แม้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิดยังคงมีอยู่ แต่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม ดีมานด์ลูกค้าเริ่มเป็นบวก “เอพี ไทยแลนด์” ประเดิมครึ่งปีแรกเปิดตัวคอนโดแบรนด์ ASPIRE โฉมใหม่ เจาะกลุ่มคนเมือง Young Gen ปักธง 3 ทำเลซิตี้โซน
คุณกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่าปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เป็นการเปิดตัวในครึ่งปีแรก 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท โดยเป็นการกลับมาของแบรนด์ ASPIRE โฉมใหม่
ASPIRE ถือเป็นโปรดักต์ไฮไลต์ของปี ที่เอพีเซ็ตมาตรฐานการพัฒนาใหม่ทั้งหมด จากการศึกษาและถอดรหัสอินไซต์การใช้ชีวิตของกลุ่ม Young Generation ลูกค้าเป้าหมาย ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หลังพบว่าตลาดคอนโดเริ่มฟื้นตัวกลับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าเรียลดีมานด์ในประเทศที่ซื้อเพื่ออยู่จริงยังคงมีอยู่
สะท้อนได้จากการตอบรับที่ดีจากยอดขายสินค้าคอนโดเอพีล่าสุดกว่า 1,080 ล้านบาท (ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565) แม้ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ หรือเติบโตกว่า 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยแผนเปิดตัวคอนโด ASPIRE โฉมใหม่ในปีนี้ จะเป็นโครงการที่สร้างความแตกต่างและเป็นตัวเลือกอันดับแรกของลูกค้ารุ่นใหม่ ที่มองหาคอนโดใหม่บนทำเล “ซิตี้โซน” ในราคาจับต้องได้ เริ่มที่ 1.99 ล้านบาท
“เอพีวางแบรนด์โพสิชันนิ่ง ASPIRE ใหม่ ภายใต้จุดยืน LIVE AS YOU ASPIRE อิสระในทุกมิติของชีวิต ตั้งเป้าการพัฒนาให้ ASPIRE คือคอนโดในกลุ่มแมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุด”
ชู 3 จุดขายเจาะกลุ่มเป้าหมายรายทำเล
คอนโด ASPIRE ได้ปรับรูปแบบการดีไซน์สเปซฟังก์ชั่นใหม่ ไม่เป็นเพียงเป็นที่อยู่อาศัย แต่ใส่มิติการพักผ่อน การใช้ชีวิตส่วนตัว และการทำงาน ที่แตกต่างกันของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเล ด้วย 3 จุดขายใหม่
1. Modular Layout พื้นที่ชีวิตที่ดีที่สุด ครั้งแรกกับการนำเสนอผังยูนิตดีไซน์ใหม่ทั้งหมดกว่า 40 รูปแบบ เน้นความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้พื้นที่ที่เป็นสัดส่วน และรู้สึกคล่องตัวมากขึ้น ตอบอินไซต์การใช้ชีวิตแบบไฮบริดของลูกค้า
2. The Best of ‘ME’ Space พื้นที่ส่วนกลางด้วยฟังก์ชั่นตอบอินไซต์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้งานของดีมานด์จริงในแต่ละแปลงที่ดิน สำหรับการพักผ่อนแบบแอคทีฟพร้อมบาลานซ์ความเป็นส่วนตัวไปด้วยกัน
3. Entry – Level Price บริหารแพ็คเกจราคาให้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด
เปิด 3 ทำเลซิตี้โซน มูลค่า 6,800 ล้าน
การเปิดตัวคอนโด ASPIRE โฉมใหม่ครึ่งปีแรก 3 ทำเลซิตี้โซน มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท ถือเป็นทำเลที่มีลูกค้าเรียลดีมานด์ ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการปล่อยเช่า เป็นทำเลแหล่งทำงานและไลฟ์สไตล์เมือง ดังนี้
– ASPIRE ปิ่นเกล้า – อรุณอมรินทร์ โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-2-79.2 ไร่ สูง 5 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 395 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ใกล้โรงพยาบาลศิริราช รถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ และท่าเรือ ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท (เริ่มต้น 94,000 บาท/ ตร.ม.) เปิดจองรอบพิเศษ 19 – 20 มีนาคม 2565
– ASPIRE รัชโยธิน โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 5-0-35.7 ไร่ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 633 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เพียง 350 เมตรจากสถานี BTS รัชโยธิน ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท (เริ่มต้น 79,600 บาท/ ตร.ม.) เปิดจองเดือนพฤษภาคม 2565
– ASPIRE สุขุมวิท – พระราม 4 (คอนโดมิเนียมร่วมทุนฯ) โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-3-55.8 ไร่ สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,323 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้สถานี BTS พระโขนง ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท (เริ่มต้น 99,000 บาท/ ตร.ม.) เปิดจองรอบพิเศษในเดือนมิถุนายน 2565
ปัจจัยเลือก 3 ทำเลปักธง ASPIRE โฉมใหม่
จากการสำรวจภาพรวมตลาดคอนโดที่เปิดตัวย้อนหลัง 5 ปี (2560 – 2564) พบว่าตลาดคอนโดโซนอรุณอมรินทร์ ทำเลศูนย์กลาง Medical & Education Hub แถวหน้าของประเทศ เป็นหนึ่งใน rare location ทำเลหายาก เนื่องจากที่ดินติดถนนอรุณอมรินทร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับการพัฒนาคอนโดมีจำกัด
โครงการ ASPIRE ปิ่นเกล้า – อรุณอมรินทร์ จะเป็นโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวบนช่วงถนนเส้นดังกล่าว ซึ่งในโซนนี้ยอดขายคอนโดสูงถึง 75% จากทั้งหมด 11 โครงการที่เปิดขายในแนวโครงข่าย MRT สถานีบางยี่ขัน – บางขุนนนท์ – แยกไฟฉาย และยังเป็นโอกาสของตลาดปล่อยเช่าในลูกค้ากลุ่มนักศึกษา-บุคลากรทางการแพทย์ โดยอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดอยู่ที่ 8,000 – 15,000 บาทต่อเดือน ด้วยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ถึง 4.5 – 5%
ส่วนคอนโดรัศมี 1.5 กิโลเมตรจาก BTS รัชโยธิน หนึ่งในทำเลระดับท็อปของเรียลดีมานด์ที่รองรับนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ จากปัจจัยรายล้อมด้วยสถานที่ทำงานขนาดใหญ่และมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต) เปิดทำการ ทำให้การเดินทางเข้า – ออกใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ย่านรัชโยธินเป็นทำเลศักยภาพในการลงทุนทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและปล่อยเช่าในอนาคต
จากการสำรวจซัพพลายย่านรัชโยธินพบ 15 โครงการ จำนวน 9,024 ยูนิต มียอดขายแล้วกว่า 87% ในขณะที่ 3 ปีที่ผ่านมาการเปิดโครงการใหม่ลดลงต่อเนื่อง และสินค้าคงเหลือขายปัจจุบัน พบราคาขายเฉลี่ย 125,000 – 150,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งไม่สอดรับกับสิ่งที่ลูกค้ามองหา โดยอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) ในย่านนี้ที่มีอัตราที่ดีเช่นกันที่ประมาณ 5% ภาพรวมอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 9,000 – 20,000 บาทต่อเดือน
ตลาดคอนโดโซนพระราม 4 – สุขุมวิท ในรัศมี 1.5 กิโลเมตรจาก BTS พระโขนง ทำเลใจกลางย่านสุขุมวิทศูนย์รวมย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ พบยอดขายรวมที่เกิดขึ้น 76% จากทั้งสิ้น 21 โครงการ และหากพิจารณาภาพรวมอัตราการปล่อยเช่าปีล่าสุดที่ 9,500 – 20,000 บาทต่อเดือน ด้วยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ถึง 5% ทำให้ภาพรวมตลาดของคอนโดในทำเลนี้ เป็นที่สนใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ปี 65 ตั้งเป้ายอดขายคอนโด 1.2 หมื่นล้าน
ปีนี้ “เอพี” มีแผนเปิดตัวคอนโด 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 65% ตั้งเป้ายอดขายคอนโดทั้งปีที่ 12,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้กลุ่มสินค้าคอนโดรวม (100% JV) ที่ 12,300 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกเตรียมเปิดตัวคอนโดใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท
ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 มีสินค้าคอนโดอยู่ระหว่างการขายจำนวน 15 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 27,530 ล้านบาท และมีสินค้าคอนโดรอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 18,300 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี มูลค่า 1,500 ล้านบาท และเป็นโครงการร่วมทุน มูลค่า 16,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายในปีนี้ มูลค่า 9,790 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2567 เตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 คอนโดใหม่ ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม LIFE สาทร เซียร์รา และ RHYTHM เอกมัย เอสเตท มูลค่ารวม 12,800 ล้านบาท
ในปี 2564 เอพี ไทยแลนด์ ขึ้นแท่นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดที่อยู่อาศัย ด้วยสถิติการเติบโตทางด้านรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโด (100% JV) มากถึง 40,015 ล้านบาท และด้านกำไรสุทธิปี 2564 สูงถึง 4,543 ล้านบาท เติบโตกว่า 7.5%
ความท้าทายของตลาดคอนโดในปีนี้ ยังคงต้องปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เอพีจับสัญญาณตลาดเรียลดีมานด์ในลูกค้าเซกเมนต์กลางถึงกลางล่าง ที่มองหาคอนโดใหม่ในทำเลซิตี้โซนได้ทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และหลายดีเวลลอปเปอร์ต่างกระโดดลงมาแข่งขันในตลาดดังกล่าว ผู้ประกอบการที่สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เลือกแปลงที่ดินที่ใช่ พัฒนาโครงการได้ตอบโจทย์สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ในแพ็คเกจราคาที่ลูกค้ามองหา จะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าสินค้าทั่วไปในตลาด