สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (6 ม.ค.2565) มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 5,775 ราย เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังปีใหม่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวในวันนี้ ยกระดับการเตือนภัยโควิดจากระดับ 3 เป็นระดับ 4
สำหรับมาตรการเตือนภัยระดับ 4 จะพิจารณาปิดสถานที่เสี่ยงที่นำไปสู่การแพร่ระบาดโควิด รวมทั้งจะมีการเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ชะลอการเดินทาง กำหนดให้ work from home รวมทั้งชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เพราะการเคลื่อนย้ายของบุคคลทำให้มีการแพร่เชื้อได้ มีมาตรการเคร่งครัดในการรวมกลุ่ม
โดยขอความร่วมมือประชาชนและสถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ VUCA อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้เข้ารับการฉีดวัคซีนตามกำหนด สถานประกอบการมีระบบ COVID-19 Free Settings และตรวจ ATK สม่ำเสมอ
มาตรการเตือนภัยโควิด-19 ที่สาธารณสุขกำหนดไว้มี 5 ระดับ สำหรับระดับ 4 รายละเอียดดังนี้
1. ไปสถานที่เสี่ยง : งดเข้าสถานที่เสี่ยง งดทานอาหารร่วม-ดื่มสุราในร้าน
2. ร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก : เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน งดร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. การเดินทางข้ามพื้นที่/ข้ามจังหวัด : ให้ WFH 50-80% ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด
4. การเดินทางเข้า-ออกประเทศ : เลี่ยงไปต่างประเทศ เข้าประเทศให้กักตัวในระบบ AQ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สรุป 3 ปัจจัยที่พบว่าเป็นสถานที่เสี่ยง คือ 1.สิ่งแวดล้อมของสถานที่ โดยเฉพาะระบบระบายอากาศ หากไม่ดีถือว่าเป็นความเสี่ยง 2.การรวมตัวจำนวนมาก (พื้นที่เหมาะสม 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน หรือเว้นระยะห่าง 1-2 เมตรต่อคน) สถานที่แออัดถือว่าเสี่ยง เช่น คอนเสิร์ต 3. กิจกรรมไม่ใส่หน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร-ดื่มสุราร่วมกัน ร้องเพลง ตะโกนเชียร์ต่างๆ
ปัจจุบันโรงเรียนยังไม่เป็นสถานที่เสี่ยงเพราะมีมาตรการดูแลได้ดี และมีการตรวจคัดกรองบุคลากรทางการศึกษาเป็นระยะ
การเตือนภัยโควิดระดับ 4 ประชาชนยังใช้ชีวิตได้ปกติ แต่อยู่ในความระมัดระวัง งดกิจกรรมและการเดินทางไม่จำเป็น โดยสามารถเดินทางไปประทำงานได้ แต่หากไปในสถานที่เสี่ยงให้ตรวจ ATK ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่ต้องรวมพลังกันต่อสู้กับโรคโควิด
อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ 7 มกราคม 2565 ศบค.ชุดใหญ่ จะมีการประชุมกำหนดมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด มีวาระสำคัญดังนี้
1. มาตรการปรับสีพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตามสถานการณ์ โดยจะเป็นการจำกัดจำนวนคน การรวมกลุ่มกิจกรรม และการดื่มสุราในร้านอาหาร เป็นต้น
2. การปรับมาตรการควบคุมโรค เช่น การเปิดสถานบันเทิง เนื่องจากหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ พบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ จำนวนมาก
3. การปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศแบบ Test&Go