แม้จะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่ภาพการลงทุนในปี 2564 ที่ผ่านมากลับให้ผลตอบแทนที่ดี สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และต้องยอมรับว่า การระบาดของโควิด-19 ยังไม่จบ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยโลกเข้าสู่ขาขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความผันผวน ไม่แน่นอนเช่นนี้ ภาพการลงทุนในปี 2565 จะเป็นอย่างไร และนักลงทุนควรจัดพอร์ตอย่างไร ลองมาฟังการวิเคราะห์จาก ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เพื่อรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้น
นโยบายการเงินของ Fed ไม่กระทบเศรษฐกิจ-ตลาดหุ้น แต่ “ผันผวน” สูงขึ้น
คุณเคน เพ็ง นักยุทธศาสตร์การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารซิตี้แบงก์ มองภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกปี 2565 อาจจะยังไม่สามารถกลับไปเท่าจุดก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่จะไม่เห็นการหยุดชะงักของระบบเศรษฐกิจ แม้ว่าทั่วโลกจะมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2565 จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 3.8% เนื่องจากหลายประเทศมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการชดเชยทางการเงินขนาดใหญ่จากผลกระทบของโควิด-19 ธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาแล้วกำลังลดทอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE (Quantitative Easing) รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายใน 2 ปีจากนี้
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทย คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ GDP อยู่ที่ระดับ 1% มาเป็น 3.6% โดยได้แรงหนุนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงการส่งออกที่เติบโต โดยประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยประมาณ 5 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 12.5% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2562 รวมถึงมาตรการ Test & Go ในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และมาตราการแซนด์บ็อกซ์เพิ่มเติมอีกหลายจังหวัด
เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนทิศนโยบายทางการเงินที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้น เพียงแต่เพิ่มความ “ผันผวน” สูงขึ้น และจากมูลค่าหุ้น (แวลูเอชั่น) ที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาก่อนเกิดการระบาดของโควิด ทำให้ คุณดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ยังมองมุมบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดย
แนะให้นักลงทุนคงโมเดลพอร์ตฟอลิโอและลงทุนได้ปกติ แต่ด้วยสภาพตลาดที่ผันผวน นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์ถี่ขึ้น และเน้นการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มอุตสาหกรรมหลากหลาย เพราะหากกระจุกตัวเกินไปหรือลงเฉพาะที่มากเกินไปจะทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นได้
แนะ 3 ธีมลงทุน รับมือความผันผวน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปี 2565 เพื่อสู้กับความผันผวนของตลาด ซิตี้แบงก์แนะ 3 ธีมหลัก ประกอบด้วย
1.Long term leader เปลี่ยนการลงทุนระยะยสั้นมาเป็นการลงลงทุนในกลุ่มผู้นำระยะยาวที่ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถดูได้จากอัตราการเติบโตของ ROE, Operate Margin และ Ebitda เป็นต้น ซึ่งจะพบว่ากลุ่มไอที เทคโนโลยี กลุ่มเฮลท์แคร์ และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีเทรนด์เติบโต แม้ว่าหุ้นเทคโนโลยีจะมีการปรับตัวบ้างในช่วงนี้
2.Beat the cash thief มองหาบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี หรือในกลุ่มตราสารหนี้ที่ไฮยีลด์ ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายบริษัทต้องมีการจัดการภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก โดยมองว่ากลุ่มตราสารหนี้ที่น่าจะให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าคือ ตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่เอเชีย ตราสารหนี้ไฮยีลด์ พันธบัตรสหรัฐอเมริกา
3.Unstoppable trends การลงทุนในกลุ่มพลังงานทางเลือกยังเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มการดูแลสุขภาพเพื่อช่วยให้ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น
ลูกค้ายังมั่นใจ บริการไม่สะดุด หลังควบรวม
ส่วนความคืบหน้าหลังจากธนาคารยูโอบี (UOB) เข้าซื้อกิจการพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของซิตี้กรุ๊ปใน 4 ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม มูลค่าราว 1.22 แสนล้านบาทในช่วงที่ผ่านมานั้น คุณดอน บอกว่า โดยภาพรวมลูกค้ายังมั่นใจและมีการทำธุรกรรมปกติ โดยเฉพาะในส่วนสายงานบริหารความมั่งคั่ง “ซิตี้โกลด์” หลังมีการประกาศชัดเจน ได้มีการทำงานกับทางกลุ่มยูโอบีอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พอร์ตการลงทุนของลูกค้าสะดุด ขณะที่ซิตี้ยังนำเสนอกองทุนใหม่ๆ กับลูกค้าต่อเนื่อง
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand