบเรื่องนี้ให้ชัดไปพร้อมกัน
“Digital Lead to Visit Site” โจทย์ใหญ่อสังหาฯ ยุคดิจิทัล
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งด้านพฤติกรรมการซื้ออสังหาฯ และการทำตลาด ย้อนกลับเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เมื่อผู้บริโภคต้องการซื้อบ้านหรือคอนโด หลายคนจะนึกถึงแบรนด์ที่คุ้นเคยและมั่นคง เพราะบ้าน คอนโดเป็นสินค้าใหญ่ มูลค่าสูง จากนั้นก็เข้าไปเยี่ยมชมโครงการ (Visit Site) ขณะที่บางคนเลือกไปเดินดูตามงานอีเว้นท์ที่อยู่อาศัยเพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ การทำตลาดยุคนั้นจึงเน้นการโฆษณาและออกบูธตามงานที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงและจดจำแบรนด์
แต่ในช่วง 5 ปีหลังมานี้ กระแสออนไลน์มาแรงขึ้น ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ทุกแบรนด์จึงกระโดดเข้ามาทำตลาดออนไลน์กันอย่างดุเดือด โดยเน้นสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ หรือ Lead Generation เพื่อดึงคนให้เข้ามาในเว็บไซต์ ทำให้เม็ดเงินโฆษณาในเซ็กเม้นต์อสังหาฯ ถีบตัวสูงเกิน 1,000 ล้านบาท
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “การ Visit Site” กลับไม่ได้สูงตาม คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล หนึ่งในผู้ร่วมจัดงาน Virtual Property Expo 2022 บอกว่า จากการเก็บข้อมูลพบว่า มีเพียง 10% เท่านั้นที่เข้าไป Visit Site จริง จึงคิดว่าทำไมผู้ประกอบการต้องแข่งกันในเรื่องโฆษณา แต่ควรจะไปแข่งกันที่ Product หรือ Offer ใครดีกว่ากัน เพราะเวลาลูกค้าจะซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ได้เข้าไป Visit Site โครงการเดียว ประกอบกับมาเจอสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การเข้าไปดูโครงการอสังหาฯ ค่อนข้างยากขึ้น จึงเกิดความคิดที่รวมโครงการต่างๆ มาไว้ที่เดียวกัน และพยายามเพิ่ม Conversion ในการ Visit Site ให้สูงขึ้น เพราะเชื่อว่าหากสามารถเพิ่มการเข้าไปเยี่ยมโครงการได้มากขึ้น จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้เป็นเท่าตัว
จากนั้น คุณธนพลจึงเริ่มกลับมาหา Insight ว่าทำไมคนถึงไม่เข้าไป Visit Site และพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยต้องการที่จะมีการ Engage ทำให้อีคอมเมิร์ซในบ้านเราจึงต้องมีการ “แชท” ก่อน “ช้อป” ยิ่งอสังหาฯ ผู้บริโภคยิ่งอยากคุยกับพนักงานขายก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อความมั่นใจ จึงหยิบเอาอินไซต์เหล่านี้มารวบรวม และพัฒนาจนออกมาเป็น Virtual Property Expo 2022 ที่มาในคอนเซ็ปท์ Virtual Trade ครั้งแรกของเมืองไทย
ครั้งแรกของ Virtual Trade ที่นำระบบ Virtual Chat มาที่ให้คนรักบ้านได้พูดคุยกับผู้ขายพร้อมกับชมบ้านตัวอย่างจริงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
เมื่อพูดถึงการจัดอีเวนท์อสังหาฯ ในรูปแบบ Virtual หลายคนมักจะนึกถึง Online Market Place ที่รวบรวมอสังหาฯ หลากหลายโครงการมาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้คนเข้ามาเลือกดูโครงการต่างๆ และหากผู้บริโภคสนใจก็ลงทะเบียนเพื่อให้พนักงานขายติดต่อกลับ แต่คุณธนพล บอกว่า Virtual Property Expo 2022 ครั้งนี้จะมาในคอนเซ็ปท์ Virtual Trade ซึ่งเป็นการนำระบบ VDO Live Chat เข้ามาปรับใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคที่เข้ามาชมงานสามารถพูดคุยสอบถามเซลล์แต่ละโครงการง่ายเพียงแค่คลิกเดียว
อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนเวลาที่เราประชุมออนไลน์กันที่เซลล์สามารถเปิดกล้องเดินพาชมบ้านตัวอย่าง หรือเปิดไฟล์โบรชัวร์ในเครื่องและภาพขึ้นจอให้ผู้ซื้อซักถามหรืออยากชมเฉพาะจุดได้อย่างสะดวก ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อก่อนเข้าไปเยี่ยมชมโครงการจริงต่อไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้ามา Visit Site มากขึ้นจากเดิมประมาณ 5 เท่า
“เราไม่ได้ขายแค่แพลตฟอร์ม Virtual แต่เราเป็น Total Solution ที่ยังช่วยหาผู้ที่สนใจจะซื้ออสังหาฯในโลกออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ของทีมงานที่รับโปรโมทให้อสังหาฯ Top Brand มากมาย และ Ad Tecnology ที่เรามีทำให้สามารถคำนวณจำนวนคนได้ในระดับที่ว่า คนที่สนใจอยากซื้อโครงการ Luxury ที่เขาใหญ่จะมีผู้มาเยี่ยมชมเท่าไร และสนใจอยากจะคุยกับเซลล์ต่อเท่าไร เราสามารถคำนวนตัวเลขต่างๆได้อย่างแม่นยำ ทำให้เรามั่นใจหากลีดจำนวนผู้ที่สนใจอยากจะซื้อโครงการไม่ถึงจำนวนที่เราตั้งเป้าไว้ เรายินดีคืนเงิน” คุณธนพล กล่าว
ต่อยอด “ดาต้า” สู่การเพิ่มยอดขายอย่างเป็นรูปธรรม
อีกสิ่งที่พิเศษของงาน Virtual Property Expo 2022 ก็คือ “ดาต้า” ที่เราเก็บจากพฤติกรรมของผู้ที่เข้ามาชมงานว่าเป็นใครและสนใจอะไร ซึ่งเราจะมีแดชบอร์ดให้ผู้มาออกบูธสามารถตรวจเช็คและดึงข้อมูลเพื่อไป Support การขายในทันที หรืออาจนำไปใช้ในการ Remarketing ต่อในอนาคตได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ Recommend ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงโครงการใหม่ๆที่ตนอาจไม่รู้จักได้อย่างสะดวก เพราะเวลาผู้บริโภคเข้ามาค้นหาที่อยู่อาศัยในงาน ไม่ได้สนใจแค่บ้าน คอนโด หรือทาวน์โฮมอย่างเดียว แต่อาจจะมองที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภทที่อยู่ทำเล หรือระดับราคานั้นๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบ จึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังเป็นครั้งแรกที่ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีโครงการในต่างจังหวัดสามารถเข้ามาร่วมงานได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งยังช่วยเพิ่มดีมานด์คนเข้าร่วมงานมากขึ้นด้วย โดยคุณธนพล ตั้งเป้าผู้ประกอบการเข้ามาร่วมงานกว่า 120 แบรนด์ แบ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ 40 แบรนด์ และผู้ประกอบการรายย่อย 80 แบรนด์ ส่วนผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมงานครั้งนี้คาดหวังไว้ที่ 268,000 คน และมีคนที่พร้อมซื้อประมาณ 22,280 คน หรือคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
Virtual Property Expo 2022 จึงเป็นอีกมิติใหม่ของมหกรรมซื้อขายอสังหาฯ ในรูปแบบ Virtual ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ Pain Point ทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00-22.00 ผู้สนใจสามารถติดต่อจองบูธได้ที่ https://bit.ly/3mVfIOQ หรือติดต่อ 062-536-5162