Grab หุ้นพุ่ง 18% หลังเข้าเทรดในตลาดหุ้น Nasdaq วันแรก โดยไปแตะที่จุดสูงสุด 13.06 เหรียญสหรัฐ ก่อนจะร่วงลงมาประมาณ 20% และปิดที่ 8.75 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ดี Anthony Tan ซีอีโอของ Grab เผยว่า เขามีความเชื่อมั่นว่านับจากนี้คือเวลาที่ทั่วโลกจะพุ่งความสนใจไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็เชื่อว่าการเข้ามาในตลาดหุ้น Nasdaq ของ Grab จะนำพาโอกาสอีกมากมายมาสู่ภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ Grab ในปัจจุบันยังคงขาดทุนอยู่ โดยในไตรมาสที่ 3 บริษัทขาดทุนมากถึง 988 ล้านเหรียญสหรัฐ และรายได้ก็ลดลง 9% เหลือ 157 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง Peter Oey ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของ Grab ระบุว่า ตัวเลขขาดทุนดังกล่าวมาจาก Covid-19 ที่ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมติสั่งล็อกดาวน์ โดยเฉพาะเวียดนาม แต่เขาก็เชื่อว่า สถานการณ์ต่าง ๆ จะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า และทางบริษัทเองก็เฝ้าระวังเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่าง Omicron อย่างใกล้ชิด
สำหรับนักลงทุนที่อยู่เบื้องหลัง Grab ในวันนี้มีทั้ง Didi Global, Toyota Motor, กองทุน Vision Fund ของ SoftBank Group ฯลฯ โดยปัจจุบัน Grab ให้บริการแล้วกว่า 400 เมืองใหญ่ ในประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง โดยรูปแบบการให้บริการนั้นเป็นลักษณะของ SuperApp นั่นคือมีทั้ง บริการ ride-hailing, food delivery, รับซื้อของชำ, บริการขนส่งแบบด่วน, last-mile delivery ไปจนถึงบริการทางการเงิน ที่บริษัทระบุว่าสามารถเข้าไปอยู่ได้ในทุกช่วงชีวิตของผู้บริโภค