แม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกยังได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 แต่มีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้เร็วหลังสถานการณ์คลี่คลาย ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ยังเดินหน้าขยายการลงทุนในตลาดที่มีกำลังซื้อสูงอย่างประเทศจีน ที่การท่องเที่ยวในประเทศยังเติบโตได้ และเมื่อการเดินทางระหว่างประเทศกลับมาปกติ ก็มีนักท่องเที่ยวต่างเชาติเข้ามาเพิ่มอีกกลุ่ม
กลุ่มดุสิตธานี เจ้าของเชนโรงแรมสัญชาติไทย ได้เข้าไปบริหารโรงแรมและรีสอร์ทในจีนแล้ว 10 แห่ง ล่าสุดเซ็นสัญญากับบริษัท เจ้อเจียง ดาหัว กรุ๊ป เพื่อเปิดโรงแรมดุสิตธานี เทียนมู่ เมาน์เท่น หางโจว บริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเขตหลินอัน นครหางโจว หนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2565
โลเคชั่นล่าสุดในจีนนี้ ถือเป็นโอกาสนำ “แบรนด์ไทย” ขยายสู่เนินเขาที่สวยงามของภูเขาเทียนมู่ ด้วยความสวยงามของธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกของหางโจว โรงแรมแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่พักผ่อนระดับโลกสำหรับนักธุรกิจและนักเดินทางเพื่อการพักผ่อน ทำให้ “ดุสิตธานี เทียนมู่ เมาน์เท่น หางโจว” กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของเมือง
สำหรับ โรงแรมดุสิตธานี เทียนมู่ เมาน์เท่น หางโจว ประกอบด้วยห้องพักและวิลล่าจำนวน 160 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องอาหารแบบออลเดย์ไดนิ่ง ห้องอาหารจีน สระว่ายน้ำกลางแจ้ง สระน้ำแร่ร้อน ห้องออกกำลังกาย และสนามกีฬาขนาดใหญ่ น้ำสปา (Namm Spa) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้บริการสปาของดุสิตธานี รวมไปจนถึงห้องประชุมและจัดเลี้ยง 2 ห้องที่เปิดเชื่อมถึงกันได้
หนึ่งในจุดเด่นของรีสอร์ท คือ ทำเลที่อยู่ในพื้นที่บริเวณรอบนอกของอุทยานแห่งชาติเขาเทียนมู่ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก องค์การสหประชาชาติ จากความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณ หุบเขาและยอดเขาเขียวชอุ่มที่ให้อากาศสดชื่นตลอดทั้งปี การเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงจากย่านใจกลางเมืองในหางโจว และชั่วโมงครึ่งจากสนามบินนานาชาติหางโจว เซียวซาน
ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีประกอบด้วยโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู รวมกว่า 300 แห่ง ภายใต้ 6 แบรนด์ ใน 16 ประเทศ โดยในประเทศจีนกลุ่มดุสิตธานีบริหารโรงแรมรวม 10 แห่ง นอกจากนี้มีโรงแรมที่อยู่ในแผนพัฒนามากกว่า 20 แห่ง