“ป้อม – ภาวุธ” เผยภาพรวม Pay Solutions บริการระบบชำระเงินออนไลน์สัญชาติไทยในช่วง Covid-19 พบเติบโตกว่า 40% หรือคิดเป็น 1,650 ล้านบาท เหตุเพราะธุรกิจปรับตัวสู่ออนไลน์มากขึ้น พร้อมเผยแนวโน้มการใช้ Crypto Payment เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ
คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยถึงการเติบโตกว่า 40% นี้ว่า เป็นรายได้ที่มาจากร้านค้าในระบบทั้งที่เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้า SMEs
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดและระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน หลายธุรกิจต้องปรับตัวเข้าสู่รูปแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารออนไลน์ หรือการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ช่องทางการชำระเงิน ที่ต้องพัฒนารูปแบบให้มีความหลากหลายเหมาะกับลูกค้า”
ทั้งนี้ จากข้อมูลการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารแห่งประเทศไทย จะเห็นได้ว่าในปี 2562 – 2564 การชำระเงินผ่านพร้อมเพย์มีการเติบโตมากถึง 219% โมบายล์แบงกิ้ง 157% และจากฐานข้อมูลของเพย์ โซลูชั่น พฤติกรรมการจับจ่ายของคนในโลกออนไลน์ในช่วงโควิด มีการชะลอการจ่ายเงินสด และหันมาจ่ายในรูปแบบผ่อนชำระ มากขึ้นถึง 84 %
ถึงเวลา Crypto Payment
ในส่วนของการชำระเงินด้วยคริปโตนั้น คุณภาวุธเผยว่า ในฐานะที่เป็นผู้นำและเป็น “ผู้ให้บริการรายแรก” ของไทยที่เปิดให้บริการรับชำระเงินคริปโต “Crypto Payment” ให้กับธุรกิจต่างๆ ทางบริษัทได้เปิดทดสอบการให้บริการ โดยร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้สามารถรองรับการชำระได้มากกว่า 350 สกุลเงิน
อย่างไรก็ตาม การจ่ายค่าสินค้าหรือบริการด้วยคริปโตผ่าน Pay Solutions ระบบจะทำการเปลี่ยนคริปโตเป็นเงินบาททันทีเพื่อลดความผันผวน และโอนเงินบาทให้กับร้านค้า โดยผู้จ่ายสามารถจ่ายผ่านระบบกระเป๋าคริปโตเมตามาสก์ (Metamask) ผ่านระบบเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ของ Binance Smart Chain (BSC)
ทั้งนี้ Crypto Payment ยังอยู่ในช่วงทดลองให้บริการ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่มีนโยบายสนับสนุนให้นำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ ดังนั้นจึงเปิดทดสอบให้กับร้านค้าและธุรกิจในวงจำกัด และมีเกณฑ์การตรวจสอบตามนโยบายรู้จักร้านค้า (Know Your Merchant: KYM) เพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างรัดกุม
คุณภาวุธเผยด้วยว่า ในปีนี้ จะมีอีกหนึ่งบริการชำระเงินออนไลน์รูปแบบใหม่ที่จะเปิดตัวให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ ซึ่งได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรสถาบันการเงินชั้นนำ และเครือข่ายชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก มีจุดเด่นอยู่ที่การเพิ่มสภาพคล่องของกระแสเงินสดให้บริษัทด้วยศักยภาพของบัตรเครดิต ตั้งเป้าพัฒนาบริการเพื่อสนับสนุนธุรกิจของไทยและสร้างนวัตกรรมใหม่ของบริการชำระเงินออนไลน์
ในอนาคต Pay Solutions จะมีการพัฒนาบริการระบบการชำระเงินออนไลน์ใหม่ๆ โดยเน้นเชื่อมโยงทุกบริการด้านดิจิทัลที่มีอยู่ประมาณ 40 บริษัทมาบูรณาการ พร้อมผลักดันเข้าสู่อุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการใช้งานจริง และเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในแต่ละภาคส่วนต่างๆ โดยพัฒนาต่อยอดจากฟีเจอร์เดิมที่ให้บริการอยู่แล้ว อาทิ ระบบจดจำบัตรเครดิต (Tokenizer), API ระบบตัดบัตรอัตโนมัติ (Recurring), Secure payment link, E-Tax invoice, e-Wallet และ Reseller module รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบจัดการ Back-office System, E-Tax invoice report, Fraud monitoring system, System on cloud service เชื่อมต่อ E-Commerce ให้ครอบคลุมตั้งแต่เว็บไซต์ ระบบจัดการร้านค้า ระบบรับชำระเงิน ระบบคลังสินค้า ระบบโลจิสติกส์ Big Data โฆษณาดิจิทัล และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบเอกสาร ระบบบัญชี และระบบงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลตลอดจนการพัฒนาในส่วนของการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ในส่วนของแผนการตลาด เน้นการทำ Online Marketing ให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อนำเสนอบริการใหม่ ๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายลูกค้าองค์กร พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมกลุ่ม SME และธุรกิจออนไลน์ต่าง ๆ ไว้ ตั้งเป้าให้แบรนด์และบริการของ Pay Solutions เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยจะผนึกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อส่งมอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าต่อไป” คุณภาวุธกล่าวทิ้งท้าย