ข่าวลือเป็นจริง! หลังจากสัปดาห์ก่อนมีข่าวว่า “อาร์เอส” กำลังเดินหน้าเจรจาซื้อธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย วันนี้ (8 กุมภาพันธ์) ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) – อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ ยูไลฟ์ (Ulife) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Unilever Network ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์ ด้วยมูลค่า 880 ล้านบาท
อาร์เอส มองว่า การซื้อกิจการ จะสามารถนำมาต่อยอดโมเดล Entertainmerce และขยาย Ecosystem ของ อาร์เอส กรุ๊ป ทั้งในเรื่องของโปรดักท์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจคอมเมิร์ซ และสร้าง Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจ ขณะที่ยูไลฟ์ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจขายตรงมาอย่างยาวนานเมื่อผนวกกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของ อาร์เอส กรุ๊ป จะช่วยเพิ่มศักยภาพของ ยูไลฟ์ให้กลายเป็นธุรกิจขายตรงยุคใหม่ที่เติบโตอย่างแข็งแรงและก้าวกระโดด โดย อาร์เอส กรุ๊ปตั้งเป้าผลักดันให้ ยูไลฟ์ ขึ้นเป็นบริษัทขายตรงชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ภายในระยะเวลา 3 ปี สเต็ปแรกหลังโควิด ขอมีรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท
เสริมแกร่ง Ecosytem ธุรกิจ Entertainmerce ของ RS
เฮียฮ้อ- คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเข้าซื้อหรือลงทุนในธุรกิจหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโต (M&A) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งจะส่งผลให้ Ecosystem ของบริษัทฯ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน โดยการตัดสินใจเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ ยูไลฟ์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยให้คนไทยได้เป็นเจ้าของธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ นอกจากจะทำให้โมเดลธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส กรุ๊ป แข็งแกร่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้นในช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ แล้ว ยังตอกย้ำให้เห็นถึงพันธกิจของ อาร์เอส กรุ๊ป ที่ต้องการเติมเต็มชีวิตผู้คนด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งสร้างแพชชันเพื่อผลักดันให้คนไทยมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงอีกด้วย”
880 ล้านบาท RS ได้ อะไรมาบ้าง
การทุ่มงบประมาณ 880 ล้านบาทในครั้งนี้ของ RS เป็นการซื้อกิจการทั้งหมด นอกเหนือจากสินค้าแล้ว ยังได้ระบบ รวมทั้งพนักงานของ ยูไฟล์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
– 3 แบรนด์ระดับพรีเมียม ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ “Beyonde”, ผลิตภัณฑ์สุขภาพความงาม “Aviance” และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายในช่องปาก “I-Fresh” รวม 43 ผลิตภัณฑ์ 76 SKUs
– ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และร้านค้า
– ระบบบริหารจัดการ และ Software ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ
– ทีมผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์สูงในธุรกิจขายตรง พร้อมทั้งพนักงานทั้งหมด
– สมาชิก 150,000 ราย ของเครือข่าย ยูไลฟ์
RS หวังขึ้น Top 5 ภายใน 3 ปี – ขยายการใช้งาน Popcoin
คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ยังอธิบายเพิ่มเติม ถึงการซื้อกิจการ ด้วยบิ๊กดีลในครั้งนี้ ว่า
ธุรกิจขายตรง เป็นธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้ที่คาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยในระดับอย่างน้อย 6-7% ต่อปี จึงทำให้ ยูไลฟ์ มีโอกาสเติบโตอีกมาก ซึ่งหากมารวมกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของ อาร์เอส กรุ๊ป และธุรกิจในเครือ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเป็นจุดแข็งที่แตกต่างให้แก่การทำการตลาดและการขายสินค้าของ ยูไลฟ์ จึงนำไปสู่โอกาสทั้งในด้านการเพิ่มยอดขาย การสร้าง Business partner ปัจจุบันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และดึงดูด Business partner รายใหม่ๆ เข้ามา รวมถึงการมีไลน์สินค้าที่หลากหลายจะสนับสนุนให้ ยูไลฟ์ ยุคใหม่ มีความพร้อมในการแข่งขันและช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทและพาร์ทเนอร์ให้เติบโตอย่างแข็งแรง ที่สำคัญ ยูไลฟ์ สามารถนำ Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ของ อาร์เอส กรุ๊ป มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจในทุกมิติ ช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ ยูไลฟ์ สามารถนำข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมทางการตลาดได้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์และอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ ยูไลฟ์ มีความโดดเด่นและแตกต่างจากผู้เล่นทุกรายในอุตสาหกรรมเดียวกัน
โดย อาร์เอส กรุ๊ป คาดว่าจะเสริมให้รายได้ของ ยูไลฟ์ หลังสถานการณ์โควิด-19 เติบโตอยู่ในระดับทะลุ 1,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะผลักดันและสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อให้ ยูไลฟ์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567