การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่เพราะบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง การเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดสักหลังจึงมีปัจจัยในการตัดสินใจหลายอย่าง ในอดีตผู้บริโภคจะเลือกซื้อบ้านจากทำเลที่ดี ดีไซน์ที่ถูกใจ รวมไปถึงราคา และชื่อเสียงของดีเวลลอปเปอร์ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้ ยังมองไปถึงบริการหลังการขายด้วย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เราต้องกับบ้านไปยาวนาน บวกกับปัจจุบันคนใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น บ้านที่ดีจึงไม่ใช่แค่อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกเท่านั้น แต่ยังต้องอยู่สบายและปลอดภัย
หลายปีที่ผ่านมา “ธุรกิจบริหารนิติบุคคล” หรือ “Property Management” จึงเติบโตเพิ่มขึ้น และมีผู้เล่นเข้ามาขับเคี่ยวช่วงชิงตลาดกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ บริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART) ผู้ให้บริการ Property Management ที่อยู่ในใจลูกบ้านมากว่า 25 ปี ปัจจุบันมีส่วนแบ่งอันดับ 1 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยพอร์ตบริหารจัดการรวม 313 โครงการ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด “SMART” ทำอย่างไรจึงสามารถครองใจลูกบ้าน Brand Buffet พามาค้นคำตอบเรื่องนี้
5 กลยุทธ์ ครองใจลูกบ้านกว่า 300 โครงการ
เมื่อพูดถึงธุรกิจ Property Management สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือ การบริการ ทั้งทีมงาน เจ้าหน้าที่เข้าใจ ใส่ใจในทุกความต้องการของลูกบ้าน จนถึงการนำนวัตกรรมเข้ามาให้บริการเพื่อสร้างความสะดวกสบายและยกระดับคุณภาพของผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น แต่ SMART ให้ความสำคัญในมิติมากกว่านั้น โดยจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างและทำให้ครองความเป็นเบอร์ 1 ในใจคนเมืองนั้น มาจาก 5 กลยุทธ์หลักคือ
- ใส่ใจดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ผ่านมา SMART เป็นผู้ให้บริการ Property Management ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งการฝึกอบรมทีมงานให้มีทัศนคติที่ดี และทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการ Design Thinking และ Outward Mindset ตลอดจนมีการดูแลระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ภัยพิบัติต่างๆ หรือสถานการณ์โควิด-19 สามารถเข้าพื้นที่ดูแลได้อย่างรวดเร็ว มีเจ้าหน้าที่เข้าประจำการและดูแลในยามคับขันตลอดเวลา
2. นวัตกรรม (Innovation) ที่คัดสรรมาเพื่อลูกบ้าน
นอกเหนือจากระบบการบริการที่รวดเร็วแล้ว SMART ยังให้ความสำคัญกับการนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการดูแลรักษาบ้านให้ง่ายขึ้นด้วย โดยพัฒนา SMART World App เพื่อเป็นตัวช่วยคอยแจ้งเตือนและให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ กับผู้อยู่อาศัย เช่น ข่าวสาร การเงิน การซื้อของ ฝากร้าน รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ที่มากกว่า ดูแลทุกส่วนงานที่ลูกบ้านต้องการ โดยมียอดดาวน์โหลดถึง 77,000 ยูสเซอร์
3. การจัดกิจกรรม Event Activity ที่เข้าถึงทุกความต้องการของคนอยู่อาศัยอย่างลงตัว
เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อาศัย แต่ผู้บริโภคยุคนี้ยังมองหาคอมมูนิตี้ที่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยมากขึ้น SMART จึงมีการจัดกิจกรรมทั้งในรูปแบบ Online และ Offline ซึ่งจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ที่เหมาะสมกับลูกค้า ทุกเพศ ทุกวัย
4. บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ รายแรกของไทยที่ได้รับ ISO 41001:2018
อีกสิ่งที่สร้างความแตกต่างของ SMART การเป็นบริษัทพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์รายแรกของไทยที่ผ่านเกณฑ์และได้รับมาตรฐานสากลด้านการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้เป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีว่า SMART มีกระบวนการดำเนินงาน ที่มีประสิทธิภาพในการให้บริการบริหารจัดการโครงการอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยในระดับมาตรฐานโลก ผ่านทีมงาน SMART ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลอย่างครบวงจร ทั้งระบบวิศวกรรม การบริหารจัดการอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง ทัศนียภาพโดยรวมของโครงการ แลนด์สเคปพื้นที่สวนสีเขียว รวมถึงสถาปัตยกรรมงานดีไซน์ต่างๆ ภายในโครงการให้คงความงดงามแม้เวลาผ่านไป ที่จะช่วยคงคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ ที่อยู่อาศัยได้ระยะยาว รวมถึงระบบตรวจเช็ค Online ที่สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ชัดเจน การดูแลและสวัสดิการที่บริษัทมีให้พนักงานมากกว่าที่อื่น รวมถึงบุคลากรที่เป็นทีม Support คอยช่วยเหลือทำแทนในจุดที่ขาด เพื่อทำให้การทำงานไม่ติดขัด
5. การหารายรับเพิ่มให้กับนิติบุคคล
ที่ผ่านมารายรับของนิติบุคคลจะมาจากค่าส่วนกลางเท่านั้น แต่ SMART มีการปรับวิธีคิดใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับโครงการมากขึ้น โดย SMART จะเข้ามาช่วยในการหาพาร์ทเนอร์เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกบ้านและทำให้พื้นที่ส่วนกลางสามารถสร้างรายรับในระยะยาวได้อีกด้วย โดยปัจจุบันมีรายรับมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ที่ SMART ดำเนินการเพิ่มรายรับให้โครงการที่ดูแล
เดินหน้ายกระดับการบริการด้วยมาตรฐานสากล
ปัจจุบัน SMART ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกบ้านไม่เฉพาะโครงการในเครือเอพีเท่านั้น แต่ยังมีการดูแลคุณภาพชีวิตหลังการเข้าอยู่อาศัยของโครงการอื่นๆ กว่า 313 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม รวมกว่า 82,890 ครอบครัว ด้วยความเป็นมืออาชีพและมาตรฐานการให้บริการที่เข้ามายกระดับความสะดวกสบายและมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม
สำหรับทิศทางในอนาคต SMART ยังคงเดินหน้ารักษาและยกระดับการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจว่าทั้งการดูแลโครงการ (Place) บุคลากร (People) กระบวนการ (Process) และเทคโนโลยี (Technology) ที่ SMART ให้บริการนั้นได้มาตรฐานในระดับสากล และสร้างความพึงพอใจของลูกค้าในทุกบริการ
ทั้งหมดนี้จึงถือเป็นการตอกย้ำถึงการใส่ใจในการให้บริการของ SMART ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนครองใจลูกบ้านคนเมืองมาจนถึงปัจจุบัน