2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเผชิญหน้ากับการล็อกดาวน์ การปิดร้านอาหารและสถานบันเทิง ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าในช่องทาง On-Premise ซึ่งกินส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้สินค้าในกลุ่มนี้ที่เดิมเคยมีมูลค่าตลาดกว่า 2 แสนล้านบาทต้องติดลบ อย่างไรก็ตาม นี่คือ “โอกาส” ของแบรนด์ “เชียร์ส” (CHEERS) ที่ขอส่งสินค้าใหม่ช่วงปลายปีเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ตอนนี้ต้องการ “ความรื่นรมย์” ที่มาพร้อมกับ “ความคุ้มค่า” เสียเงินดื่มทั้งทีต้องมีสุนทรียะ
“ไวเซ่น” ทางเลือกที่หอมหวน ของตลาดเบียร์
แบรนด์เชียร์ส (CHEERS) เป็น 1 ในเครื่องดื่มของค่าย TAP ที่มีพี่ใหญ่อย่าง “ไฮเนเก้น” (Heineken) ครองมาร์เก็ตแชร์ในตลาดเบียร์ระดับพรีเมี่ยมมากกว่า 90% ทำให้แบรนด์เชียร์ส เป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยผู้ที่มากประสบการณ์ในตลาดนี้มาอย่างยาวนาน ทำให้มีความหยืดหยุ่นในการปรับสูตรสินค้า หรือการใช้กลยุทธ์มาร์เก็ตติ้งที่ครองใจผู้บริโภคได้ดีที่สุด
ด้วยเหตุผลนี้เองในตลาดเบียร์ที่ผู้บริโภคเคยชินกับเครื่องดื่มประเภท “ลาเกอร์” (Lager) มาอย่างยาวนาน ประกอบกับมีกระแสของผู้บริโภคที่ได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ ของเครื่องดื่มที่ใช้วิธีการ หมัก และเลือกใช้วัตถุดิบที่แตกต่างออกไป ทำให้ตลาดเบียร์คึกคักมากขึ้นด้วยเครื่องดื่มประเภท “ไวเซ่น” (Weizen) CHEERS จึงเลือกส่ง Siam Weizen ภายใต้ซับแบรนด์ CHEERS Selection ลงสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2019 และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีในตลาด
และนั่นทำให้ CHEERS Selection ปรับรูปแบบกระป๋องไวเซ่นตัวเดิมเพื่อเพิ่มสีสัน และต่อยอดโดยการเพิ่มอีก 1 รสชาติใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกในตลาดให้กับผู้บริโภค
CHEERS Selection ต่อยอด “เบียร์หน้ายักษ์” เน้นความเป็นไทย
ก่อนหน้านี้ปั้น “เบียร์หน้ายักษ์” ซึ่งตั้งใจเล่นพ้องเสียงกับคำว่า “เบียร์น่ายัก” บ่งบอกว่า แบรนด์กำลังเล่นกับกระแสโซเชี่ยลมีเดีย ที่จำเป็นกับการทำตลาดในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดนี้ที่ต้องการให้ผู้บริโภค “จดจำง่าย” และ “บอกต่อ” ด้วยตัวเอง
นั่นทำให้สินค้าใหม่ของ CHEERS Selection ในปีนี้ ยังคงมี “หน้ายักษ์” บนกระป๋อง โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการจับมือกับแบรนด์แฟชั่นอย่าง ISSUE ซึ่งทำให้ DNA ของแบรนด์ทั้งสองผสานกัน เพื่อสะท้อนความเป็นไทย ผ่านศิลปะร่วมสมัย เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่าย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้านี้ ที่มีความพิเศษตรงที่ในตลาดผู้บริโภคจะเรียกชื่อสินค้าแบบง่ายๆ ดังนั้น การสร้างอัตลักษณ์จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งสินค้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ Emotion ของผู้บริโภค เพราะการถือสินค้าก็สามารถบ่งบอกถึงรสนิยมและภาพลักษณ์ของผู้บริโภคนั่นเอง
ในด้านรสชาติ Siam Weizen ตัวสินค้าหลัก ชูจุดเด่นด้วยการผสาน Wheat, Malt และ Hops ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของเบียร์ไวเซ่น ขณะเดียวกันก็ผสม “มะนาว” ของไทยเข้าไป จนได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของ CHEERS Selection เอง และรสชาติใหม่ Siam Weizen Sweet Passion Fruit หรือ เบียร์เสาวรส เป็นการเพิ่มรสชาติของเสาวรสเข้าไปเพื่อให้ได้รสชาติที่หวาน หอม และกินง่าย แต่ก็ยังคงหน้ายักษ์ไว้บนกระป๋อง เรียกได้ว่าเป็นภาพจำไปแล้วว่าเบียร์ CHEERS Selection ต้องมีหน้ายักษ์อยู่บนกระป๋อง ทำให้ทั้งสองรสชาตินี้มีความแตกต่างจากตลาดเบียร์แบบเดิม ถือว่าเป็น New Normal ในตลาดเบียร์ไทยเลยก็ว่าได้
เครื่องดื่มของ CHEERS Selection Siam Weizen ตัวนี้ มีแอลกอฮอล์เพียง 4% ซึ่งตรงกับเทรนด์ผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่หันมาสนใจในสุขภาพ และตอบโจทย์ด้วยการปรับสูตรให้มีแคลลอรี่เพียง 35 kcal เท่านั้นเอง โดยบรรจุในกระป๋องขนาด 490 มิลลิลิตร ซึ่งผู้บริโภครู้สึกว่าคุ้มค่ากับราคา 57 บาท
เมื่อสินค้าตรงตามเทรนด์ของผู้บริโภค รวมทั้งแพคเกจจิ้งมีสีสันที่แตกต่างจากเดิม ความท้าทายในลำดับต่อไปของแบรนด์ ” CHEERS Selection ” ก็คือการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยตอนนี้สินค้าสามารถหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เช่น 7-11, Family Mart, Lotus’s, Big C, Tops, The Mall, Villa Market และ ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ แต่การเข้าถึงร้านอาหารเพื่อเพิ่มประสบการณ์การดื่มให้ดียิ่งขึ้น ยังคงเป็นโจทย์ใหญ่ของแบรนด์ไทยแบรนด์นี้ต่อไป
#เชียร์สยักษ์ #ใครเห็นก็ยักษ์ #พักยกมาพกยักษ์