HomeInfographic11 ความปัง Lalamove ขนส่ง ที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการ SMEs ตัวจริง

11 ความปัง Lalamove ขนส่ง ที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการ SMEs ตัวจริง

แชร์ :

 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เมื่อพูดถึงบริการจัดส่งสินค้าในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา  ก็ต้องบอกว่า ธุรกิจนี้เนื้อหอมไม่ใช่น้อย เพราะไม่เพียงช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภคให้สามารถจับจ่ายใช้สอยได้อย่างไม่ติดขัดแล้ว ในด้านของผู้ประกอบการ SME บริการจัดส่งสินค้าคือตัวช่วยชั้นดีให้ธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปท่ามกลางการระบาดของ Covid-19

และเมื่อเจาะลึกลงไปในในธุรกิจดังกล่าว ปฏิเสธไม่ได้ว่า กลุ่มที่ให้บริการขนส่งแบบด่วน (Express Delivery Services) ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผลการสำรวจจากบริษัทวิจัย Valuates พบว่า มูลค่าตลาดของธุรกิจขนส่งแบบด่วนทั่วโลกในปี 2020 นั้นสูงถึง 2.62 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มจะเติบโตไปเป็น 4.84 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 6.4% ทีเดียว (อ้างอิงจาก Express Delivery Market To Reach USD 484.38 Billion By 2030 at a CAGR Of 6.4% – Valuates Reports (prnewswire.com))

บริษัทวิจัย Valuates ให้เหตุผลเพิ่มเติมด้วยว่า บริการนี้กำลังเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการ SME ที่แข่งขันอยู่บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ – โซเชียลคอมเมิร์ซต่าง ๆ เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแง่ของความรวดเร็ว – ราคาที่ไม่แพงมากได้ ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทยเองก็มองหาสิ่งเหล่านี้อยู่เช่นกัน

จากความต้องการที่กล่าวมาข้างต้น ไม่แปลกที่วันนี้ จะมีแบรนด์ต่าง ๆ มาร่วมแข่งขันในตลาดดังกล่าวกันอย่างดุเดือด โดยแบรนด์ที่เริ่มรุกตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังอาจเป็น Lalamove ที่ลงไปสัมผัสกับตลาดมาตั้งแต่ต้นปี และถึงวันนี้ พวกเขาได้ศึกษาอินไซต์ของลูกค้าจนสามารถพัฒนาเป็นจุดแข็งของตัวเองถึง 11 ประการ เพื่อตอบโจทย์ทั้งลูกค้ากลุ่มบุคคลทั่วไปและลูกค้าธุรกิจ นั่นคือ

1. มีรถรองรับหลายประเภท

เพราะธุรกิจ SME ในประเทศไทยนั้นมีหลากหลาย การมีรถหลายประเภทเตรียมไว้รองรับจึงทำให้แบรนด์สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ซึ่ง Lalamove บอกว่าพวกเขามีรถกระบะให้เลือกหลายแบบ เช่น กระบะตู้ทึบ, กระบะโครงเหล็กสูง และปิคอัพ ทำให้สามารถรองรับได้ตั้งแต่สินค้าประเภทผัก-ผลไม้, ต้นไม้ – กระถาง, เฟอร์นิเจอร์-ของตกแต่งบ้าน, ธุรกิจที่ต้องการขนของเพื่อออกบูธ, อุปกรณ์ก่อสร้าง ไปจนถึงสินค้าที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด – ฝน และด้วยตัวรถที่มีหลากหลายนี้ ทำให้บริการของ Lalamove สามารถจัดส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากกว่า 1.1 ตัน และมีความสูงเกิน 1.9 เมตรได้ด้วย

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถเปลี่ยนรถได้อย่างยืดหยุ่น ตามความต้องการใช้งานด้วย เช่น ในช่วงสิ้นเดือนที่ธุรกิจจำเป็นจะต้องเติมสต็อกสินค้า ก็อาจเลือกรถขนาดใหญ่ เช่น รถกระบะตู้ทึบ แต่หากช่วงกลางเดือน ที่สินค้าบางอย่างหมดสต็อก แต่ไม่ต้องเติมมากเท่าสิ้นเดือน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นรถที่มีขนาดเล็กลงแทนได้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้ด้วย (ราคาเริ่มต้นของกระบะตู้ทึบคือ 249 บาท แต่ SUV ราคาเริ่มต้น 119 บาท การเปลี่ยนรถได้อย่างยืดหยุ่นนี้จึงทำให้ผู้ประกอบการประหยัดไปได้ถึง 130 บาทนั่นเอง)

2. จองรถผ่านแอปได้ตลอด 24 ชม.

เพราะการทำงานทุกวันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่อาจมีอีเวนท์ใหญ่เข้ามาได้ตลอดเวลา การมีแอปพลิเคชัน และสามารถกดเรียกรถ – จองรถล่วงหน้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงของ Lalamove จึงเป็นตัวเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง (สามารถเลือกให้คนขับเข้ารับของได้ทันทีหรือเลือกเวลารับล่วงหน้าได้) โดยค่าเฉลี่ยในการค้นหาคนขับของแพลตฟอร์มอยู่ที่ 5 วินาที และเวลาเฉลี่ยที่คนขับจะเข้ามารับสินค้าก็ใช้เพียง 5 นาทีเท่านั้น

3. ไม่เก็บ GP

ข้อนี้อาจเป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการ Express Delivery รายอื่น ๆ นั่นคือ Lalamove ไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์ใด ๆ กับทางร้านค้า หรืออาจกล่าวได้ว่า Lalamove เป็นเพียงผู้ให้บริการขนส่งเท่านั้น ซึ่งถือเป็นโมเดลที่เหมาะกับร้านค้าหรือธุรกิจที่ไม่มีแผนกขนส่งเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังสามารถคำนวณต้นทุนในการจัดส่งแต่ละครั้งได้ง่ายขึ้นด้วย

4. มีบริการเสริมสำหรับการขนส่ง

ในจุดนี้ Lalamove เผยว่า นอกจากทางแพลตฟอร์มมีคนขับรถมืออาชีพในระบบมากกว่า 1.3 แสนคนคอยให้บริการแล้ว ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น บริการช่วยยกสินค้า, บริการเก็บเงินปลายทาง, บริการไป-กลับ ซึ่งราคาของบริการเสริมจะแตกต่างกันไปตามประเภทรถที่ลูกค้าเลือกใช้

5. รู้ราคาก่อนจอง

ราคาค่าขนส่งจะคำนวณจากระยะทาง  และแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนใช้บริการ ลูกค้าจะทราบราคาสุทธิ และสามารถตรวจสอบราคาก่อนใช้บริการเสมอ เพียงแค่ระบุจุดรับ-ส่งสินค้า เลือกบริการเสริมที่ต้องการ แล้วระบบจะคำนวณค่าขนส่งออกมาทันที

6. มีระบบติดตามการขนส่ง – แชทกับคนขับได้

การติดตามสถานะการขนส่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ให้ความสำคัญ ซึ่งบนแอปพลิเคชันของ Lalamove นอกจากจะมีสถานะของตัวรถแจ้งให้ลูกค้าทราบตลอดการขนส่งแล้ว ในกรณีที่ต้องการติดต่อคนขับรถ หรือแจ้งรายละเอียดการขนส่งเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อกับคนขับได้ทันทีผ่านระบบแชท

7. สามารถเชื่อมต่อ API ได้

ในกรณีที่ผู้ประกอบการ SME มีเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และต้องการเชื่อมต่อ API กับ Lalamove เพื่อให้การทำงาน และแชร์ข้อมูลเกิดขึ้นอย่างราบรื่น ก็สามารถทำได้เช่นกัน

8. สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้

Lalamove สามารถออกใบเสร็จและใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบในนามบริษัท หรือนิติบุคคลได้ รวมถึงสามารถขอรับใบเสร็จทางอีเมลได้ด้วย โดยลูกค้าจะได้รับใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ทุกครั้งหลังจากงานขนส่งเสร็จสมบูรณ์

9. สามารถขน-ส่งสินค้ามากกว่า 1 จุด (Multiple Drops) ได้ถึง 19 จุด

กรณีธุรกิจที่มีแฟรนไชส์ ต้องมีการส่งสินค้าจาก DC หรือศูนย์กระจายสินค้ากลาง ก็สามารถเลือกใช้บริการ Multiple Drop จาก Lalamove ได้ โดยสามารถเพิ่มจุดรับ-ส่งได้สูงสุดถึง 19 จุด และทางแพลตฟอร์มมีบริการจัดเรียงเส้นทางให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนเส้นทาง และคำนวณค่าขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10. มีทีมงานดูแลลูกค้า

ข้อนี้สำคัญมาก Lalamove มีทีมงานดูแลลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ โดยทางแพลตฟอร์มบอกว่า สำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะมีแพ็กเกจพิเศษเอาไว้รองรับ และมีทีมงานดูแลตลอดระยะเวลาขนส่งสินค้า เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสบายใจให้แก่ผู้ประกอบการ

11. บริการเหมาเหมา

ข้อสุดท้าย สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องขนส่งสินค้าหลายที่ สามารถเลือกใช้บริการเหมาชั่วโมงในการขนส่งสินค้าขนส่งกี่จุด ก็จ่ายราคาเดียว ช่วยลดเวลาเรียกใช้งานขนส่ง ซึ่ง Lalamove เป็นแอปพลิเคชันเดียวที่ให้บริการการขนส่งราคาเหมามากถึง 7 ประเภทรถ และผู้ประกอบการสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการเต็มวันหรือครึ่งวันช่วยให้ผู้ประกอบการสะดวกมากยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่า การสร้างบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด Express Delivery ที่มีมูลค่าและการเติบโตสูง และเชื่อว่าทั้ง 11 จุดแกร่งที่  Lalamove  พัฒนาขึ้นมานั้น เป็นตัวช่วยด้านการขนส่งที่น่าสนใจ และมาจากอินไซท์ของตลาดจริง ๆ ซึ่งการมีทั้ง 11 ข้อนี้อาจทำให้ผู้ประกอบการ SME มองเห็นโอกาสในการเติบโตอีกครั้งก็เป็นได้ แถมการเติบโตครั้งนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูง และผู้ประกอบ SME ไม่ต้องแบกภาระการลงทุนระบบจัดส่งสินค้าด้วยตัวเองอีกด้วย

สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่  https://lalamove.app.link/yj53pSwv2kb หรือ Lalamove Facebook: https://bit.ly/3EWwFOS หรือ Line ID : @lalamoveae

ตารางเปรียบเทียบขนส่งสินค้า/พัสดุ สำหรับผู้ประกอบการ

 


แชร์ :

You may also like