หลังจากเมื่อปี 2560 “เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น” (Central Retail Corporation : CRC) ประกาศทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ ไปสู่การเป็น Omnichannel เพราะเล็งเห็นว่าต่อไปธุรกิจค้าปลีก จะยืนอยู่บน Physical Platform อย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องผสานระหว่าง Physical และ Digital Platform เข้าด้วยกัน โดยมี “เทคโนโลยี” และ “Data” เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าได้แบบ Hyper-personalization
ถึงวันนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว “เซ็นทรัล รีเทล” ได้ประกาศความสำเร็จของการทรานส์ฟอร์มองค์กร และกลุ่มธุรกิจในเครือ พร้อมทั้งเปิดแผน 5 ปีข้างหน้าจากนี้ (2565 – 2569) ภายใต้ยุทธศาสตร์ “CRC Retailligence” (Retailligence มาจาก Retail + Intelligence) โดยเตรียมงบลงทุนสูงถึง 100,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้มากถึง 30,000 ล้านบาทเป็นงบการพัฒนาเทคโนโลยี และอีก 75,000 บาทเป็นงบสำหรับพัฒนา Physical Platform ทั้งการขยายสาขาใหม่ และปรับปรุงสาขาเดิมของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือ
มาตามดูกันว่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มทรานส์ฟอร์มองค์กร ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง พร้อมทั้ง 5 เทรนด์ที่ Reshape ธุรกิจค้าปลีก และยุทธศาสตร์ “CRC Retailligence” ที่เป็นหัวใจหลักใน 5 ปีต่อจากนี้ ?!?
สำรวจสถิติวัดความสำเร็จ “เซ็นทรัล รีเทล” ทรานส์ฟอร์มธุรกิจ
ข้อมูลสถิติของ Omnichannel เซ็นทรัลรีเทล ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาคือ
1. ฐานลูกค้าที่เป็น Omni-customer โต 500% โดยปัจจุบันอยู่ที่กว่า 3 ล้านคน จากฐานลูกค้า The 1 จำนวน 18 ล้านคน
2. ลูกค้า Omni-customer มีการใช้จ่ายมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับลูกค้าที่ซื้อจากช่องทางเดียว (Single Channel)
3. จำนวนกลุ่มสินค้าที่ลูกค้า Omni-customer ซื้อ มีมากกว่า 2 กลุ่มสินค้า
4. ยอดขาย Omnichannel ในปี 2564 โต 20% นั่นหมายความว่าทุกๆ การใช้จ่ายที่เข้ามายังกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล จะมี 20% มาจาก Omnichannel และถ้านับตั้งแต่ปี 2560 ยอดขายจาก Omnichannel โต 7
5. ตั้งเป้าภายใน 5 ปีข้างหน้า เซ็นทรัล รีเทลต้องการเปลี่ยนลูกค้าจาก Single Channel เป็น Omnichannel ให้ได้ 50%
นอกจากทำโมเดล Omnichannel แล้ว ขณะเดียวกัน “เซ็นทรัล รีเทล” ยังคงเดินหน้าขยายส่วน Physical Platform หรือ Physical Store ของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือ
1. เซ็นทรัลรีเทล มีพื้นที่รวมทั้งหมด 3.3 ล้านตารางเมตร
2. ในจำนวนกว่า 3.3 ล้านตารางเมตร เป็นพื้นที่ให้เช่า 660,000 ตารางเมตร
3. จำนวนมอลล์ ทั้งในไทย และเวียดนาม 69 มอลล์
ปัจจุบัน Business Portfolio ธุรกิจ ปัจจุบันแบ่งเป็น 4 เสาหลักคือ Food, Fashion, Hardline และ Property ทั้งโรบินสันไลฟ์สไตล์ และไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! ในเวียดนาม
“ณ วันนั้นเราบอกว่า Physical Platform ไม่มีวันตาย และออนไลน์จะไม่ฆ่าออฟไลน์ แต่ออนไลน์ กับออฟไลน์จะผสานซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นเรามีจุดยืนว่าเราต้องขยายความแข็งแกร่งของเรา” คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เล่าถึงทิศทางค้าปลีก
5 เทรนด์ พลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก
ผู้บริหาร CRC ฉายภาพว่า โลกจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ใน 5 เทรนด์สำคัญ ที่เราทุกคนต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัว เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
1. A New Consumer Paradigm : พฤติกรรมของผู้บริโภคจะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว
2. Scaling in the Era of Digital Acceleration :โลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง
3. The Future of Wellness : ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตได้ครบวงจร
4. Partnership for Inclusive Growth : การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ จะมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน
5. Sustainability Agenda for All : การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องสำคัญของทุกคนและทุกภาคส่วน
กางยุทธศาสตร์ “CRC Retailligence” – สร้าง “Data Ecosystem” และเตรียมลุยธุรกิจ “Health & Wellness”
แผนยุทธศาสตร์ 5 ปีจากนี้ (2565 – 2569) ของเซ็นทรัล รีเทล ขับเคลื่อนผ่านแนวคิด “CRC Retailligence” (Retail + Intelligence) ผวนกกับการสร้าง “Data Ecosystem” เพื่อให้ทั้งเทคโนโลยี และ Data หลอมรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของการเป็น “Next-Gen Omni Retail”
การสร้าง “Data Ecosystem” ของเซ็นทรัล รีเทล ประกอบด้วยกัน 3 ส่วนคือ
1. Data เซ็นทรัล รีเทล
2. Data กลุ่มเซ็นทรัล
3. Data พันธมิตรธุรกิจ เช่น โมบายล์ แบงก์กิ้ง และฟินเทค, โลจิสติกส์, ผู้ให้บริการโอปอเรเตอร์, แพลตฟอร์ม Loyalty Program
Data Ecosystem เหล่านี้ จะถูกนำมาใช้พัฒนา 4 ส่วนด้วยกันคือ
– Smart Retail : ธุรกิจค้าปลีกในวันนี้ และอนาคตต้องใช้ Data-driven ในการขับเคลื่อนธุรกิจ
– Experience Driven : เชื่อมต่อทุกช่องทางการให้บริการอย่างไร้รอยต่อ
– Agile Commerce : ปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
– Multi-moment : สร้าง Engagement กับลูกค้าได้อย่าง Real-time และเข้าถึงแต่ละบุคคล (Personalization)
“ทุกคนชอบพูดว่า Data is a new oil แต่ผมมองว่า Data คือ Investment อันหนึ่ง เพราะฉะนั้นการสร้าง Data Ecosystem ที่เชื่อมโยงกับทุกส่วนมาเป็นหนึ่งเดียวกัน สำหรับใช้ในการขับเคลื่อน CRC ให้กลายเป็น Super Intelligence”
ดังนั้นภายใต้ยุทธศาสตร์ “CRC Retailligence” โฟกัสใน 4 ด้านหลักคือ
1. Reinvent Next-Gen Omni Retail
ยกระดับแพลตฟอร์ม Omnichannel ผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งกลุ่มธุรกิจ Food, Fashion, Hardline, Property รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
“ระบบแพลตฟอร์มที่เราสร้างขึ้นมาประมาณ 2 ปีเศษที่ผ่านมา มัน Out of date ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะทุ่มการลงทุน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมา คาดว่าในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะได้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของทั้งเซ็นทรัลแอปฯ ตามมาด้วยท็อปส์, เพาเวอร์บาย และซูเปอร์สปอร์ต และจะ Agile มากขึ้น เพื่อทำให้แพลตฟอร์ม และการทำงานปรับเปลี่ยนได้เร็ว เมื่อไรที่มีเทคโนโลยีเข้ามา ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เลย”
2. Accelerate Core Leadership
เร่งการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของ เซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล
3. Build New Growth Pillars
เดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม Wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค
“ที่ผ่านมาเรามี 4 กลุ่มธุรกิจคือ Food, Fashion, Hardline, Property ซึ่งต่อไปการพัฒนาศูนย์การค้าของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล จะมีศูนย์การค้ารูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกันเราต้องสร้าง New Growth Pillars โดยเสาธุรกิจที่ 5 ที่ CRC มองว่าจะสร้างการเติบโตใหม่ให้กับองค์กร คือ ธุรกิจ Health & Wellness”
4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off
ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่เป้าหมาย “เซ็นทรัล รีเทล” ตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2569 จะเติบโตในทุกมิติ
– ด้านรายได้เติบโต 2.5 เท่า
– EBITDA เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า
– Market Cap เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
– งบลงทุน 100,000 ล้านบาท
“งบลงทุนที่เตรียมไว้ 100,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 75% ใช้กับการขยายสาขา และปรับปรุงสาขา (Physical Platform) และอีก 20 – 25% ใช้กับการลงทุนเทคโนโลยี หรือราว 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 20,000 ล้านบาทอยู่ใน OPEX และ 10,000 ล้านบาทอยู่ใน CAPEX” คุณญนน์ สรุปทิ้งท้ายถึงการใช้งบลงทุนในช่วง 5 ปีจากนี้
คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC