หลังเจอสถานการณ์โควิดฉุดเศรษฐกิจซบเซามา 2 ปี มาปีนี้การระบาดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ยังเป็นปัจจัยท้าทาย แต่ความกังวลคงไม่เท่ากับ 2 ปีก่อน หลายอุตสาหกรรมเห็นสัญญาณบวก รวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ดีมานด์ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มกลับมาฟื้นตัว
ปี 2564 เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากโควิด แต่ยังเห็นความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัย แม้เค้กก้อนไม่ใหญ่เหมือนในอดีต พบว่าบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ยังเติบโตได้ จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับความน่าเชื่อถือ มีสินค้าตอบโจทย์ลูกค้า มีฐานะการเงินมั่นคง “เอพี” ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยังเติบโตได้ในสถานการณ์โควิด
แม้ปีที่ผ่านมา เอพี เปิดตัวไปเพียง 19 โครงการ มูลค่า 22,540 ล้านบาท กลุ่มหลักคือ บ้านเดี่ยว 90% ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม 10% โดยสร้างยอดขายทั้งปี 35,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% มียอดโอน 40,000 ล้านบาท
กลยุทธ์การทำตลาดที่ทำให้เติบโตได้ มาจากจุดแข็งความพร้อมและประสบการณ์ 30 ปี ในธุรกิจอสังหาฯ มีแบรนด์พอร์ตโฟลิโอและโปรดักท์ ตอบโจทย์ทางเลือกของลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ในทุกระดับราคา มีการบริหารจัดการกระแสเงินสด (Cash Flow Management) ตลอดเวลาในช่วงวิกฤติโควิด ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลง ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 0.58 เท่า รวมทั้งพัฒนาเรื่อง “ดิจิทัล ทรานส์ฟอเมชั่น” ต่อเนื่อง ปี 2564 ลงทุนด้านดิจิทัลไปกว่า 200 ล้านบาท เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด
ปี 65 ทุบสถิติเปิดตัว 65 โครงการ มากสุดในตลาด
คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่าแม้ปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทายจากสถานการณ์โควิด แต่เชื่อว่าด้วยความพร้อมในทุกด้าน จะทำให้ปี 2565 เป็นปีแห่งที่สุดในการเติบโตของ “เอพี” 4 เรื่องหลัก
1. เปิดโครงการมากที่สุด
– เอพี เคยเปิดโครงการใหม่มากสุดในปี 2563 จำนวน 40 โครงการ มูลค่า 45,020 ล้านบาท แต่ปี 2565 วางเป้าหมายเปิดตัว 65 โครงการ มูลค่า 78,000 ล้านบาท เป็นการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดตั้งแต่เคยดำเนินธุรกิจมาและมากสุดในอุตสาหกรรมอสังหาฯ
– โครงการเปิดใหม่ปีนี้ แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท
– จากจำนวนโครงการใหม่ ทำให้ทั้งปี 2565 เอพีมีโครงการพร้อมขายทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 182 โครงการ มูลค่ากว่า 149,000 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท รายได้ 47,000 ล้านบาท
– กลยุทธ์หลักในการเปิดโครงการ คือ วางตำแหน่งเป็นผู้นำในระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ในกลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโด
– การเจาะตลาดใหม่ ในเซ็กเมนต์ที่ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดและยังมีโอกาสอยู่ ทำเลในกรุงเทพฯ แนวขอบเมืองและปริมณฑล เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และปทุมธานี พร้อมทั้งพัฒนาแบรนด์และโปรดักท์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ตลาดใหม่
2. ปีแห่งการเติบโตของทาวน์โฮม
– หลังจากปีก่อนตลาดบ้านเดี่ยวเติบโตสูงมาก ปีนี้วางเป้าหมายยอดขาย “ทาวน์โฮม” เติบโต 40% และยอดโอนเพิ่มขึ้น 30% เพื่อเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนี้ด้วยสัดส่วนที่มากขึ้น
– กลยุทธ์การทำตลาดจะพัฒนาแบรนด์ โปรดักท์และดีไซน์กลุ่มทาวน์โฮมใหม่ 20 แบบ จาก 6 แบรนด์ ระดับราคา 1.89-20 ล้านบาท เจาะทุกเซ็กเมนต์ โดยทาวน์โฮม ลักชัวรี “บ้านกลางเมือง” ราคา 10-20 ล้านบาท จะปรับโฉมใหม่ทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งาน สร้างโอกาสเติบโตกลุ่มบ้านแฝด เปิดตัว บ้านกลางเมือง The Edition 3 ชั้น และแกรนด์ พลีโน่
– เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Pleno Town ทาวน์โฮม 2 ชั้น ทำเลปริมณฑล ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท เจาะตลาดแมส
3. เจาะเซ็กเมนต์ใหม่บ้านเดี่ยว
– ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เอพี เติบโตในตลาดบ้านเดี่ยวทุกเซ็กเมนต์และเป็น “ผู้นำ” ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากสุดเป็นอันดับ 1 กลุ่มบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป แบรนด์หลักคือ บ้านกลางกรุง ราคา 50 ล้านบาท, The Palazzo ราคา 25 ล้านบาท, SOUL ราคา 20 ล้านบาท CITY ราคา 12-20 ล้านบาท และ Centro ราคา 5-12 ล้านบาท
– ปีนี้จะเจาะตลาดใหม่ในพื้นที่เขตปริมณฑล อย่าง สมุทรสาคร สมุทรปราการ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท เจาะกลุ่ม Gen M และ Gen Z ด้วยดีไซน์ใหม่
4. ปีแห่งการกลับมาของคอนโด
– ในช่วงโควิด คอนโดถือเป็นพระรอง เนื่องจากต้องอาศัยกำลังซื้อกลุ่มนักลงทุนและชาวต่างประเทศ ปีนี้เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นหลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คอนโดจะเริ่มกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง เพราะยังเป็นตลาดที่มีดีมานด์อยู่แม้การแข่งขันสูง
– เอพี เตรียมเปิดตัวคอนโด 5 โครงการใหม่ มูลค่า 13,000 ล้านบาท โดยมีแบรนด์ Aspire เป็น Fighting Brand หลักลุยตลาดแมส ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้น 84,000 บาทต่อตารางเมตร ใน 4 ทำเล 1. Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ เปิดพรีเซลวันที่ 19-20 มีนาคมนี้ 2. Aspire รัชโยธิน 3. Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 และ 4. Aspire อ่อนนุช สเตชั่น และ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว (ใกล้แดนเนรมิตเก่า)
– ปีนี้มีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่อีก 3 โครงการ รวมมูลค่า 12,700 ล้านบาท 1. RHYTHM เอกมัย เอสเตท 2. LIFE สาทร เชียร์ร่า และ 3. Aspire เอราวัณ ไพร์ม
หลังเจอโควิดมา 2 ปี ปีนี้เริ่มมองเห็นแสงสว่างแล้ว แต่การเดินไปถึงทางออกยังเจออุปสรรคและความท้าทาย จึงต้องระมัดระวัง เชื่อว่าโอกาสในตลาดอสังหาฯ ปี 2565 “ฟ้าหลังฝน” มาถึงแล้ว