“บิ๊กเทค” เปิดผลประกอบการไตรมาส 4 สุดอู้ฟู่ “ซัมซุง-เทสล่า-ไมโครซอฟท์” ทำได้เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
เป็นสัปดาห์ที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกต่างออกมาเผยผลประกอบการกันรัว ๆ เริ่มตั้งแต่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) ที่ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 4 ของตนเองนั้นมีกำไรจากการดำเนินงานถึง 11,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตขึ้น 53% พร้อมให้เหตุผลว่ามาจากธุรกิจหน่วยความจำ และชิปนั่นเอง (โดยกำไรจากธุรกิจชิปของซัมซุงนั้นเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2021) ซึ่งซัมซุงบอกด้วยว่า นี่เป็นไตรมาส 4 ที่มีผลประกอบการดีที่สุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว
ขณะที่ค่ายเทสล่า (Tesla) ก็ไม่น้อยหน้า เพราะผลประกอบการไตรมาส 4 ทำรายได้ไปถึง 17,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า พร้อมเผยว่า ตลอดทั้งปี 2021 บริษัทส่งมอบรถยนต์ไปได้กว่า 936,000 คัน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับปี 2020 ด้วย
หันไปดูทางไมโครซอฟท์ (Microsoft) ก็จะพบว่าทำผลประกอบการได้ดีไม่ต่างจากเพื่อน ๆ (สำหรับไมโครซอฟท์เป็นไตรมาส 2 ของบริษัท) โดยไตรมาสนี้ไมโครซอฟท์ทำรายได้ 517,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ทะลุ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก) และกำไรของไตรมาสก็ยังเหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ด้วย โดยผลิตภัณฑ์สร้างรายได้นั้น หลัก ๆ ยังเป็นกลุ่มของคลาวด์ เกม และวินโดวส์ (รายได้ของ Azure เพิ่มขึ้น 46%) และปัจจุบันครองตำแหน่งอันดับสองในตลาด เป็นรองเพียงแค่คลาวด์จาก AWS เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในบรรดาบริษัทเทคโนโลยีที่เปิดผลประกอบการออกมากันนี้ บางบริษัทก็เริ่มสะท้อนภาพอนาคตว่าอาจมีความไม่แน่นอนรออยู่แล้วเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เทสล่าที่บอกว่าจะไม่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปี 2022 เนื่องจากปัญหาเรื่องชิ้นส่วน – ชิปที่ยังคงขาดแคลน โดยเป้าหมายของเทสล่าในปีนี้คือเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตของโรงงานที่มีอยู่ให้มากขึ้น