HomeBrand Move !!“แมคฟิว่า” รุก Telegram เต็บสูบ! เปิดตัวโฆษณาบนเทเลแกรมรับกระแสคริปโตบูม ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 50 ล้านบาท

“แมคฟิว่า” รุก Telegram เต็บสูบ! เปิดตัวโฆษณาบนเทเลแกรมรับกระแสคริปโตบูม ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 50 ล้านบาท

แชร์ :

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

แม้จะเป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับการแชท (Chat) ที่เพิ่งแจ้งเกิดได้เพียง 7 ปี แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เทเลแกรม” หรือ “Telegram” เป็นหนึ่งในแอปฯ แชทที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ถามว่าร้อนแรงแค่ไหน? ดูได้จากยอดดาวน์โหลดบน Play Store ซึ่งปัจจุบันมีการดาวน์โหลดเป็นอันดับ 1 และเป็นอันดับ 4 ใน App Store ขณะที่ผู้ใช้งานทั่วโลกทะลุ 500 ล้าน และมีการเติบโตอยู่ที่ 25% ต่อปี

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คำถามคือ แล้วแนวโน้มของ Telegram ในประเทศไทยมีทิศทางอย่างไร จะก้าวขึ้นมาเป็นแอปฯ แชทอันดับหนึ่งหรือไม่? มาฟังคำตอบเรื่องนี้จาก คุณวรัชญา อุรุพงศา Chief Digital Officer และคุณพิรีญา วิริยะพันธุ์ Chief Operating Officer บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด

ความปลอดภัยคือ หัวใจ ดันผู้ใช้งานทั่วโลกทะลุ 500 ล้าน

เทเลแกรม ถือกำเนิดขึ้นในปี 2013 โดยเป็นแอปฯ สำหรับการรับส่งข้อความ ลักษณะเหมือนกับ LINE และ WhatsApp ซึ่งที่ผ่านมาการใช้งานยังอยู่ในกลุ่มเฉพาะ กระทั่งปีที่ผ่านมา “Telegram” ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกอย่างมาก โดยปัจจัยหลักๆ คุณวรัชญา ให้เหตุผลว่า มาจากการขยายตัวของตลาดสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency เพราะคนเริ่มรู้จักและหันมาลงทุนมากขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนักลงทุนหรือเจ้าของธุรกิจ ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

คุณวรัชญา อุรุพงศา Chief Digital Officer บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด

รวมถึงการที่ Telegram มีจุดเด่นหลายอย่างที่แอปฯ แชทอื่นไม่มี อย่างแรกเลยก็คือ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยผู้รับและผู้ส่งสามารถเข้าถึงข้อความได้เท่านั้น โดยจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ 3 เข้าถึงข้อมูลได้ จึงยากจะ Hack เข้าไปดูข้อมูลได้ ทั้งยังมีฟีเจอร์การคุยที่เป็นส่วนตัว ซึ่งบทสนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะไม่สามารถส่งออกไปยังห้องอื่นได้ รวมถึงสามารถตั้งเวลาในการส่งข้อความและลบข้อความตัวเองได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่เข้ามาตอบความต้องการของนักลงทุนในยุคนี้นั่นเอง

นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างกลุ่มแชทขนาดใหญ่ที่รองรับคนอยู่ร่วมกันได้มากถึง 200,000 คน หรือจะสร้างเป็นแชลแนลเพื่อส่งข้อมูลข่าวสารให้กลุ่มคนก็ได้เช่นกัน รวมไปถึงส่งไฟล์รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ต่างๆ รูปแบบใดก็ได้ในน้ำหนัก 2 GB และจากความสามารถดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันเทเลแกรมมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกอยู่ที่ 500 ล้าน และในปีหน้าคาดการณ์ว่าจะมียอดดาวน์โหลดเพิ่มเป็น 1,000 ล้าน

ขณะที่ประเทศไทย คุณวรัชญา มองว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ใช้เทเลแกรมยังค่อนข้างเล็ก เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มเฉพาะ จากการสำรวจพบว่า 67% เป็นผู้ชาย 33% เป็นผู้หญิง ส่วนความสนใจจะเป็นเรื่อง IT และลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ 47% รองลงมาคือ Music 46% และ Science & Tech 42% แต่เชื่อว่าในปี 2565 จะได้รับความนิยมมากขึ้น และมียอดดาวน์โหลดเติบโตเพิ่มขึ้น

“การจะก้าวขึ้นมาเป็นแอปฯ แชทเบอร์ 1 ในไทย อาจจะต้องใช้เวลานิดหนึ่ง เพราะปัจจุบันกลุ่มผู้ใช้งานยังเล็ก คาดว่าอยู่ที่ 5-10% ของตลาดโซเชียลมีเดีย อีกทั้งคนไทยยังไม่ค่อยรู้ฟีเจอร์ของเทเลแกรมมากนัก”

ตั้งเป้าปีแรก รายได้โฆษณาบน Telegram 50 ล้านบาท

แม้วันนี้ Telegram ในไทยยังมีขนาดเล็ก แต่จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่มากขึ้น ประกอบกับแบรนด์ต่างๆ ต้องการเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนาและนักธุรกิจ เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง แต่ที่ผ่านมามีสื่อโฆษณาไม่มากที่สามารถเข้าถึงได้ นั่นจึงทำให้ แมคฟีว่า เห็นโอกาสและเปิดตัวโฆษณาบน Telegram แบบ Full Service Blockchain Digital Marketing โดยประเดิมลูกค้าในกลุ่มคริปโตเคอเรนซี่เป็นกลุ่มแรก

พิรีญา วิริยะพันธุ์ Chief Operating Officer บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด

“เราเชื่อว่าแบรนด์ในไทยจะหันมาสื่อสารทำตลาดผ่าน Telegram มากขึ้นแน่นอน และทำให้โฆษณาบน Telegram เติบโตอีกมาก เพราะนอกจากจะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงกว่าแพลตฟอร์มอื่น ยังให้ Engagement Rate สูง โดยอยู่ที่ 15-40% ขณะที่การใช้โซเชียลมีเดีย หรือ KOL จะอยู่ที่ 10-20%  แถมราคายังคุ้มค่ากว่า อีกทั้งกลุ่มคนที่ดาวน์โหลด Telegram มาใช้งาน ก็ไม่ใช่แค่กลุ่มที่เล่นคริปโตเคอเรนซี่เท่านั้น แต่จากการสำรวจพบว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่อยู่ในระดับ C Level ทำให้สามารถขยายตลาดไปยังผลิตภัณฑ์กลุ่มบัตรเครดิต ประกันชีวิต หรือสินค้า Unique Product ได้หลากหลาย”

คุณพิรีญา ย้ำ และบอกว่า ในปัจจุบันแมคฟิว่าได้เริ่มเข้าไปทำตลาดกับลูกค้าหลายแบรนด์ เช่น Zipmex, Killseitch และ Avareum ขณะที่รายได้ ตั้งเป้าในปีแรก โฆษณาบน Telegram จะสร้างรายได้อยู่ที่ 50 ล้านบาท


แชร์ :

You may also like