‘ ROLLING ROASTERS ’ โลกของกาแฟใบที่สี่ กำเนิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Futuristic Coffee สื่อถึงความล้ำสมัยสู่โลกแห่งอนาคต “World rolls, We roll” เปรียบกับการหมุนของโลกที่หมุนไปอย่างไม่มีวันหยุด ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เกิดกลางวัน – กลางคืน เกิดการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล เมื่อเวลาผันผ่านทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเกิดการพัฒนาตามไป เช่นเดียวกับโลกแห่งกาแฟ ที่มีการพัฒนาอย่างไม่มีวันหยุดโดยมีการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ขั้นตอนการคั่ว การชง การชิม หรือแม้แต่การคัดสรรองค์ประกอบในการชงกาแฟแต่ละแก้ว ไม่ว่าจะเป็น น้ำที่ใช้ สภาพอุณหภูมิรอบตัว หรือแม้แต่น้ำหนักมือที่ใช้ในการเทน้ำขณะชง ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟ
ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าของ คุณแอน – รสรินทร์ ติยะวราพรรณ ที่ต้องการจะทำให้ร้านกาแฟไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อมาสั่งกาแฟดื่มแล้วจากไป แต่ร้านกาแฟจะต้องให้อะไรกับลูกค้ามากกว่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่มีหลากหลายสายพันธุ์ กรรมวิธีการชงที่พิถีพิถัน บาริสต้าที่มีแพชชั่นด้านกาแฟและฝึกฝนมาอย่างเข้มข้นแล้วนั้น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันระหว่างผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้และมุมมองด้านกาแฟอย่างหลากหลาย ที่แห่งนี้จึงมีการสร้างห้องแล็บ ( Laboratory ) เพื่อให้ผู้บริโภคได้มาเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในโลกแห่งกาแฟกันอย่างไร้ขีดจำกัด โดยภายในมีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคั่ว เครื่องบดกาแฟ โซนฝึกคัปปิ้ง โซนฝึกเทลาเต้อาร์ต เป็นต้น
ไฮไลท์ของโรลลิ่ง โรสเตอร์เป็นเรื่องของการตกแต่ง ซึ่งแต่เดิมภายในร้านมีลูกโลกสามใบเป็นจุดเด่นที่ทุกคนต้องได้เห็น แต่ครั้งนี้มีลูกโลกใบที่สี่ถือกำเนิดขึ้น โดยเป็นโลกที่สื่อถึงอนาคต ความล้ำสมัย ความเป็นวิทยาศาสตร์ ภายนอกร้านมีการสร้างเป็นสวนที่ร่มรื่น ซึ่งรูปแบบการดีไซน์ของสวนแห่งนี้ไม่มีที่ไหนในเมืองไทย เพื่อให้ลูกค้าสามารถนั่งชมลูกโลกพร้อมสัมผัสบรรยากาศความเป็น Industrial Punk ในแบบ Futuristic ได้อย่างเต็มอิ่ม
ในส่วนของเมนู ทางร้านมีเมนูซิกเนเจอร์ที่คิดค้นพิเศษโดย Q Grader ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งได้รังสรรค์ 2 ซิกเนเจอร์เมนูขึ้นมา อาทิ Summer Night ช็อตเอสเปรสโซ ดาร์ก เบลนด์ มีเบสเป็นน้ำแตงโมและไซรัปวานิลลา ตามด้วยผงวานิลลาโรยรอบแก้ว มอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของวานิลลาขณะจิบ ออนท็อปด้วยฟองนมนุ่มตามด้วยกลิ่นจากเลมอนเนทที่บีบไว้ด้านบน ส่วน Trio Pina โคลด์ บรูว์ ดาร์ก เบลนด์ ผสมน้ำผลไม้ น้ำมะพร้าว และน้ำสับปะรด ทำให้เวลาดื่มได้รสหวานจากน้ำสัปปะรดและน้ำมะพร้าว ตัดกับความเข้มของกาแฟ มอบรสชาติที่หลากหลายในแก้วเดียว พร้อมพบกับสเปเชียลดริงก์ประจำเดือนธันวาคม Back to December ลาเต้น้ำตาลมะพร้าวที่คิดค้นโดยบาริสต้าประจำร้าน ซึ่งรองพื้นด้วยนม ออนท็อปด้วยไอศกรีมซอร์เบท ท็อปปิ้งด้วย อัลมอนด์ให้ความหวานมัน หอมมะพร้าว โดยในทุกเดือนทางร้านจะมีเมนูพิเศษประจำเดือนนั้นๆ แบบไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมายที่คัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม รสชาติเยี่ยมไว้ให้เลือกสรร โดยแบ่งเป็น เมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี่ เมล็ดกาแฟ Seasonal และ Single เพื่อลูกค้าจะได้รับรสชาติและสีสันใหม่ๆในแต่ละเดือน และจะหมุนไปพร้อมกับโลกอย่างไม่มีวันหยุดนิ่ง
สัมผัสความหอมกรุ่นของโลกใบที่สี่ของกาแฟที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง พร้อมดื่มด่ำไปกับซิกเนเจอร์ดริงก์ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่คุณภาพได้แล้ววันนี้ ณ Rolling Roasters โดยร้านเปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00 – 17.30 น. เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00 -17.30 น. สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook/ROLLING ROASTERS
#RollingRoasters #futuristiccoffee #worldrollsweroll