ที่จริงแล้วเทรนด์ “Self-care” หรือ “การดูแลตัวเอง” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นตอนช่วง COVID-19 แต่มีแนวโน้มขยายตัวมาก่อนหน้านี้ จากการที่ผู้บริโภคต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฝุ่นควัน มลภาวะ อาหารการกินที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ และสุขอนามัย ตลอดจนสารเคมี หรือสารพิษมากมายที่รายล้อมอยู่ในชีวิตประจำวันของคนเราเต็มไปหมด หากแต่การมาของ COVID-19 เป็นตัวเร่ง หรือตัวกระตุ้นให้มนุษย์ให้ความสำคัญกับ “การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองมากขึ้น” (Immunity-boosting)
การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย หลักสำคัญเริ่มจาก “อาหารการกิน” เพราะการมีสุขภาพแข็งแรง 80% มาจากอาหารการกิน ซึ่งทุกวันนี้ผู้บริโภคมองหาอาหารและเครื่องดื่มจากธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งมากนัก, ไม่มีน้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย, ไม่มีไขมัน, ใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณต้านโรค และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันมีการพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มให้ตอบโจทย์ Consumer Insights ดังกล่าว อย่างแบรนด์ “คิวมินซี” (QminC) ได้นำสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลภูมิคุ้มกันร่างกาย มาพัฒนาเป็น “เครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมดื่ม” ในขวดแก้วรายแรกและหนึ่งเดียวในไทยที่ไม่ใส่สารกันบูด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคในการเสริมภูมิคุ้มกันและเลือกสิ่งที่ดีให้กับสุขภาพ
“คิวมินซี” Natural Functional Drink แบรนด์แรกของไทยที่ไม่ใส่สารกันบูดในรูปแบบขวดแก้วพร้อมดื่ม
จุดเริ่มต้นของ “คิวมินซี” (QminC) มาจาก “คุณฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ ประธานกรรมการ บริษัท เทรา ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด” ให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่ไม่ใส่สารกันบูด และเน้นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติอยู่แล้ว ประกอบกับเล็งเห็นว่าไลฟ์สไตล์ของผู้คนทุกวันนี้ ต้องเจอ Pain Point ในการใช้ชีวิตมากมาย อันก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ ทั้งมลภาวะ สารพิษ หรือสารเคมี และสารกันบูดที่อยู่ในอาหารและเครื่องดื่มที่เรารับประทาน
คุณฐานธิษณ์ จึงอยากนำเอาประสบการณ์ที่ได้จากการเดินทางท่องเที่ยวในหลายประเทศ แล้วเห็นวัฒนธรรมและเทรนด์การบริโภคในประเทศต่างๆ ผนวกกับ Passion ส่วนตัวที่อยากทำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีคุณประโยชน์ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ดื่มง่ายในทุกวัน สะดวก และปลอดภัย จึงพัฒนาเป็น “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ” ภายใต้แบรนด์ “คิวมินซี” (QminC) เปิดตัวในปี 2563 สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวของตลาด “Natural Functional Drink” หนึ่งในนั้นคือ “ตลาดเครื่องดื่มสมุนไพร” ที่กำลังเป็น Mega Trend ทั่วโลก
เห็นได้จากมูลค่าตลาดเครื่องดื่มสมุนไพรทั่วโลกในปี 2020 อยู่ที่ 156,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าภายในปี 2028 จะเพิ่มขึ้นเป็น 245,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตโดยเฉลี่ย 5.1% ต่อปีจากปี 2021 – 2028 (ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Vantage Market Research : www.vantagemarketresearch.com/industry-report/herbal-beverages-market-0244)
สำหรับที่มาของชื่อ “คิวมินซี” (QminC) ทุกตัวอักษรล้วนมีความหมายสื่อถึง Commitment ของแบรนด์ที่มีต่อผู้บริโภค โดยย่อมาจาก
Q = Quality เครื่องดื่มที่ได้คุณภาพ
M = Mind ความใส่ใจผู้บริโภค
I = Innovation นวัตกรรมล้ำสมัย
N = Natural วัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติ
C = Caring for Consumer ความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภค
คิวมินซี พัฒนารูปแบบขวดแก้วพร้อมดื่ม (Ready to Drink Shot) จึงตอบโจทย์ทั้งความเข้มข้นของคุณประโยชน์ที่จะได้รับ รสชาติดื่มง่าย ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย และสะดวก พกพาไปได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรขวดแก้วแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในไทย ที่ไม่มีสารกันบูด เนื่องจากใช้นวัตกรรมการผลิตมาตรฐานสูงเช่นเดียวกับญี่ปุ่น, อังกฤษ และสหภาพยุโรป โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกคือ “คิวมินซี ขมิ้นชันสกัดเข้มข้น” และต่อด้วย “คิวมินซี น้ำผึ้งมานูก้าผสมคอลลาเจน” ที่ใช้วัตถุดิบทั้งขมิ้นชัน และน้ำผึ้งมานูก้าที่ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ด อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
ดังนั้นเมื่อเรามีความคิดอยากทำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เราเห็นว่าเทรนด์สมุนไพร ทั้งในไทย และตลาดโลก เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเกิด COVID-19 เช่น ขมิ้นชัน, ขิง เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และมีงานวิจัยสรรพคุณมากมาย
เราจึงพัฒนาเครื่องดื่มคิวมินซี เป็น Natural Functional Drink ที่ใช้วัตถุดิบจากสมุนไพร ปลอดภัย ปริมาณวัตถุดิบที่ใส่เข้าไป ใส่จริงตามที่ระบุไว้ ไม่ Over Claim และไม่ใส่สารกันบูด เพราะอยากให้คนไทยมองสมุนไพรในมุมมองใหม่ว่า สามารถเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่าย ได้ประโยชน์ทุกวัน ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องปรุงรส หรือวัตถุดิบในครัวเพื่อประกอบอาหาร แต่ยังเสริมภูมิคุ้มกันให้กับสุขภาพได้ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยสุขภาพที่ดีไว้ก่อน” คุณฐานธิษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาของแบรนด์คิวมินซี
ต่อยอดสู่ “ขิง – กระชายขาว” 2 สมุนไพรยอดฮิต
หลังจากแนะนำเครื่องดื่มขมิ้นชันสกัดเข้มข้น และเครื่องดื่มน้ำผึ้งมานูก้าผสมคอลลาเจนสู่ตลาดแล้ว ในปีนี้ทางแบรนด์ “คิวมินซี” ก็ได้ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่คือ
1. คิวมินซี เครื่องดื่มขิงสกัดเข้มข้นผสมน้ำผึ้ง (Ginger with Honey) เป็นครั้งแรกของไทยกับเครื่องดื่มขิงสกัดที่มาในรูปแบบขวดพร้อมดื่ม และ “ขิง” ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่ง Superfood สมุนไพรระดับสากลที่มีงานวิจัยเผยแพร่อย่างกว้างขวางถึงสรรพคุณ ทั้งเบต้ากลูแคน ช่วยด้านภูมิคุ้มกันร่างกาย และป้องกันการติดเชื้อจากจุลชีพต่างๆ จึงได้รับการยอมรับด้านฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยใน 1 ขวดประกอบด้วย
– ปริมาณขิงออร์แกนิกสกัด 1,000 มก. นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ผ่านมาตรฐาน USDA (การรับรองอาหารและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา)
– เบต้ากลูแคน 100 มก.
– วิตามิน C, D, E และซิงค์
– รสหวานตามธรรมชาติของน้ำผึ้ง
“นอกจากขมิ้นชันแล้ว พระเอกอีกตัวหนึ่ง คือ ขิง เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คนไทย และคนต่างชาติรู้จักสรรพคุณเป็นอย่างดี ถึงกับนิยามว่าเป็น Magical Herb ทำให้ที่ผ่านมาตลาดขิงมีอัตราการเติบโตสูง โดยในปี 2020 มูลค่าตลาดขิงอยู่ที่ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่าภายในปี 2027 จะโตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว อยู่ที่ประมาณกว่า 60,000 – 70,000 ล้านดออลลารสหรัฐ
เรามองว่าในไทย ยังไม่มีเครื่องดื่มขิงในรูปแบบ Ready to Drink และเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับสภาวะแวดล้อมประเทศไทย จึงได้พัฒนาคิวมินซี เครื่องดื่มขิงสกัดเข้มข้นผสมน้ำผึ้ง”
2. คิวมินซี กระชายขาวสกัดเข้มข้นผสมน้ำผึ้ง (Finger Root with Honey) กระชายขาวเป็นสมุนไพรที่มีผลวิจัยจากหลายสถาบันว่าสารพิโนสโตรบิน (Pinostrobin) ช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด ทำให้เป็นสมุนไพรที่มาแรงในช่วง COVID-19 โดยใน 1 ขวดประกอบด้วย
– กระชายขาวสกัด 1,000 มก. ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดตามที่ได้รับอนุญาตของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
– เบต้ากลูแคน
– วิตามิน C, D, A และซิงค์
แจ้งเกิดด้วยพลัง “ปากต่อปาก”
หลังจาก “คิวมินซี” ทำตลาดมาได้กว่า 1 ปี ถือว่าเป็น Natural Functional Drink ที่แตกต่างและโดดเด่นในตลาด Functional Drink ในไทย โดยหัวใจสำคัญที่ทำให้ “คิวมินซี” แจ้งเกิดได้เร็ว คุณฐานธิษณ์ เล่าว่า หัวใจสำคัญมาจาก “คุณภาพและรสชาติ” ของสินค้า เมื่อผู้บริโภคทดลองดื่มแล้ว ชื่นชอบ นำมาสู่การซื้อซ้ำ โดยมียอด Repeat Purchase สูงมาก และเกิดการบอกเล่าแบบปากต่อปาก ทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
“เราวางจำหน่าย “คิวมินซี ขิงสกัดเข้มข้นผสมน้ำผึ้ง” และ คิวมินซี กระชายขาวสกัดเข้มข้นผสมน้ำผึ้ง” ทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเยอะมาก เพราะทั้งขิง และกระชายขาว ผู้บริโภครับรู้ถึงสรรพคุณดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะขิง ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น จึงช่วยขยายฐานตลาดคิวมินซีให้ใหญ่ขึ้น”
เมื่อแบรนด์ takeoff ได้สำเร็จ สเต็ปต่อมา จึงต้องเร่งสร้างการรับรู้ในวงกว้างขึ้น และขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ “คิวมินซี” ได้เปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ของแบรนด์ คือ “ต้าน ก่อนเกินต้าน” พร้อมทั้งหนังโฆษณาใหม่ที่ได้ “ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
เพื่อตอกย้ำ “จุดแข็ง” ของคิวมินซี เป็นแบรนด์เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่ดื่มง่ายในทุกวัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันและเตรียมร่างกายให้พร้อม สื่อสาร 360 องศา ผ่านสื่อครบทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Facebook, Google, YouTube และออฟไลน์ เช่น สื่อนอกบ้าน, ทีวี, วิทยุ
กระจายครบทุกช่องทางการขาย พร้อมโกอินเตอร์ตลาดต่างประเทศ
นอกจากสินค้าคุณภาพดี ตอบโจทย์ผู้บริโภค การสื่อสารครบวงจรแล้ว อีกแรงขับเคลื่อนแบรนด์ “คิวมินซี” ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วถึง คือ Distributor การกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ
ปัจจุบัน “คิวมินซี” กระจายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทางการขาย ทั้ง Modern Trade เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต, Traditional Trade หรือร้านค้าปลีกดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ตามชุมชนทั่วประเทศ, ช่องทางค้าส่ง และช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง Lazada, Shopee และแพลตฟอร์มของคิวมินซีเอง
โดยพบว่าพฤติกรรมการช้อปของผู้บริโภคแต่ละช่องทางนั้น แตกต่างกัน ถ้าร้านสะดวกซื้อ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อแบบ Grab & Go ขณะที่ช่องทางออนไลน์ ผู้บริโภคนิยมสั่งซื้อเป็นลัง
อย่างในช่วง COVID-19 ที่คนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้าน “คิวมินซี” สามารถรักษาการเติบโตของยอดขายได้ต่อเนื่อง โดยมีผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าเป็นลังผ่านช่องทางออนไลน์ สำหรับแช่เก็บไว้ในตู้เย็นที่บ้าน ยิ่งในช่วงเทศกาล Sale ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ยอดสั่งซื้อเป็นลังจะเข้ามาจำนวนมาก
ไม่เพียงแต่ตลาดในประเทศที่ให้การตอบรับเท่านั้น ขณะเดียวกัน “คิวมินซี” ยังได้รับความสนใจจากตลาดต่างประเทศอีกด้วย เพราะด้วยคุณภาพสินค้า รสชาติ และการสื่อสารแบรนด์ ทำให้ขณะนี้มียอดสั่งซื้อทั้งจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน, จีน, เกาหลีใต้ และในแถบอาเซียน เช่น กัมพูชา, สปป.ลาว รวมทั้งกำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับตลาดตะวันออกกลาง
“การแข่งขันในตลาด Functional Drink เป็น Red Ocean แต่เรามองว่ายิ่งมีการแข่งขัน ยิ่งทำให้เราพัฒนาตัวเองมากขึ้น ช่วยกันสร้างตลาดให้ใหญ่ขึ้น มูลค่าตลาดใหญ่ขึ้นไปอีก นี่เป็นข้อดีของตลาด Red Ocean
ในอนาคตเราตั้งเป้าอยากให้คิวมินซี เป็นแบรนด์เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นอันดับแรก ตอบโจทย์ทั้งรสชาติ ดื่มง่าย ดื่มได้ทุกวัน ได้คุณประโยชน์ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับสุขภาพของคนไทยทุกคน” คุณฐานธิษณ์ สรุปทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของคิวมินซี