HomeBig Featured‘พิมรี่พาย’ ตอบทุกอย่าง เบื้องหลัง Live 100 ล้าน ทำไมทำคอนเทนต์ช่วยสังคม ‘จากผู้รับเปลี่ยนเป็นผู้ให้’

‘พิมรี่พาย’ ตอบทุกอย่าง เบื้องหลัง Live 100 ล้าน ทำไมทำคอนเทนต์ช่วยสังคม ‘จากผู้รับเปลี่ยนเป็นผู้ให้’

แชร์ :

พิธีกรดัง “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ต้องใช้ถึง 3 ปี เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ “พิมรี่พาย” หรือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง กว่าที่เธอจะตอบรับ พร้อมมาเล่าทุกเรื่องราว ที่มาของการ Live ขายของจนติดทำเนียบแม่ค้า 100 ล้าน จุดเริ่มต้นทำคอนเทนต์ช่วยสังคม ที่มักกลายเป็นดราม่า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ถือเป็นการเปิดใจผ่านสื่อครั้งแรกกับ Woody ของ “พิมรี่พาย” ในวัย 31 ปี ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของธุรกิจ 1,000 ล้าน จากจุดเริ่มต้นเปิดร้านขายของย่านประตูน้ำไปจนถึงตลาดนัด และเจ้าของสถิติยอดขาย Live 100 ล้าน ไม่ใช่แค่กล่องสุ่ม แต่ทุกครั้งที่ พิมรี่พาย Live เธอทำยอดขายได้ตัวเลข 9 หลัก ขายสินค้าสูงสุด 10 ล้านชิ้น การ Live แต่ละครั้งมีคนดู 70,000-100,000 คน

woody pimrypie

เคลียร์ปมกล่องสุ่ม 100 ล้าน “กำไรหรือขาดทุน” โละสต๊อกหรือเปล่า?

– เริ่มที่ประเด็นฮอตกันก่อน “กล่องสุ่ม” 1 แสนบาท ทำยอดขาย 100 ล้านบาท ภายใน 10 นาที เป็นสิ่งที่ พิมรี่พาย บอกว่าไม่ได้คิดว่าจะทำมาก่อน เพราะถ้าคิดก่อนคงไม่ออกมาแบบนั้น

– ที่มาของกล่องสุ่ม มาจากเน็ตไอดอลคนหนึ่งที่เข้ามาคอนเมนต์ในช่วง Live ขายของว่า ให้ทำกล่องสุ่มเครื่องสำอาง 1 แสน และคอมเมนต์มาหลายครั้ง ลูกค้าที่อยู่ในไลฟ์ก็กด Like ให้คอนเมนต์กล่องสุ่มตลอด วันนั้นจึงตัดสินใจเปิดขายกล่องสุ่ม 1 แสนบาท และก็มีคนกดซื้อจริงๆ จนยอดขึ้นไป 100 ล้านบาท ภายใน 10 นาที จึงสั่งให้หยุดขาย

– ช่วงคนซื้อเปิดกล่องสุ่ม 1 แสนบาท ก็มีกระแสอีกครั้ง เมื่อเน็ตไอดอลได้รับรถยนต์ “พิมรี่พาย” ให้เหตุผลว่า “เป็นสิ่งที่เขาควรได้ เพราะเขาให้พิมก่อน ด้วยการให้เงิน 1 แสน โดยไม่รู้ว่าจะได้ของอะไร” เพราะตลอดช่วงที่ Live ขายกล่องสุ่ม ได้บอกลูกค้าตลอดว่าของที่ใส่ในกล่อง เป็นเรื่องที่แล้วแต่เธอจะเลือกอะไรมาใส่ให้

“คนที่ให้พิมก่อนเป็นคนที่ควรจะได้รับของที่ได้มากกว่าที่ให้พิม”

ถามว่าคุ้มทุนไหมกับกล่องสุ่ม 1 แสนบาท พิมรี่พายบอกทันทีว่า “ไม่คุ้มขาดทุน”

– คนมองว่ากล่องสุ่มราคา 1 แสนบาท ขายได้ 100 ล้านบาท ทำไมขาดทุน? เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าของมันมีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย มีหลายคนใช้ทฤษฎีมาวิเคราะห์อีกว่าการทำกล่องสุ่มเป็นการโละสต๊อก ก็ต้องบอกว่า “พิมรี่พาย” เป็นคนไม่ชอบหลักการ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำ (ขายของ) ได้ทำลายทฤษฎีการตลาดทั้งหมด

“การขายกล่องสุ่มโละสต๊อกก็มีร้านค้าอื่นทำ แต่พิมรี่พายทำเพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า”

เปิดเบื้องหลัง Live เสื้อผ้าหน้าผมมีสไตลิสต์จัดเต็ม

มาถึงเรื่องการ Live ของพิมรี่พาย แม่ค้าคนดัง ที่แต่ละครั้งมีคนดูสดแบบตั้งใจหลัก 70,000-100,000 คน แต่หากเลื่อนฟีดผ่านๆ ก็ราว 4 ล้านคน

– การ Live แต่ละครั้งก็มาแบบจัดเต็ม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เบื้องหลังคือมีทีม “สไตลิสต์” จัดให้ทั้งหมด ทุกชุดสั่งตัดใหม่ ไม่เช่นนั้น “พิมรี่พาย” ก็คงเหมือนแม่ค้าทั่วไป แต่ละชุดเตรียมงานล่วงหน้าเป็นเดือน มีทีมแต่งหน้าทำผมให้ทั้งหมด (ยอมรับว่ายุคแรกที่ Live ขายของคนดูหลัก 500-1,000 คน ก็เคยแต่งหน้าเอง แต่หมดพลังไปมากจน Live ไม่ไหว มายุคนี้เลยไม่แต่งหน้าเอง เพราะต้องการเก็บแรงไว้โฟกัสการ Live อย่างเดียว)

– ช่วง Live แต่ละครั้งใช้เวลายาวนาน 8 ชั่วโมง บอกตรงๆ ก็ต้องมีปวดฉี่ แต่ก็ต้องอั้นไว้ แม้กระทั่งวันไหนมีประจำเดือนก็ต้องปล่อยให้ไหลไป เพราะออกไปกลาง Live ไม่ได้ จนกว่าจะจบ เรียกว่าลูกน้องผู้ชายกระเจิงถอยห่างกันหมด

– ในชีวิตเคย Live มาราธอนจบ 6 โมงเช้า เพราะลูกค้ายังซื้อกันไม่เลิก ยกอะไรมาขายก็ยังกดซื้อไม่เลิก หาก Live ไปถึงเที่ยงก็เชื่อว่ายังมีคนอยู่ซื้อ แต่วันนี้ต้องกำหนดเวลาเลิกเพราะสู้ไม่ไหว

pimrypie 7

เทคนิคขายแล้วรวย

– “พิมรี่พาย” Live ขายกล่องสุ่ม 100 ล้าน กลายเป็นกรณีศึกษาของวงการตลาด ที่เรียกว่าฉีกทุกกฎ แต่หากถามแบบบ้านๆ เทคนิคอะไรขายแล้วรวย

“พิมรี่พาย” บอกว่า “เธอขายเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ ได้ของไปแล้วต้องชอบ ชอบแล้วกลับมาซื้ออีก หากไม่ชอบก็ให้เอาไปเมาท์กัน ให้คนที่ฟังในวงเมาท์อยากมาซื้อไปลอง”

“การขายเป็นแค่การเริ่มต้น เหมือนรู้จักกันครั้งแรก และต้องให้รู้จักกันมากกว่านี้ คือกลับมาซื้อซ้ำ ต้องชอบและกลายเป็น Super Fans บอกต่อว่าของดีจริง”

– แต่หากเป็นคอมเมนต์เชิงลบเกี่ยวกับสินค้าก็ต้องรับฟังด้วย นำมาแก้ไข ปรับปรุงเสนอสินค้าให้ดีขึ้น ที่สำคัญต้องแก้ไขทันที เพราะ “ปลาใหญ่ แพ้ปลาไว”

Live แรกในชีวิตได้ 3,000 บาท

– หากย้อนไป Live แรกในชีวิต พิมรี่พาย เล่าว่าเกิดจากช่วงที่ขายของในตลาดนัด แล้วลูกน้องมาทวงค่าจ้าง แต่ไม่มีเงินจ่ายเพราะช่วงนั้นฝนตกขายของไม่ได้

วันนั้นนั่งดูมือถือเห็นแม่ค้าหลายราย Live ขายของก็มีคนดูและซื้อสินค้าจำนวนมาก จึงตัดสินใจตอนนั้น วางมือถือตั้งพิงเสา Live ขายของทันที (ขายครีม) มีคนเข้ามาดู 34 คน เป็นเพื่อน 30 คน มาดูแต่ไม่ซื้อ มีคนดูจริง 4 คนที่ไม่ใช่เพื่อน แต่ซื้อรวมกัน 3,000 บาท Live จบรีบแพ็กสินค้าส่งให้ทันที แล้วกลับมาเปิด Live ใหม่อีก

“ตอนนั้นในหัวคำนวณแล้วว่า หากขายได้วันละ 3,000 บาท ก็ตกเดือนละ 90,000 บาท รวยแน่ๆ”

– หลังจากนั้นก็ไลฟ์ขายมาตลอด คนดูแนะนำอะไร สอนอะไร ก็ปรับตาม แสงมืดไปก็ซื้อไฟมาติดเพิ่ม Live ไปมือถือหล่น ก็ไปซื้อขาตั้งกล้องมาใช้ ทำไปปรับไปเรื่อยๆ ตามคอมเมนต์ผู้ชม รวมทั้งสินค้าที่นำมาขายก็ต้องดูจากฟีคแบ็คลูกค้าว่าชอบไม่ชอบอะไร เรียกว่า “เป็นชีวิตแม่ค้าที่มีลูกค้าเป็นครู”

pimrypie 9

คนซื้อเพราะเชื่อใจแต่ละ Live ยอดขาย 9 หลัก

– ใน Live ขายของ พิมรี่พาย มักมีหลายแบรนด์ดัง รวมทั้ง La Mer สินค้ายอดฮิตมาขายด้วย แต่ที่คนอยากรู้ทำไมถึงขายแบรนด์เนมได้ราคาถูก? คำตอบจากพิมรี่พาย คือ “ทำไมต้องขายให้ได้กำไร เมื่อไหร่จะหลุดกรอบว่าขายของต้องได้กำไรทุกชิ้นสักที พิมอาจจะขายขาดทุนก็ได้”

– พิมรี่พายขายทุกอย่าง แต่หากถามว่าคนซื้อเพราะอะไร ก็ตอบได้ว่า “เพราะเชื่อใจคนชื่อพิมรี่พาย” ว่าไม่มีทางค้ากำไรเกินควร หรือเอาเปรียบเพื่อน (ลูกค้า) คนซื้อส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ มีสถิติว่าลูกค้าคนหนึ่งซื้อ 10 ล้านบาทต่อเดือน เรียกว่าซื้อทุกอย่าง

– จากจุดเริ่มต้นชีวิตแม่ค้าตลาดนัดเมื่อ 10 ปีก่อน พิมรี่พาย ขายของได้วันละ 1,500 บาท แต่ทุกวันนี้การ Live แต่ละครั้งราว 8 ชั่วโมง ทำยอดขายได้ 9 หลัก ตอบได้เลยว่าจ่ายภาษีแน่นอน

– แม้ได้เห็นตัวเลขเงินหลัก 100 ล้านในการ Live แต่ละครั้ง ความรู้สึกไม่ได้เปลี่ยนไปจากการได้จับเงินล้านครั้งแรกในชีวิต ณ จุดนี้จึงไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตแตกต่างจากเดิม ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ประสบความสำเร็จในการ Live ขายของ รู้สึกพอใจกับการใช้ชีวิตที่มีแล้ว

– ทุกวันนี้มีโกดังที่ลงทุนไป 1,000 ล้านบาท ตั้งใจใช้โกดังที่เก็บสินค้าแต่ละอย่างเป็น Background ในการ Live เพื่อให้ลูกค้าเห็นการพัฒนาของตัวเอง ว่าเงินที่ลูกค้าซื้อของกับพิมรี่พาย ได้สร้างองค์กรให้ใหญ่และเติบโต

กำไรคือได้สร้าง “แบรนด์พิมรี่พาย”

– แม้ตัวเองจะพอใจกับชีวิตในวันนี้ แต่ในมุมขององค์กร พิมรี่พาย ต้องการสร้างฐานให้มั่นคงมากกว่านี้ เพราะวันนี้มีลูกน้องที่ต้องดูแลกว่า 2,000 คน

“กำไร” ของพิมรี่พาย คือความสุขของลูกค้าที่พูดถึงเรา และ “แบรนด์พิมรี่พาย” เป็นที่รู้จักและอยู่ได้ต่อไป แม้ไม่ต้องมีคนชื่อพิมรี่พาย มายืน Live ก็ยังขายของได้ สามารถดูแลคนในองค์กรต่อไปได้

เพราะในที่สุดแล้วคงไม่สามารถสร้างพิมรี่พาย “คนใหม่” มา Live ขายของได้ แอคติ้งอาจสอนกันได้ แต่สัญชาตญาณการตัดสินใจสอนกันไม่ได้

pimrypie 5
ที่มาทำคอนเทนต์ช่วยสังคม

– อีกงานที่พิมรี่พาย ทำและมักเป็นประเด็นให้พูดถึงอยู่บ่อยครั้ง คือการทำคอนเทนต์ช่วยเหลือสังคมและคนด้อยโอกาส ผ่านช่องยูทูบพิมรี่พาย ที่มีผู้ติดตามกว่า 5 ล้านคน

– พิมรี่พาย เล่าแรงบันดาลที่ตั้งใจ “ให้” คืนสังคม เพราะในวัยเด็กช่วงที่เรียนอยู่ ป.3 ต้องช่วยแม่หารายได้ ด้วยการยืนขายทอดมันอยู่หน้าร้านเซเว่นฯ ในวันหนึ่งฝนตกถุงทอดมันเปียกมีแต่คราบน้ำมัน ก็มีพี่คนหนึ่งมาถามว่าขายอะไร ก็บอกว่าทอดมันค่ะ พี่คนนั้นบอกว่าขอเหมาทั้งหมดและให้รีบเข้าบ้าน

“ได้ยินแบบนั้นจิตใจของเด็กคนหนึ่งที่ยืนตากฝน หัวใจพองโต โลกใบนี้มันสดใส กำเงิน 400 บาทในมือไว้แน่น เอาเงินกลับไปให้แม่ได้ภูมิใจ โลกทั้งโลกตอนนั้นศิวิไลซ์ ยังจำความรู้สึกที่ดีใจที่สุดในชีวิตได้ดี”

ในวันนั้นที่มีคนมาเหมาซื้อทอดมันครั้งแรกในชีวิต 400 บาท ความดีใจมันประเมินมูลค่าไม่ได้ แม้มีเงินในวันนี้ ยังไม่ดีใจเท่าวันนั้น

นี่จึงเป็นที่มาของการช่วยเหลือคนด้อยโอกาสและคืนให้กับสังคม เพราะต้องการให้คนอื่นหัวใจฟูเหมือนตัวเองที่เคยได้รับความรู้สึกนี้ในวัยเด็ก

พิมรี่พาย เล่าด้วยน้ำเสียงสะอื้น “อยากบอกพี่คนที่เหมาทอดมันว่า ทุกวันนี้พิมรี่พาย ได้ทำเหมือนกับพี่ทำ ได้มอบโอกาสให้คนอื่น เหมือนที่เคยได้รับมา มูลค่าเงิน 400 บาท อาจเป็นเศษของใคร แต่เงิน 400 ที่ได้รับมาในวันนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของพิมรี่พาย”

pimrypie 1

อีก 2 ปีหยุด Live ขอไปเที่ยว

หากถามถึงสิ่งที่ พิมรี่พาย อยากทำในอีก 2 ปีข้างหน้า ตอนอายุ 33 ปี คือ เธอจะหยุด Live 1 ปี พาลูกไปท่องเที่ยวต่างประเทศและส่งลูกไปเรียนต่อประเทศจีน แต่ไม่ได้ให้เรียนอย่างเดียว ต้องไปทำงานด้วย หาสินค้าส่งมาให้แม่ขายในไทย เพราะเป้าหมายต้องการให้องค์กรขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ไม่ต้องขับเคลื่อนด้วยพิมรี่พาย ทุกคนต้องช่วยทำงานให้องค์กรเติบโต

วันนี้ “พิมรี่พาย” ถือเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ อาชีพที่คนมองข้าม แต่พิมรี่พายภูมิใจและต้องการให้แม่ค้าทุกคนภูมิใจว่า “ไม่ได้เป็นแค่แม่ค้า แต่สักวันต้องเติบโตให้ได้”

ทุกคนมีโอกาสเป็นเหมือนพิมรี่พายได้ตลอดเวลา แต่ต้องเริ่มจากตัดสินใจว่าจะทำอะไรสักอย่างและลงมือทำทันที เมื่อเดินไปตามที่ตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องกลัวล้มเหลว เมื่อผิดพลาดก็ต้องลุกให้เร็ว

ในวัย 31 ปี ทุกคนรู้จัก “พิมรี่พาย” ในฐานะแม่ค้าออนไลน์ เธอย้ำว่าต้องการให้ทุกคนจำในบทบาทต่อไปถึงวัยเกษียณก็จะเป็น “แม่ค้า” และต้องการคืนกำไรให้สังคมช่วยเหลือคน เพราะที่มายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ ก็เพราะได้รับโอกาสมาแบบที่ไม่กล้าฝันมาก่อน เมื่อคนให้มาขนาดนี้จึงต้องการคืนให้สังคม

ที่มา : รายการ WoodyxPimrypie
https://fb.watch/9OASZPNE1N/

Photo Credit : Facebook pimrypie – พิมรี่พาย


แชร์ :

You may also like