วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จในการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียมให้แก่ผู้ขับขี่ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2565 วอลโว่ยังคงเดินหน้าสานต่อการส่งมอบรถยนต์พลังงานสะอาดที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อแสดงถึงจุดยืนในการสร้างสรรค์อนาคตแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมส่งมอบเทคโนโลยีอันชาญฉลาดและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าอย่างยั่งยืน
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ วอลโว่ คาร์ ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันทรงพลังจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง โดยเรายังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับบริษัท ฯ ไปจนถึงการคำนึงถึงความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม และการส่งมอบความสุขผ่านการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าระดับเวิร์ดคลาสสมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยชั้นเลิศให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย นอกจากนี้เรายังมีการยกระดับการให้บริการที่ตอบโจทย์แบบรอบด้านให้แก่ผู้ขับขี่ทั่วประเทศ โดยเราสัญญาว่า เราจะเดินหน้าพัฒนาและผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต่อไปในอนาคต เพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือกว่าให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยทุกคน”
วอลโว่ ถือเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ทุ่มเทในการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม และยังออกนโยบายยกเลิกการจัดจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยวอลโว่มีการนำเสนอรถยนต์แบบ Recharge Plug in Hybrid และ Recharge Pure Electric ตามแผนธุรกิจระยะ 10 ปี เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการประหยัดเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสีย ดังนั้น ในปี 2564 ภายใต้การเปิดตัว Volvo XC40 Recharge Pure Electric รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรก จึงทำให้วอลโว่สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้งานทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศทั่วโลก
ยอดขายและผลการดำเนินงานปี 2564
ตลอดทั้งปี 2564 วอลโว่ยังคงรักษาประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอที่สม่ำเสมอในทุกโมเดลรถยนต์ โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่รุ่น Volvo X60 Recharge Plug-in Hybrid ซึ่งคิดเป็น 23% ของยอดจำหน่ายรวมทั้งหมด อันดับสองคือรุ่น Volvo XC40 Recharge Plug-in Hybrid คิดเป็น 20% และอันดับสามคือรุ่น Volvo V60 Recharge Plug-in Hybrid คิดเป็น 17% และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ รุ่นที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะรถยนต์รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% อย่าง Volvo XC40 Recharge Pure Electric สามารถสร้างยอดขายได้เป็นอันดับที่ 5 ซึ่งสูงถึง 13% หลังจากเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถือเป็นการพลิกโฉมบทบาทอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมไฟฟ้าได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
นอกจากนี้ ในปี 2564 วอลโว่ยังประสบความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพของศูนย์บริการตามมาตรฐาน Volvo Retail Experience (VRE) โดยสามารถขยายเครือข่ายโชว์รูมพันธมิตรเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ในจังหวัดกรุงเทพฯ และพัทยา ถือเป็นการขยายตัวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการเปิดตัว “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานเพิ่มขึ้นอีก 2 ที่ในจังหวัดกรุงเทพฯ เพื่อส่งมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
มากไปกว่านั้น สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย วอลโว่คงยังผลักดันเรื่องการส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ตลอดจนได้มีการเปิดศูนย์บริการลูกค้าด้วยระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อส่งมอบการบริการให้แก่ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน โดยไม่มีวันหยุด เพื่อสร้างความอุ่นใจและความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในทุก ๆ มิติของการเดินทาง
แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2565
เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วอลโว่จึงเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ การร่วมผลักดันเชิงรุกกับบรรดาพันธมิตรผู้ค้าปลีก ไปจนถึงการยกระดับการให้บริการของโชว์รูมและศูนย์ซ่อมบำรุงต่าง ๆ และการสร้างระบบสนับสนุนการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร โดยวอลโว่วางแผนที่จะส่งมอบรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพียบพร้อมไปด้วยขุมพลังไฟฟ้าแบบ 100% และอุปกรณ์ไฮเทคที่ล้ำสมัย ตลอดจนเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นเลิศ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรถยนต์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของวอลโว่มากที่สุด และเพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เปี่ยมด้วยอิสระเสรีอย่างยั่งยืนให้แก่ลูกค้าทุกคน
ในส่วนของแผนการดำเนินงานด้านการให้บริการ วอลโว่ยังคงเดินหน้าสานต่อการบริการด้วยระบบ Volvo Personal Service (VPS) ซึ่งเป็นการบริการที่สามารถมอบความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ลูกค้าได้มากที่สุด โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการจากช่างเทคนิคส่วนบุคคลที่รู้จักประวัติรถยนต์วอลโว่ของท่านโดยละเอียด เพื่อให้การซ่อมบำรุงเป็นไปได้อย่างถูกต้องและประหยัดเวลาในการทำงาน รวมถึงวอลโว่ยังมีการนำเสนอรูปแบบการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อยกระดับความประทับใจและความรวดเร็วในการส่งมอบการบริการได้อย่างทันที
นอกจากนี้ วอลโว่ยังวางแผนเดินหน้าขยายการส่งมอบรถยนต์ Premium Used Car จาก Volvo SELEKT ที่ผ่านการคัดสรรเฉพาะรถยนต์ที่ดีที่สุดและมีการตรวจสอบปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานของวอลโว่ เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงรถยนต์วอลโว่สมรรถนะดี ในราคาพิเศษได้อย่างทั่วประเทศอีกด้วย
ในโอกาสนี้ วอลโว่ขอเรียนชวนทุกท่านเข้าร่วมงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021 เพื่อสัมผัสกับสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นอัพเกรด ”Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid” ที่ได้รับการอัพเกรดประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกไลฟสไตล์ ตลอดจน Volvo XC40 Recharge Pure Electric รถยนต์ขุมพลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์วอลโว่ และรถยนต์ระดับพรีเมียมรุ่นอื่น ๆ อีกมากมาย ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ บูธรถยนต์วอลโว่ (A08) อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมรับข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปีที่คุณไม่สามารถพลาดได้
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และรายชื่อศูนย์บริการวอลโว่ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า 02-161-4144 โดยสามารถดูข่าวสารกิจกรรมล่าสุดของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th