ข้อมูลจากสื่อเกาหลีใต้อย่าง Korea Times ระบุว่า ในแต่ละปี จะมีชาวเกาหลีใต้ราว 500 คนพยายามจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำฮัน ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ทอดยาวอยู่ใจกลางกรุงโซล
ความท้าทายของหน่วยงานภาครัฐที่พยายามรับมือกับปัญหาดังกล่าวก็คือ แม่น้ำฮันมีสะพานข้ามแม่น้ำเป็นจำนวนมาก (28 สะพาน) ซึ่งนั่นทำให้การรักษาชีวิตของคนที่จะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายทำได้ยากมากขึ้นด้วย เพราะถึงแม้ว่าทางการจะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อมอนิเตอร์คนที่มีโอกาสจะมาฆ่าตัวตาย แต่ก็มีกล้องมากถึง 572 ตัวที่ต้องคอยตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานอย่าง Seoul Metropolitan Fire and Disaster กับสถาบันเทคโนโลยีโซล นำ AI เข้ามาเป็นตัวช่วยรักษาชีวิตของชาวเมือง ซึ่งมีหน้าที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 500 ตัวที่กล่าวมา และหากพบว่า บุคคลในภาพมีพฤติกรรม หรือท่าทางคล้ายกับต้องการฆ่าตัวตาย เช่น ยืนเกาะราวสะพานอยู่นาน มันจะแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงทีก่อนที่คนเหล่านั้นจะคิดสั้นขึ้นมาจริง ๆ
เหตุที่ต้องใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบระบุว่า จำนวนกล้องที่ติดตั้งมีมาก การใช้เจ้าหน้าที่มอนิเตอร์อาจทำได้ไม่ทั่วถึง และอาจทำให้ช่วยชีวิตคนไม่ทันนั่นเอง นอกจากนี้ ทางหน่วยงานอย่าง Seoul Metropolitan Fire and Disaster Headquarter บอกด้วยว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยคนเหล่านั้นได้ และพวกเขาตกลงไปในแม่น้ำแล้ว โอกาสรอดชีวิตอาจลดลงต่ำกว่า 50% เลยทีเดียว
ก่อนหน้าที่จะมีการนำ AI เข้ามาช่วยจับภาพคนที่คิดฆ่าตัวตายนั้น ทางรัฐบาลกรุงโซลได้เคยหาทางป้องกันมาแล้วหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเซนเซอร์ที่ราวสะพาน (เพราะคนที่คิดฆ่าตัวตายจะมีการกำราวสะพานแน่นกว่าคนปกติ) หรือการติดตั้งรั้วนิรภัยขนาด 8 ฟุตพร้อมราวกันตกเพื่อให้ผู้คนกระโดดออกมาได้ยากขึ้น
ทั้งนี้ ตัวเลขในปี 2020 ระบุว่า ประเทศเกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยในปีดังกล่าว เกาหลีใต้มีผู้เสียชีวิต 25.7 คนต่อประชากร 100,000 คน และการฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในหมู่คนหนุ่มสาวเลยทีเดียว