ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ “สกุลเงินดิจิทัล” หรือ “คริปโทเคอร์เรนซี” (Cryptocurrency) มาแรงแซงทุกโค้ง เพราะนับตั้งแต่เปิดศักราชปี 2564 ราคา “บิตคอยน์” (Bitcoin) ก็พุ่งทะลุ 1 ล้านบาทต่อบิตคอยน์ (3 มกราคม 2564) จนตอนนี้ยังทะยานไม่หยุด แถมในแวดวงธุรกิจทั้งอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก สายการบิน และร้านกาแฟ ยังนำมาใช้ซื้อหรือแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันมากขึ้น ทำให้สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จากก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
จากปรากฎการณ์นี้ ไม่เพียงจะส่งผลให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความคึกคัก แต่ยังทำให้ “บิทคับ” (Bitkub) แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดดเด่นอย่างมาก และทำให้ “ท๊อป” หรือ “จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ซีอีโอวัย 31 ปี เป็นบุคคลที่ถูกจับตามองอย่างมากในปี 2564 โดยเฉพาะในแวดวงการเงินและสตาร์ทอัพ เพราะเขาสามารถปลุกปั้นธุรกิจจากสตาร์ทอัพเล็กๆ ให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นยูนิคอร์นอีกตัวของไทย ด้วยมูลค่าบริษัททะลุ 35,000 ล้านบาท
มูฟเมนต์ของเขากลายเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง แม้แต่การถ่ายรูปคู่กับผู้บริหารของบริษัทไหนก็ทำให้หุ้นของบริษัทนั้นขึ้นไปด้วย … เอากับเขาสิ
Brand Buffet จึงต้องขอย้อนเส้นทางของซีอีโอหนุ่มตลอดปี 2564 ว่ามีจุดเปลี่ยนอะไรที่น่าสนใจจนกลายเป็นหมุดหมายความสำเร็จของเขาในรอบปีที่ผ่านมาบ้าง
1.เติบโต 1,000% ภายใน 7 วัน
ราคาของบิตคอยน์ที่ค่อยๆ พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2563 และร้อนแรงอย่างมากในช่วงต้นปี 2564 โดยมูลค่าในไทยขยับไปแตะที่ 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และทำสถิติใหม่ที่ราคา 41,962 ดอลลาร์ หรือกว่า 1.2 ล้านบาท จากความร้อนแรงของราคานี้ ส่งผลให้ตลาดคริปโตได้รับความสนใจจากนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเทรดเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้ Bitkub มีการเติบโตขึ้นกว่า 1000% ภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน โดยมียอดการซื้อขายสินทรัพย์ผ่านตลาดบิทคับวันละ 4,500 ล้านบาท จากเดิมวันละ 400 ล้านบาท
2.ระบบล่ม ซื้อขายบิตคอยน์ป่วน
จากกระแสความร้อนแรงของบิตคอยน์ ดึงดูดให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาซื้อขายพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ระบบเริ่มหน่วงและล่าช้าหลายครั้ง แต่เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดคือ ระบบล่มบ่อย ภายในเดือนเดียว ล่มถึง 4 ครั้งคือ วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 16 และวันที่ 18 มกราคม 2564 สร้างความไม่พอใจกับนักลงทุนจำนวนมาก เพราะไม่สามารถซื้อขายได้ปกติ บางรายเงินหาย ส่วนบางคนขายเป็นสัปดาห์ยังไม่ได้รับเงิน
กระทั่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องเข้ามาดูแล โดยทำหนังสือแจ้งให้เว็บไซต์ Bitkub ปรับปรุงระบบใน 5 วัน และสั่งห้ามห้ามเปิดรับลูกค้าใหม่ จนกว่าจะแก้ไขระบบให้สามารถรองรับกับปริมาณลูกค้าได้ ในเวลาต่อมา Bitkub จึงประกาศปิดปรับปรุงระบบเป็นการชั่วคราวเพื่อให้มีความพร้อมมากขึ้น และกลับมาเปิดให้บริการเป็นปกติในวันที่ 22 มกราคม 2564 จนปัจจุบัน
3.Bitkub มียอดผู้ใช้งานครบ 1 ล้านราย
หลังปรับปรุงระบบและกลับมาเปิดรับลูกค้าใหม่ ในเดือนเมษายน Bitkub ก็ประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก มีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มครบ 1 ล้านบัญชีแล้ว โดยมีมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรวม 13,000 ล้านบาท เป็นอันดับที่ 15 ของโลกจากการจัดอันดับบนเว็บไซต์ Coingecko.com
4.เปิดตัว KUB Coin เหรียญคริปโตสายพันธุ์ไทย
Bitkub เปิดตัวเหรียญ “Bitkub Cion” (KUB) ความน่าสนใจของ KUB คือ ครั้งแรกของไทยที่ออกเหรียญโดยเครือข่ายบล็อกเชนของตนเองที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2564 ที่หวังให้เกิดการนำคริปโตไปใช้ใช้งานในภาคธุรกิจมากขึ้น โดยเหรียญ KUB ทำหน้าที่เป็น Utility Coin สำหรับจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Kub Chain และยังสามารถใช้ลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายบนกระดานเทรดของ Bitkub ได้อีกด้วย
5.SCBX ควัก 1.7 หมื่นล้าน เข้าถือหุ้น Bitkub 51%
2 พฤศจิกายน เป็นอีกวันที่ “ท๊อป-จิรายุส” สร้างความฮือฮาไปทั้งวงการคริปโตฯ และแวดวงการเงินของไทยอย่างมาก เมื่อกลุ่มเอสซีบี เอ็กซ์ (SCBX) เข้าซื้อหุ้นสามัญของ Bitkub ด้วยมูลค่าสูงถึง 17,850 ล้านบาท เพราะดีลยักษ์นี้ ทำให้ SCBX เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Bitkub ในสัดส่วน 51% และยังทำให้ชื่อ Bitkub ก้าวขึ้นสู่สถานะยูนิคอร์นอีกตัวของไทยทันที กับมูลค่าบริษัท 35,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังทำให้ KUB Coin ราคาพุ่งขึ้น จากราคาระดับ 70 บาท ขึ้นมาที่ระดับ 500 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
6.เปิดตัว NFT Marketplace
จากกระแส NFT ที่มาแรงอย่างมาก ทำให้ Bitkub เปิดตัว NFT Marketplace เป็นของตัวเอง และวันแรกที่เปิดตลาด สินค้าของ “ท๊อป-จิรายุส” ก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 4,800 KUB
7.เปิด Bitkub M คอมมูนิตี้สำหรับแวดวงคริปโต
Bitkub จับมือห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท บิทคับ เอ็ม จำกัด” (Bitkub M) ในสัดส่วน 50:50 เพื่อสร้างศูนย์รวมชุมชนคริปโต บิทคับ เอ็ม โซเชียล (BITKUB M SOCIAL) ดิจิทัลคอมมูนิตี้แห่งแรกของไทย ทั้งยังเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนด้านความรู้ แหล่งรวมสตาร์ทอัพ และเป็นแหล่งรวมตัวของการลงทุนแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล, NFT Gallery & Gaming และ Metaverse ในอนาคต โดย BITKUB M ประเดิมเปิดที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ทั้งยังเปิดให้นำ 7 เหรียญคริปโตฯ ได้แก่ BITCOIN, TETHER, ETHEREUM, STELLAR, XRP, BITKUB COIN และ JFIN COIN ไปแลกสินค้า และบัตรกำนัลได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
นอกจากการจับมือกับยักษ์ค้าปลีกอย่างเดอะมอลล์แล้ว ในปี 2564 Bitkub ยังผนึกบริษัทในแวดวงธุรกิจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์, บัตรเครดิต, โรงภาพยนตร์ และสายการบิน ทำให้โลกของคริปโตฯ เข้ามาใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น และเชื่อว่าซีอีโอหนุ่มไฟแรงอย่าง “ท๊อป-จิรายุส” คงไม่หยุดเพียงแค่นี้แน่นอน เพราะเป้าหมายของเขาคือ การเปลี่ยน Bitkub ให้เป็น Must Have ที่ประเทศไทยขาดไม่ได้ แต่จะมีอะไรมา Surprise นั้น ในปี 2565 ต้องจับตามองกันให้ดี